สังคม

กรมอุทยานฯ สั่งปิดโซนสัตว์ป่าดุร้ายชั่วคราว คาด จนท.ประมาท ชี้เหตุสิงโตขย้ำเป็นสัญชาตญาณนักล่า

โดย JitrarutP

10 ก.ย. 2568

99 views

กรมอุทยานฯ สั่งปิดโซนสัตว์ป่าดุร้ายชั่วคราว หลัง “สิงโต” ก่อเหตุขย้ำเจ้าหน้าที่กลางสวนสัตว์ ตั้งข้อสังเกตเกิดจากความประมาท ชี้ เป็นสัญชาตญาณนักล่า เมื่อสัตว์ผู้ล่าอยู่ระยะตัวเต็มวัยมีสิ่งที่ผิดปกติหรือสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาในพื้นที่ สั่งจัดทำแผนความปลอดภัย ส่งให้กรมพิจารณา ภายใน 2 วัน

นายเฉลิม พุ่มไม้ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยว่าต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหลังการเข้าไปตรวจสอบภายในสวนสัตว์ว่า กรณีที่เกิดขึ้น ในส่วนนี้ ทางอธิบดีให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ รวมทั้งประเมินสถานการณ์ เบื้องต้นมีความเห็นว่า ทางสวนสัตว์ ต้องพักการให้บริการโซนจัดแสดงสัตว์ป่าดุร้ายระยะหนึ่ง และให้จัดทำแผน มาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเจ้าหน้าที่และสัตว์ส่งให้ทางกรมพิจารณา เมื่อได้พิจารณาแล้วก็จะพิจารณาเรื่องการดำเนินการในระยะต่อไป ส่วนกรอบระยะเวลาอยู่ที่ทางสวนสัตว์ว่าจะส่งให้เมื่อไหร่แต่เบื้องต้นขอให้ทางสวนสัตว์ส่งแผนทบทวนมาตรการให้ทางกรมภายในสองวัน

สำหรับกฎเหล็ก 23 ข้อของทางสวนสัตว์ ทางกรมได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วแต่เมื่อเกิดปัญหาจึงมองว่าต้องมาทบทวนกัน เช่น การมีแนวเขตป้องกันระหว่างตัวสัตว์ นักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ ซึ่งมาตรการที่มีอยู่แล้วกำหนดให้ตัวนักท่องเที่ยวห้ามลงจากรถอยู่แล้ว ซึ่งในเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการพิจารณาร่วมกัน เพราะจะต้องสร้างความปลอดภัย ให้กับเจ้าหน้าที่ กับ นักท่องเที่ยว ส่วนแนวระยะที่ปลอดภัยเดี๋ยวต้องให้เจ้าหน้าที่พิจารณาอีกครั้งว่าควรมีระยะเท่าไหร่ที่เหมาะสม

ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ลงจากรถนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะเดียวกันบริเวณโซนดังกล่าวก็ไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งอาจจะต้องมีการเพิ่มมาตรการดังกล่าวเข้าไป

กรณีที่ตั้งข้อสังเกตหนึ่งว่าเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่นั้น อันนี้อยู่ในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่เพราะหิวหรือความเป็นอยู่ไม่เหมาะสมหรือไม่นั้น นายเฉลิมบอกว่า เป็นเรื่องสัญชาตญาณสัตว์นักล่า สัตว์ผู้ล่าเมื่ออยู่ระยะตัวเต็มวัยมีสิ่งที่ผิดปกติหรือสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาในพื้นที่มันก็จะแสดงสัญชาตญาณของนักล่า

สำหรับแนวทาง หรือการตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุเกิดจากได้อย่างไร ก็ตั้งข้อสังเกตหนึ่งว่าเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่ที่คิดว่าตัวเองมีความคุ้นเคยกับตัวสิงโต เลยทำให้ลงรถด้วยความประมาท แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้สำหรับข้อควรระวังการดูแลสัตว์ผู้ล่า ไม่ควรหันหลัง ยิ่งคนที่ดูแลสิงโตเหล่านี้มานานยิ่งมีความคุ้นเคย หากหันหน้าให้สิงโต จะมีความปลอดภัยมากกว่านี้

สำหรับสวนสัตว์เปิดลักษณะนี้ทั่วประเทศไทย มีอยู่ห้าแห่งหลังจากนี้จะต้องมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบมาตรการ เพื่อทบทวนมาตรการความปลอดภัยสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวเจ้าหน้าที่ และ สัตว์ ปกติก็มีการลงพื้นที่มาตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้วทุกหนึ่งถึงสามเดือน

ทางด้านนายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาเปิดเผยว่า การรับสิงโตของสวนสัตว์ได้รับเข้ามาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ซึ่งขณะนี้สิงโตทั้งหมดมีอายุประมาณ 20 ปี โดยพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ที่เลี้ยงดูสิงโตบางส่วนและมีความชำนาญคุ้นชิน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากอุบัติเหตุหรือความประมาท ส่วนนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยส่วนตัวมองว่าสัตว์ป่าก็คือสัตว์ป่าและมีสัญชาติญาณเป็นสัตว์ป่าไม่ใช่เฉพาะสิงโตเท่านั้น จึงถือเป็นเรื่องปกติ

ส่วนประเด็นที่ขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่บัดดี้ อยู่ด้วยนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องตรวจสอบ เนื่องจากอยู่ในข้อกำหนดมาตรการการทำงานของสวนสัตว์ ซึ่งทางสวนสัตว์ก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะผู้เสียชีวิตลงจากรถไปให้อาหารหรือไม่นั้นไม่สามารถยืนยันได้ต้องสอบถามข้อมูลจากทางสวนสัตว์แต่เท่าที่ทราบบริเวณดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิดข้อมูลที่ได้ก็เป็นเพียงข้อมูลที่มาจากคำบอกเล่าเท่านั้น สำหรับเหตุจูงใจที่ทำให้ผู้เสียชีวิตเดินลงจากรถจะมาจากประเด็นอะไรนั้น ส่วนตัวยังไม่มีข้อมูล และอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบไม่พบอะไรที่ผิดปกติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการที่เจ้าหน้าที่เปิดประตูรถออกไปเท่านั้นซึ่งก็ถือเป็นความประมาทส่วนบุคคล

ขณะเดียวกัน กรมอุทยานยังได้เตรียมที่จะตรวจสอบสวนสัตว์ที่มีลักษณะ เป็นสวนสัตว์เปิดทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศเพื่อสำรวจมาตรการรักษาความปลอดภัยว่ามีความเข้มงวดหรือไม่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้

คุณอาจสนใจ

Related News