สังคม

“แม่แตงโม-อ.ปานเทพ” หอบหลักฐานเพิ่ม ยื่น DSI เจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ต่อจำเลยหรือไม่

โดย JitrarutP

12 ก.ย. 2568

181 views

“แม่พนิดา” พร้อมด้วย อ.ปานเทพ หอบหลักฐานเพิ่ม ยื่น DSI เจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ต่อจำเลย “คดีแตงโม” หรือไม่ แม่เชื่อลึกๆ “แตงโม” ถูกสะกดวิญญาณอยู่ที่วัดค้างคาว ความหวังของแม่อยู่ที่พยานเอกสารทั้งหมด อยากรู้ว่าใครทำลูก

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 ก.ย. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วย นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน หรือคุณแม่แตงโม ได้เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสืบสวนเรื่องที่ 20/2568 นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อมอบพยานเอกสารเพิ่มเติมซึ่งได้รับจากศาลจังหวัดนนทบุรี ที่เกี่ยวข้องในคดีน้องแตงโม ยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อประกอบการดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม

โดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า สำหรับเอกสารที่นำมามอบให้กับคณะพนักงานสืบสวนในวันนี้ อาทิ เอกสารคดีหมายเลขดำที่ อ.789/2565 ศาลจังหวัดนนทบุรี ความอาญา ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ กับพวกรวม 6 คน, วัตถุพยานโจทก์-จำเลยอ้างส่ง จำนวน 14 ชิ้น, หนังสือนำส่งวัตถุพยาน สำเนารายงานผลการตรวจชันสูตรศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ คดีหมายเลขดำที่ อ.292/2566 จำนวน 1 ชิ้น เป็นต้น อย่างไรก็ดี เราได้ไปขอคัดสำเนาสำนวนพยานหลักฐานทั้งของโจทก์และจำเลย ซึ่งเป็นเอกสารคำให้การ โดยได้มีการคัดมาเกือบทั้งหมดตอนนี้ยังขาดเพียงแค่ 3 ชิ้น ทำให้คุณแม่ต้องไปขยายระยะเวลาการอุทธรณ์ สำหรับวัตถุพยานเป็นส่วนที่สำคัญที่เรานำมาให้ดีเอสไอ เช่น ทรัมไดร์ฟ และซีดีทั้งหมด ทั้งนี้ วัตถุพยานยังไม่ครบเพราะมีการชำรุดไประหว่างคดีความ โดยเฉพาะแผ่นซีดี เบื้องต้นทราบว่าน่าจะเป็นส่วนของกล้องวงจรปิดบริเวณบริษัทพูลพิพัฒน์ 1 จุด ส่วนที่เป็นเอกสารหายไป 2 ชิ้น แต่อยู่ระหว่างตามหา

นายปานเทพ เผยอีกว่า การดำเนินการของเราในตอนนี้ ยังคงอยู่ในกรอบเดิมตามที่คุณแม่ต้องการ ในส่วนที่เราดูคือเราดูในส่วนที่เจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือคนบนเรือหรือไม่ ถ้าประเด็นนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการช่วยเหลือจริง ก็แสดงว่าในการสู้กันที่ผ่านมามันมีการเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับจำเลยหรือไม่ จึงจะได้ใช้สิ่งที่ปรากฏนี้ไปตรวจสอบความถูกต้องว่ามันมีความครบถ้วนหรือไม่ ที่ผ่านมามีการซักค้านอย่างไร นำสืบอย่างไร และการนำสืบเป็นประโยชน์ต่อใครหรือไม่ จากนั้นจึงจะได้นำข้อเท็จจริงมาหารือกับคุณแม่แตงโม ก็จะมีประเด็นให้คุณแม่เลือกแล้วให้คุณแม่ตัดสินใจ แต่ระหว่างนี้ยังไม่หมดเวลาการอุทธรณ์ พยานหลักฐานที่เรายังได้ไม่ครบก็จะมีเวลาในการติดตามหา อย่างไรก็ตามทราบว่า ตอนนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างสืบสวนว่ามีกรณีของเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พยานหลักฐานเหล่านี้จะสามารถนำมาประกอบเป็นจิ๊กซอว์ให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น ถ้าหากดีเอสไอพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จริง หากเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง สำนวนการสืบสวนนี้ก็สามารถส่งไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ แต่ถ้าหากเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย สำนวนสืบสวนนี้ก็ไปยังสำนักงาน ป.ป.ท. ได้ แต่ถ้ามันเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มมาก ก็ต้องมีการพิสูจน์ให้ชัดเจน จึงเข้าใจว่ามันไม่จำเป็นต้องเป็นคดีพิเศษก็ได้ เพราะมันยังมีช่องทางที่เอสไอสามารถส่งสำนวนการสืบสวนไปยัง ป.ป.ช.

