สังคม

คุณตาวัย 71 ถูกมิจฉาชีพหลอก พาตระเวนถอนเงิน ธ.ผิดสังเกต อายัดบัญชีทัน เกือบสูญ 10 ล้าน

19 ก.ย. 2568

530 views

เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 18 กันยายน 2568 พ.ต.ท.เอกภพ สกุลสยมภู สว.สส.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เข้าตรวจสอบชายต้องสงสัยว่าอาจเป็นพวกมิจฉาชีพ หลังได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย สาขา ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าได้ทำการควบคุมชายต้องสงสัยที่มีพฤติกรรมเหมือนพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือมิจฉาชีพที่กำลังพยายามหลอกเอาเงินในบัญชีธนาคารของคุณตาวัย 71 ปี ที่มีกว่า 10 ล้านบาท ทราบชื่อต่อมาคือคุณตาสมัคร อายุ 71 ปี ชาวอำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมิจฉาชีพคนดังกล่าวทราบชื่อคือนายโต หรือ นายสุทัศน์ อายุ 57 ปี เป็นชาวบ้านในจังหวัดศรีสะเกษ มีพฤติกรรมหลอกพา คุณตาไปยังธนาคารกรุงไทยสาขาท่าตะเกียบ เพื่อขอสมุดบัญชีธนาคารใหม่ โดยอ้างว่าสมุดบัญชีเล่มเก่าหาย ทางธนาคารจึงได้ออกสมุดบัญชีธนาคารให้ใหม่


จากนั้นนายโต (นามสมมุติ) มีความพยายามที่จะถอนเงินสดออกจากธนาคาร แต่ด้วยเงินที่มีจำนานมาก ทำให้ธนาคารไม่มีเงินสำรองมากมายขนาดนั้น


นายโตจึงได้พาคุณตาสมัคร ขึ้นรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 กย 68 ) แต่ด้วยระยะเวลาที่เดินทางกว่าจะมาถึงก็เริ่มมืด นายโตจึงได้พาคุณตาสมัครไปนอนพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองฉะเชิงเทรา จนกระทั่งวันนี้ได้เดินทางไปถอนเงินที่ธนาคารกรุงไทย สาขาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยได้เงินมาจำนวน 300,000 บาท ก่อนที่จะพาคุณตามาถอนเงินที่ธนาคารกรุงไทย สาขา ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยได้เงินมาอีก 700,000 บาท แต่ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารก่อนหน้านี้เริ่มเห็นความผิดปกติ จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยตรวจสอบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมา ก็พบเพียงคุณตาสมัคร ที่ยังยืนหมุนไปหมุนมาด้านหน้าของศาลากลาง ส่วนนายโต(นามสมมุติ) ที่มาด้วยกันได้หอบเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ของคุณตากำลังเดินไปที่รถ ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารและ เจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดได้พยายามติดตามค้นหา จนพบตัวที่รถ จึงได้รีบประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ให้เข้ามาทำการตรวจสอบ


จากการสอบถามคุณตาสมัคร ให้การว่าตนเองมาถอนเงินให้หลาน แต่พอถามไปถามมา คุณตาสมัครเริ่มพูดจาสับสน บอกแต่เพียงว่านายโตที่มาด้วยกัน ไม่ใช้ญาติกัน แค่เป็นคนที่พึ่งรู้จัก และเมื่อสอบถามนายโตได้แต่บอกว่ามาเป็นเพื่อนคุณตาสมัคร เพราะคุณตาสมัครชวนมา แต่จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เงินสด 700,000 บาท ยังอยู่ภายในซองสีน้ำตาลของธนาคาร และเงินสดอีก 300,000 บาท ยังคงอยู่ในซองสีน้ำตาลของธนาคาร ที่ใส่ไว้ในถุงพลาสติกใส่หูหิ้วอีกชั้น โดยภายในถุงยังพบกระดาษที่เขียนระบุชื่อบุคคลอื่นอีก 3 - 4 คน พร้อมกับหมายเลขบัญชีธนาคาร และข้อความที่ระบุว่าต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารนั้นๆ บัญชีละ 990,000 บาท ทุกคน


นอกจากนี้ภายในกระเป่าสะพายของนายโตยังพบโทรศัพท์มือถืออีกจำนวนหลายเครื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือโทรศัพท์มือถือของคุณตาสมัคร ที่นายโตอ้างว่านำมาเก็บไว้ให้คุณตาสมัครเฉยๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่แน่ใจในพฤติกรรมที่เกิดขึ้น จึงได้ประสานญาติของคุณตาสมัครให้เดินทางมายัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่มีการจดบันทึกเอาไว้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวหรือไม่

จนกระทั่งเวลา 16.30 น.ของวันนี้ นายทรัพย์ทวี อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นลูกเขยของคุณตาสมัคร ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อมาติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า คุณตาน่าจะถูกพวกมิจฉาชีพลักพาตัวมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 ก.ย 68 ) โดยก่อนหน้านี้พ่อโทรศัพท์มาหาบอกว่ามีคนจะมาขอซื้อไม้ยูคาที่บ้าน โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ แล้วก็มีการพูดคุยกันอีกนิดหน่อย ซึ่งตอนนั้นตนเองก็รู้สึกแปลกๆ แต่ติดที่ว่าต้องทำงาน เพราะตนเองและภรรยาได้ย้ายมาพักอาศัยอยู่ที่อำเภอสนามชัยเขต จึงได้บอกภรรยาให้เข้าไปดูพ่อที่บ้านหน่อย แต่เมื่อไปถึงก็ไม่พบพ่อแล้ว จนมาทราบว่าพ่อมีการไปขอสมุดบัญชีใหม่จากธนาคาร เพราะเนื่องจากสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทยของพ่ออยู่กับภรรยาของตนเองเป็นคนเก็บรักษาไว้ เนื่องจากเงิน 10 ล้าน ในบัญชีของพ่อ เดิมทีเป็นของแม่

แต่เมื่อแม่เสียชีวิตลง ภรรยาของตนจึงได้ทำเรื่องย้ายชื่อมาเป็นของพ่อได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว โดยที่ภรรยาของตนจะเป็นคนถือสมุดบัญชีไว้ให้พ่อ จนกระทั่งมาทราบเรื่องอีกทีก็พบว่ามีการไปขอสมุดบัญชีธนาคารใหม่ ก่อนจะตระเวนพาพ่อไปถอนเงินสดออกมาจากธนาคาร

ส่วนผู้ที่ร่วมขบวนการนี้จะมีกี่คน หรือรายชื่อที่ระบุเอาไว้ในเศษกระดาษที่จดไว้นั้น จะเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่อย่างไร ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ด้านเจ้าหน้าที่ธนาคารเผยว่าเป็นความโชดดีที่ครั้งนี้ตรวจพบความผิดปกติ และยังไม่สูญเงิน 10 ล้านบาทนี้ไป

เบื้องต้น พ.ต.ท.เอกภพ สกุลสยมภู สว.สส.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้คุมตัวนายโต(นามสมมุติ) เข้าไปสืบสวนในห้อง เพื่อหาความเชื่อมโยงรายชื่ออีก 3-4 คน ที่อยู่ในถุงกระดาษที่ พร้อมกับหมายเลขบัญชีธนาคาร ที่ต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารนั้นๆ บัญชีละ 990,000 บาท ว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RYde4ILoio8

คุณอาจสนใจ

Related News