สังคม

“บิ๊กโจ๊ก” ฟ้องหมิ่น ผบ.ตร. โยงกรณีลักข้อสอบจุฬาฯ ทำเสียชื่อเสียง ยันไม่เกี่ยวข้อง

1 ต.ค. 2568

140 views

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่นฟ้อง ผบ.ตร. ข้อหาหมิ่นประมาท โยงกรณีลักข้อสอบจุฬาฯ ทำเสียชื่อเสียง ยันไม่เคยกระทำการดังกล่าว ชี้ผู้ก่อเหตุถูกสั่งฟ้อง-สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว

วันนี้ (1 ต.ค. 2568) ที่ศาลปกครองจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปยื่นฟ้อง พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ “บิ๊กต่าย” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในความผิดฐานหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีการเผยแพร่ข้อมูลที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับการลักข้อสอบคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตนเองไม่เคยถูกแจ้งข้อกล่าวหา หรือถูกดำเนินคดีอาญาในเรื่องดังกล่าว แต่กลับถูกนำชื่อไปเกี่ยวโยงกับคดีทุจริตข้อสอบของจุฬาฯ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งแม้จะไม่ระบุชื่อชัดเจน แต่ก็มีลักษณะพาดพิง ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นตนเอง ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง เกียรติยศ และภาพลักษณ์ จนนำมาสู่การยื่นฟ้องในครั้งนี้

กรณีดังกล่าวมีต้นเหตุจากเมื่อเดือนเมษายน 2568 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) ได้รับหนังสือร้องทุกข์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตข้อสอบ คณะนิติศาสตร์ (ภาคค่ำ) โดยพบว่ามีการนำข้อสอบออกไปจากห้องสอบ และจัดทำเฉลยก่อนนำกลับมาให้ผู้เข้าสอบ

ต่อมา คณะพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 1 คน และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าร่วมกันนำเอกสารของผู้อื่นไปโดยประการที่อาจเกิดความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 โดยเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2568 บก.สอท.1 ได้ส่งสำนวนคดีพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้พนักงานอัยการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจนถึงปัจจุบัน การสอบสวนได้เสร็จสิ้นลงแล้ว

ทั้งนี้ ในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0038/1397 ลงวันที่ 8 เม.ย. 2568 และคำสั่งที่ 0039/1493 ลงวันที่ 11 เม.ย. 2568 ระบุว่า จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ พบข้อมูลสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการแบ่งหน้าที่กันทำงานในการทุจริตข้อสอบ โดยบางช่วงมีข้อความที่เชื่อมโยงกับชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งเอกสารดังกล่าวยังระบุถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พ.ต.ท. ชานนนท์ อ่วมทร, ร.ต.อ. ชัชวาล กุลกำลัง และ ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ หวัดแวว ซึ่งมีบทบาทในการจัดเตรียมข้อสอบ เฉลยคำตอบ และนำส่งข้อสอบกลับคืน พร้อมทั้งพบธุรกรรมทางการเงินที่โยงกับบัญชีของ พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ และผู้ร่วมขบวนการ

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และไม่เคยถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว แต่กลับถูกกล่าวถึงในเชิงพาดพิงอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ผมมายื่นฟ้อง ผบ.ตร.ในคดีอาญา 2 ฐานความผิด คือหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพราะการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเรื่องคดีลักข้อสอบ แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรง แต่สำนวนและการให้ข่าวชัดเจนว่าพาดพิงถึงตนเอง ส่งผลให้สังคมเข้าใจผิด กระทบต่อชื่อเสียงและเกียรติยศส่วนตัว จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ทางกฎหมายปกป้องตนเอง ดังนั้นการถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ทั้งที่ตนเองพ้นจากราชการไปแล้ว เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบธรรม และทำให้ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นผู้ต้องหาทุจริตข้อสอบ ทั้งที่ความจริงไม่เคยถูกดำเนินคดีหรือฟ้องร้องในชั้นพนักงานสอบสวน



คุณอาจสนใจ

Related News