สังคม

เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำสูงสุด 2,500 ลบ.ม./วินาที กรมชลฯ เตือน 11 จังหวัดเตรียมรับมือ

โดย JitrarutP

16 ก.ย. 2568

290 views

“เขื่อนเจ้าพระยา” เพิ่มการระบายน้ำ 2,000-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานแจ้งเตือน 11 จังหวัด ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เตรียมรับมือและเฝ้าระวังอย่างสถานการณ์น้ำใกล้ชิด

วันนี้ (16 กันยายน 2568) นายวรพจน์ เพชรนรชาติ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 7 ถึงผู้ว่าราชการ 11 จังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

จากการคาดการณ์ ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ที่ 2,200–2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และแม่น้ำสะแกกรังบริเวณสถานี Ct.19 จังหวัดอุทัยธานี รวมถึงลำน้ำสาขามีแนวโน้มอยู่ที่ 200–250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยกรมชลประทานได้แบ่งรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวม 400–420 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้

ทั้งนี้ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อนุญาตให้กรมชลประทานปรับเพิ่มปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจากเดิมไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบขั้นบันได เพื่อควบคุมการบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มศักยภาพและลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยหากไม่มีฝนตกเพิ่ม จะทยอยลดการระบายลงตามลำดับ

สำหรับข้อมูลปัจจุบัน (16 กันยายน 2568) สถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ วัดปริมาณน้ำได้ 2,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท มีระดับน้ำเหนือเขื่อน 17.19 เมตรรทก. ระดับน้ำท้ายเขื่อน 14.68 เมตรรทก. ต่ำกว่าตลิ่ง 1.66 เมตร และมีการระบายน้ำ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

อย่างไรก็ตาม หากปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นจนจำเป็นต้องระบายเกินกว่า 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานจะแจ้งเตือนให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ ได้ขอให้ 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการที่มีกิจกรรมในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย เช่น การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ตลอดจนประชาชนที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด




คุณอาจสนใจ

Related News