สังคม
ผู้ว่าฯ สระแก้ว เอาจริง ย้ายชาวกัมพูชา รุกล้ำ "บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว" ออกจากดินแดนไทย
7 ก.ย. 2568
128 views
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.68 คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุม ติดตามสถานการณ์ปัญหาความมั่นคงชายแดนในพื้นที่อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว (บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว , พ.อ.ปฏิวัติ เฟื่องประภัสสร์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา , พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ 12 กองกำลังบูรพา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงในที่ประชุมว่า ตนเองยังไม่เกษียณอายุราชการ เพียงแต่ต่อระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง รวมทั้งที่มีการนำเสนอข่าวว่าพื้นที่บ้านหนองจาน ไม่มีเอกสารสิทธิ์นั้น ไม่เป็นความจริง บ้านหนองจาน มีพื้นที่รวมกว่า 3,000 ไร่ โดยพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์คือพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียง ยืนยันว่าจะมีการออกเอกสารสิทธิ์ให้พื้นที่ดังกล่าว ทวงคืนพื้นที่เหล่านี้กลับมา เนื่องจากเป็นพื้นที่ทำกินและเป็นผืนแผ่นดินไทย
“ใครที่บอกว่าผมขายชาติ ลองคิดดูว่าขายหรือไม่ ถ้าผมทำอย่างนี้แล้ว ก็อยู่ที่ท่านจะใช้ดุลยพินิจ”
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวต่อว่า ตนเองได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ขอความร่วมมือดำเนินการย้ายราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ประท้วงกลับ เรามีจุดประสงค์ให้สังคมไทยรู้ว่า กองกำลังบูรพา แม่ทัพภาคที่ 1 เอาจริง ไม่ใช่ทำเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เราทำอย่างรอบคอบรัดกุมเป็นไปตามเงื่อนไขทวิภาคีและกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมกับตอบคำถามกับผู้สังเกตการณ์ได้
โดยขั้นตอนต่อไป ต้องรอผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ก.ย.นี้ เนื่องจากได้ชงเรื่องเขตแดนบ้านหนองจาน ไปยังสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ขอให้นำวาระเข้าไปพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา แม้จะมีการส่งหนังสือหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยไปแล้วก็ตาม โดยยืนยันว่า ได้วางแผนดำเนินการไว้ทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นได้ทำการติดป้ายประกาศขอให้ออกจากพื้นที่ หากไม่ปฏิบัติตามก็จะดำเนินการตามตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 รวมถึงพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ในเวลาที่เหมาะสม
ส่วนแนวคิดการสร้างรั้วบริเวณชายแดน 16 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 5 ก.ย.68 ที่ประชุม สมช.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างรั้วชายแดนในจุดที่มีความจำเป็นต้องสร้าง เพื่อป้องกันการขนยาเสพติด สินค้าหนีภาษี และการแสดงอาณาเขตของประเทศ
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการ ระบุว่า เรากังวลว่าจะมีการยกระดับไปสู่การปะทะ คณะกรรมาธิการจึงจำเป็นจะต้องรวบรวมข้อมูล เผื่อนำไปสู่การสนับสนุนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ค้านการสร้างรั้ว แต่อย่างไรจะต้องหามาตรการเพิ่มเติม หากมีการละเมิดอธิปไตยก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องอาณาเขตของประเทศไทย ฉะนั้นเรื่องเทคโนโลยีและกล้องเป็นสิ่งสำคัญ สอดคล้องกับฝ่ายทหารที่ต้องการ CCTV เพื่อเฝ้าระวังจุดที่มีความอ่อนไหว โดยประเด็นนี้คณะกรรมาธิการจะมีการพูดคุยกับ สมช.ต่อไป