นายปานเทพ เผยต่อว่า การที่จะให้คุณแม่ไปบอกยกโทษให้ใครหรือไม่ติดใจใครคงไปพูดเช่นนั้นไม่ได้ แต่แม่ต้องการให้ความจริงมันปรากฏ เพราะความจริงมันจะนำไปสู่การแสวงหาข้อเท็จจริง หากเราสอบถามเรื่องของการยกโทษกันไม่ติดใจมันจะเป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า มันไม่สามารถใช้แสวงหาข้อเท็จจริงได้ นอกจากนี้ ตนอยากแก้ข่าวให้คุณแม่ด้วยว่า แม่ไม่ได้มาทำเพื่อเงิน แต่มันพิสูจน์แล้วว่าแม่ได้ใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะได้เอกสารพยานหลักฐานมามอบให้กับเรา และมอบให้กับคณะพนักงานสืบสวนดีเอสไอ ถ้าแม่คิดแค่เรื่องเงินคงไม่เดินหน้าถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาแม่เผชิญเรื่องดังกล่าวคนเดียวมาตลอด แม่อยู่ในฐานะที่น่าเห็นใจ จึงหวังว่าจะให้ความเป็นธรรมกับแม่ที่แสวงหาความเป็นธรรมแก่ลูกสาวด้วย ทั้งนี้ การตั้งข้อสงสัยอย่างเดียวมันไม่พอ เราจะต้องพิสูจน์ตามครรลองของกฎหมาย ถ้าเราสามารถนำสืบหาพยานหลักฐานได้มากกว่านี้มันก็สามารถมีโอกาสรื้อฟื้นคดีได้

ด้าน นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน หรือคุณแม่แตงโม กล่าวว่า วันนี้ตนเอาเอกสารพยานหลักฐานจากศาลมาให้คณะพนักงานสืบสวนดีเอสไอ แล้วถึงแม้ว่าตนจะยังได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากคนบนเรือ แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเดินหน้าในวันนี้ ตนยังคงคิดถึงลูกสาวทุกวัน จะเป็นโรคประสาทแล้ว เพราะคิดอะไรช้า ทำอะไรช้า ตอนยังพูดกับน้องทุกวัน เชื่อว่าน้องยังอยู่กับตน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังไม่เคยเห็นน้องโมมาหาเลย เพราะตนเชื่อว่าน้องโดนสะกดวิญญาณอยู่ที่วัดค้างคาว และอีกไม่กี่วันหลังจากนี้ก็จะเป็นวันเกิดของน้องโมแล้ว มีแพลนจะทำบุญให้ลูก แม้ว่าทุกปีจะทำอยู่แล้วก็ตาม แม้ใจหนึ่งก็เชื่อว่าน้องโมขึ้นสวรรค์เป็นนางฟ้าไปแล้ว อยู่สบายแล้วก็ตาม แต่ก็เชื่อในใจลึก ๆ ว่าดวงวิญญาณยังคงถูกสะกดจิตอยู่ที่วัดค้างคาว ส่วนเรื่องคดีที่จบไปไม่ได้มีความเคลือบแคลงใจอะไร ตนคงพูดว่าไม่ให้อภัย แต่ในวันที่ตนเดินลงมาจากศาลวันนั้นเรียกว่าพูดไม่ออก แม้ว่าจะคุยกับนักข่าวได้แต่ก็พูดอะไรไม่ออก อยากให้เราไปคิดเองว่าทำไมศาลสรุปเช่นนั้น ที่บอกว่ายังไม่ให้อภัยใครนั้นตนขอไม่ระบุดีกว่า ดังนั้น ความหวังของแม่ในตอนนี้ก็อยู่ที่พยานเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด อยากรู้ว่าใครทำลูกเรา แต่ถ้าหากมีการทำจริงทำเพราะเหตุผลใด

ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีแตงโม ระบุว่า คุณแม่ถือเป็นโจทก์ร่วมในคดี โดยได้มีการไปขอคัดเอกสารจากศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อนำมามอบให้กับพนักงานสืบสวน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ความคืบหน้าในสำนวนการสืบสวนเดินหน้ามาถึง 90% และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ต้นและพนักงานสืบสวนได้ไปส่งภาพถ่ายสำคัญ จำนวน 4 ภาพ เพื่อส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบว่าภาพดังกล่าวเหล่านั้นมีการแก้ไขดัดแปลงหรือทำอะไรกับภาพหรือไม่ โดยส่วนใหญ่เป็นภาพที่เราได้มาจากพยานบุคคลและภาคประชาชน รวมถึงคุณแม่เองด้วย ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อเราได้รับพยานหลักฐาน พยานเอกสาร และพยานวัตถุ พนักงานสืบสวนจะนำไปวิเคราะห์ทั้งหมด วิเคราะห์ร่วมกับเอกสารหลักฐานที่ได้จากหน่วยงานราชการอื่น เพื่อที่จะจะได้วิเคราะห์และเตรียมลงพื้นที่อีกครั้งในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ และหลังจากนั้นจะมีการประชุมคณะพนักงานสืบสวนเพื่อวิเคราะห์ว่าสุดท้ายแล้วข้อมูลที่ได้มานั้นมีการบิดเบือนจากข้อเท็จจริงอย่างไรหรือไม่ หรือมีคำให้การของพยานที่ให้การต่อศาลเป็นอย่างไรบ้าง

