สังคม
ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ที่กัมพูชา ให้ย้ายชาวเขมรรุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจาน
โดย chutikan_o
3 ก.ย. 2568
106 views
ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ จังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ให้ดำเนินการย้ายชาวกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว 170 ครัวเรือน ออกจากไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากไม่ย้ายจะดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2568 นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ลงนามหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา เรื่อง ขอความร่วมมือดำเนินการย้ายราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2568 ความว่า “พื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว มีราษฎรกัมพูชารุกล้ำเข้ามาปลูกสร้างบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของราชอาณาจักรไทยและเป็นพื้นที่นอกพื้นที่อ้างสิทธิ ตามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2543 (MOU43) ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยและกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย ในการนี้ ราชอาณาจักรไทยจึงต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำ ดังนี้
1. พื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว (หลักเขตที่ 46-47) จำนวนประมาณ 94 ไร่ โดยมีราษฎรกัมพูชามาปลูกสร้างบ้านเรือน รุกล้ำ จำนวนประมาณ 135 ครัวเรือน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้จึงป็นการละเมิดกฎหมายของราชอาณาจักรไทย ดังนี้ (1) การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54) และมาตรา 72 ตรี และ (2) การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81
2. พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว (หลักเขตที่ 42-43) จำนวนประมาณ 20 ไร่ โดยมีราษฎรกัมพูชามาปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำ จำนวนประมาณ 35 ครัวเรือน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงเป็นการละเมิดกฎหมายของราชอาณาจักรไทย ดังนี้ (1) การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตามพระราชบัญญัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี และ (2) การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81
จังหวัดสระแก้วจึงขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียนเมียนเจย ให้พิจารณาดำเนินการย้ายราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน และพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ออกไปนอกราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ดังกล่าว ยังไม่ย้ายออกจากพื้นที่ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (1) พระราชบัญญัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี (2) พระระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 และ (3) พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11 มาครา 62 และมาตรา 81 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามบันทึกผลการสำรวจร่วม ไทย-กัมพูชา ในการค้นหาสภาพและที่ตั้งของหลักเขตแดนที่ 46 และหลักเขตแดนที่ 47 เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2560 ผลการประชุมวิสามัญคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ระหว่างไทยและกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2568 และผลการหารือของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 แห่งราชอาณาจักรไทยและภูมิภาคทหารที่ 5 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2568 ณ จังหวัดสระแก้ว ราชอาณาจักรไทย”
ขณะที่ชายแดนบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ดร.ปนัดดา วงษ์ผู้ดี หรือ บุ๋ม ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกจิตอาสาศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เดินทางมาที่ชายแดนบ้านหนองจาน บริเวณจุดตรวจ จต.ส.40 ถนนศรีเพ็ญ ใกล้กับบริเวณพื้นที่่ที่่ชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทย โดย น.ส.ปนัดดา ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งพบปะกับกลุ่มชาวบ้านหนองจาน ซึ่งถูกชาวกัมพูชายึดครองที่ดินมานานกว่า 40 ปี ซึ่งนายธิติพัทธ์ เสมาทอง อดีตนายกเทศมนตรีและเจ้าของที่่ดินหนึ่งใน 52 ราย จำนวน 2,717 ไร่ ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเข้าทำกินในที่ดินของตนเอง รวมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ตชด. และกลุ่มคนไทยที่เดินทางมาเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อทวงคืนผืนแผ่นดินไทยด้วย
แท็กที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าฯ สระแก้ว ,ยื่นหนังสือ ,กัมพูชา ,ชายแดนไทยกัมพูชา ,บ้านหนองจาน