กระบะบรรทุกน้ำแหกโค้ง ชนเสาไฟฟ้าล้ม 25 ต้น เสียชีวิต 1 มูลค่าความเสียหายมหาศาล

รถกระบะบรรทุกน้ำแหกโค้ง ชนเสาไฟฟ้าล้ม 25 ต้น ยาว 1 กิโลเมตร ทับบ้านเรือนและร้านค้าไฟไหม้ได้รับความเสียหาย ทำไฟดับหลายอำเภอ คนขับเจ็บสาหัส คนนั่งมาด้วยเสียชีวิต 1 ราย มูลค่าความเสียหายมหาศาลนับ 20 ล้านบาท

วันนี้ (9 ก.ย.) เกิดเหตุระทึกบนถนนหนองฮ่อ ในพื้นที่ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อรถกระบะสีขาว ซึ่งเป็นรถส่งน้ำดื่มพุ่งชนเสาไฟฟ้า ห่างจากสถานีตำรวจภูธรช้างเผือกเพียง 300 เมตร ส่งผลให้เสาไฟฟ้าหักโค่นต่อเนื่องกันรวม 25 ต้น เป็นเสาไฟแรงสูงใหญ่ 25 ต้น 115 กิโลโวลต์ และที่เหลือเป็นเสาขนาดเล็ก เป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร

เสาไฟฟ้าล้มทับบ้านเรือนและร้านค้าพังเสียหายมากกว่า 10 หลัง รถยนต์ทั้งที่จอดอยู่และที่ขับผ่านไปมาเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 คัน ขณะที่สายไฟฟ้าที่ขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารใกล้จุดเกิดเหตุ วอดเกือบทั้งหลัง สร้างความแตกตื่นแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเสียงดังคล้ายระเบิดจนเข้าใจว่าเป็นแผ่นดินไหวหรือเหตุร้ายแรงคล้ายสงคราม

โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า รถกระบะคันดังกล่าวขับมาจากศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเสียหลักชนเสาไฟต้นแรกตรงทางโค้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรอยเบรกเป็นแนวยาว ซึ่งจะต้องสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป โชคดีที่ไม่มีประชาชนบริเวณนั้นได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ที่นั่งมาในรถกระบะคันดังกล่าว 2 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือปั๊มหัวใจคนที่นั่งมากับคนขับรถก่อนนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในที่สุด ส่วนคนขับอาการยังน่าเป็นห่วง

ทั้งนี้ ทราบภายหลังว่าผู้ที่นั่งข้างคนขับ และเป็นคนที่เสียชีวิต ชื่อนายบุญฤทธิ์ หรือ รถบัส เดอะวอยซ์ ซึ่งเคยเป็นผู้เข้าประกวดเดอะวอยซ์ ปี 2017 ด้วย

ดร.ทองสุข วงศ์โสภา ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองเชียงใหม่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในหลายอำเภอ นานประมาณ 15 นาที ทั้งอำเภอแม่ริม แม่โจ้ สันทราย ดอยสะเก็ด ตลอดจนในพื้นที่อำเภอเมือง ก่อนคืนกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ เนื่องจากเสาไฟฟ้าเกือบทั้งหมดนั้นเป็นสายไฟฟ้าแรงสูง 115 กิโลโวลต์ ที่นำกระแสไฟฟ้าจ่ายไปยังสถานีไฟฟ้าแม่ริม เพื่อช่วยลดแรงดันก่อนส่งเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนในหลายอำเภอ

การแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ได้เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าเก็บกู้ซากเสาไฟที่โค่นล้ม โดยเริ่มจากการตัดสายไฟที่ระโยงระยางเชื่อมต่อกันก่อนที่จะเคลื่อนย้ายเสาออกจากพื้นที่ เพื่อคืนผิวจราจรก่อนเป็นอันดับแรก คาดว่าจะใช้เวลาตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า จากนั้นจะเดินหน้าซ่อมระบบไฟฟ้าให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด

ทั้งนี้ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่น่าจะต่ำกว่า 20 ล้านบาท เพราะเฉพาะเสาไฟฟ้าก็ต้นละ 7 แสนบาท และความเสียหายอื่นอีกทั้งรถ และบ้านเรือนประชาชน