พ.ต.ต.ณฐพล ระบุอีกว่า สำหรับข้อมูลของการกู้โทรศัพท์ของคุณแตงโมคณะพนักงานสืบสวนได้มาบางส่วนแล้ว แต่เราก็ได้มีการส่งให้เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ดำเนินการตรวจซ้ำอีกครั้ง และที่ผ่านมาเราได้ข้อมูลจากการสอบปากคำพยานจำนวน 52 ปาก ข้อมูลทั้งหมดจะสามารถนำไปดูในเรื่องของข้อสงสัยเกี่ยวกับที่ตั้ง ส่วนเมื่อถามว่าในตอนนี้ดีเอสไอเจออะไรที่ผิดปกติจากข้อมูลที่ได้รับหรือไม่ ณ ตอนนี้ต้องขอสงวนไว้ก่อนเพื่อใช้ดำเนินการในส่วนถัดไป ส่วนกรณีว่าความคืบหน้าสืบสวนดำเนินการไปแล้ว 90% นั้น พบหรือว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าข่ายมาเกี่ยวข้อง ตนต้องขอเรียนว่าจากการสอบปากคำพยาน 52 ปากที่ผ่านมา เราได้มีการสรุปยอดคำให้การและเปรียบเทียบกับเอกสารจากหน่วยงาน คราวนี้จึงเหลือเพียงแค่ผลของนิติวิทยาศาสตร์ที่รอการพิสูจน์ภาพถ่ายที่เราได้นำส่งไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อได้ผลตรวจพิสูจน์แล้วจึงจะนำมาประกอบกับพยานให้การว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่อย่างไร มีการบิดเบือนพยานหลักฐานหรือไม่ 10% ที่เหลือจึงเป็นเรื่องที่ยังคงตกค้างมากกว่า

พ.ต.ต.ณฐพล ระบุอีกว่า สำหรับกลุ่มคนมีแนวโน้มว่าจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ต้องขอสงวนไว้ก่อน ถ้าหากคณะสืบสวนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งแน่นอนว่าเรามีความเห็นทางคดีอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ ที่ผ่านมาคณะพนักงานสืบสวนได้มีการลงเรือในพื้นที่เกิดเหตุจำนวนสองครั้ง นอกจากการลงเรือแล้วก็ยังมีเรื่องของการดูข้อมูลเกี่ยวกับภูมิศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์ ที่มีการลงพื้นที่เก็บข้อมูลบนบก และเราก็มีการสงสัยพยานบางอย่างจึงส่งภาพถ่าย ที่ขอได้จากภาคประชาชน ส่งไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ผลอย่างไรจะมาสรุปรวมอีกครั้ง ส่วนเรื่องการใช้เครื่องเลเซอร์ใต้น้ำก็จะเป็นส่วนที่นำไปใช้ประกอบกับการที่คุณแตงโมตกน้ำ ว่าคำให้การแต่ละส่วนของพยานมีการให้การสอดคล้องหรือขัดแย้งอย่างไรบ้างหรือไม่

พ.ต.ต.ณฐพล ระบุด้วยว่า สำหรับกระบวนการสืบสวนเราสามารถที่จะสรุปสำนวน หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องและมีผู้สนับสนุนก็สามารถสรุปสำนวนการสืบสวนส่งสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ แต่ถ้าไม่เจอเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง เราจะดำเนินการเพื่อรับเป็นคดีพิเศษและส่งสำนวนให้กับอัยการคดีพิเศษตามขั้นตอนได้ อย่างไรวันนี้ก็คงจะต้องมีการสอบปากคำคุณแม่เพิ่มเติมในประเด็นที่ส่งเอกสาร เข้าสู่สำนวนการสืบสวนไว้ก่อน

ในการจะสรุปสำนวนการสอบสวนอย่างไรขอให้เป็นความลับไว้ก่อน เพราะเรายังคงต้องสอบพยานที่จะเกี่ยวข้องอีกสักระยะหนึ่ง โดยพยานที่เราสอบปากคำไว้ก่อนหน้านี้ 52 ปาก ก็มีมีทั้งพยานที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ พยานเกี่ยวเนื่อง พยานที่ทำเรื่องนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม หลังการสอบสวนปากคำพยานเหล่านี้ ก็มีสิ่งที่น่าสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องในคดีอยู่ด้วย ยังคงไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นความลับในสำนวนซึ่งอาจไปกระทบกับคนอื่นได้

เมื่อถามว่าในการสืบสวนของดีเอสไอที่ที่ผ่านมาได้เคยมีการพูดคุยกับทางพนักงานสอบสวนในคดีหลักหรือไม่ โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 1 กับ ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยมีการให้ข้อมูลให้เอกสารที่เราขอไปจำนวนหนึ่งแล้ว ส่วนนี้ก็อยู่ในสำนวนการสืบสวนของเราแล้ว ส่วนจะเจออะไรผิดปกติหรือไม่นั้น ยังขอสงวนเก็บไว้ในส่วนของการสืบสวนก่อน แต่คำให้การของพยานที่ได้เอกสารมาจากศาลจังหวัดนนทบุรี ก็จะต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แม่แตงโม ,คดีแตงโม

คุณอาจสนใจ

Related News