นายอำเภอจ่อแจ้งความ โดนอ้างชื่อตบทรัพย์พระ 1 แสน แลกไม่ตรวจสอบเงิน 20 ล้านที่หายไป

นายอำเภอบ้านค่าย ลั่นกลุ่มคนแอบอ้างตนและผู้ว่าฯ ระยอง เรียกเงินพระ 100,000 บาท แลกไม่ตรวจสอบเงิน 20 ล้านที่หายไป ขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นคดีตัวอย่างให้ทุกจังหวัด

เมื่อเวลา 13.00 น. นายวิจิตร พาพลงาม นายอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบ วัดห้วงหิน ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบปมประเด็นเงิน 20 ล้านบาทนั้นหายออกไปจากทางวัด ทางตนเองจึงลงพื้นที่เข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับทางเจ้าอาวาส ซึ่งอีกทั้งยังมีนักข่าวแอบอ้างว่ามาจากทางอำเภอบ้านค่ายและผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเรียกรับเงินจากพระจำนวน 100,000 บาท ซึ่งคิดว่ามีมูลความจริงอย่างแน่นอน แต่ทางเจ้าอาวาสนั้นขอบอกกับตนเองเป็นการส่วนตัว

จากเหตุการณ์นี้ หลังจากที่เข้ามาสอบถามทางวัดเรียบร้อย จะให้ทางเจ้าหน้าที่อำเภอบ้านค่ายตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.บ้านค่ายอย่างแน่นอน

เนื่องจากการกระทำดังกล่าวนั้นทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ทางอำเภอไม่มีทางที่จะให้ใครเรียกเงินจากทางวัดอย่างแน่นอนมีแต่เพียงทำหน้าที่ตรวจสอบดูแลความเรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นทั้งพระและประชาชน อย่างไรก็ตามหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

หลังจากที่ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดห้วงหินพูดคุยกับนายอำเภอและเจ้าอาวาสวัดห้วงหินแล้ว ทางนายอำเภอแจ้งว่าทางสำนักพุทธจังหวัดระยองได้เข้ามาตรวจสอบโดยเชิญคณะกรรมการจากทางวัดห้วงหินไปสอบสวนที่วัดบ้านค่าย แต่ปรากฏว่าเมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงทางวัด แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อสอบถามถึงเจ้าหน้าที่จากสำนักพุทธของจังหวัดระยองได้รับแจ้งว่าได้กลับไปหมดแล้ว แต่ผู้สื่อข่าวไปพบเจอรถตู้ของสำนักพุทธจังหวัดระยองจอดอยู่

ด้านนางสาวนายิกา ศิลารัตน์ ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า เธอเป็นตัวแทนของชาวบ้านในพื้นที่ ทุกคนไม่ได้อยากทราบว่าเงินเหลือเท่าไหร่ แต่ทุกคนแค่อยากรู้ว่าเงินนั้นจ่ายค่าใช้จ่ายอะไรไปบ้าง เพราะเงินตั้งเป็นเยอะ

หากคณะกรรมการที่ดูแลเงินของทางวัดชี้แจงได้ทุกคนก็โอเค และในส่วนเรื่องกระแสข่าวว่ามีกลุ่มนักข่าว 3 คนมาเรียกเงินกับทางวัดนั้น ข้อมูลข้อเท็จจริงก็ต้องถามทางท่านเจ้าอาวาสว่าจริงหรือไม่ แต่ชาวบ้านยืนยันว่ามีคนเห็นเข้ามาเรียกรับจริง แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของอำเภอมาเรียกเงินจากทางวัด ส่วนตัวเองนั้นมองว่ากรรมใครคนนั้นก็ต้องรับไป พอรู้ว่าวัดมีปัญหา ก็ตั้งตัวเป็นมิจฉาชีพรีดไถวัดกันซะแล้ว

ทางด้านผู้ที่มาถือศีล เปิดเผยว่า พวกเขาก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นมา เพราะมันทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่อย่างไรก็ตามใครจะทำอะไรก็ช่าง พวกเขาก็ยังจะมาวัดมาทำบุญกันเหมือนเดิม และไม่เคยเข้าไปยุ่งเรื่องอื่นเลยนอกจากการสวดมนต์ทำบุญ