แพทยสภา แจ้งดำเนินคดีข้อหาหนัก “หมอปลอม” สวมรอยบัตร แอบอ้างวุฒิ

แพทยสภาแจ้งความดำเนินคดี สาวสร้างสตอรี “ปลอมเป็นหมอ” สวมรอยแอบอ้างใบประกอบเวชกรรม ชี้มีความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ - พรบ.วิชาชีพเวชกรรม พร้อมแนะประชาชนวิธีเช็กหมอจริง ด้านโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังยันไม่ใช่บุคลากร เตรียมแจ้งความดำเนินคดี

วันที่ 15 ส.ค.2568 พลอากาศเอกนายแพทย์ อิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ให้ข้อมูลว่าตามที่มีคนร้องเรียนว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กปลอมเป็นแพทย์ ทางแพทยสภาจึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าเป็นผู้หญิงรายหนึ่ง ที่แอบใช้เลขใบประกอบเวชกรรมของแพทย์ผู้ชายท่านหนึ่ง มาแอบอ้างว่าเป็นเลขใบประกอบเวชกรรมของตนเอง อีกทั้งยังพบว่ามีการใช้เอกสารทางราชการ ทั้ง MD การ์ด ที่เป็นเลขของผู้อื่น

นอกจากนั้นยังพบว่ามีการใช้เอกสารที่มาจากหน้าเว็บไซต์ตรวจสอบของแพทยสภา แต่มีการสร้างขึ้นมาใหม่ โดยใช้รูปของตัวเองไปใส่ในข้อมูลของแพทย์คนอื่น ถือว่ากระบวนการนี้ทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ และ พรบ.วิชาชีพเวชกรรม ล่าสุดทางแพทยสภาได้แจ้งความดำเนินคดีในทุกความผิดแล้ว

สำหรับโทษที่ผู้กระทำผิดจะได้รับนั้น ต้องบอกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่แพทยสภาเพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก ที่มีการปลอมเอกสารทางราชการ เพราะส่วนมากที่เจอจะเป็นการปลอมโดยการสื่อสาร หรือการพูดบอกคนอื่น แต่การเอาเอกสารทางราชการมาปลอม ปกติจะไม่ค่อยเห็นการปลอมมากเท่านี้

เพราะส่วนมากมักจะเกี่ยวโยงกับการรักษาพยาบาล เช่น หมอเถื่อนที่ไปจับตามคลินิก ปลอมเอกสารแล้วไปรักษาคนไข้ แต่ครั้งนี้เป็นการปลอมเอกสาร จะเป็นความผิดอีกกรณีหนึ่ง ถือว่าเป็นรายแรกที่มีสตอรี่ต่างๆ มากมาย แพทยสภาเพิ่งเจอกรณีแบบนี้เป็นครั้งแรก

ส่วนกรณีที่มีข้อมูลบอกบอกว่า ถึงแม้จะมีใบประกอบวิชาชีพ แต่ไม่ได้ลงทะเบียนในระบบ ก็จะหาชื่อในเว็บไซต์แพทยสภาไม่เจอนั้น ส่วนนี้ไม่เป็นความจริง เพราะแพทย์ทุกคนที่จบแพทย์และมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมอนุญาตในการรักษาพยาบาล จะมีรายชื่อขึ้นในเว็บไซต์แพทยสภาทุกราย ยกเว้นแพทย์ที่จบจากต่างประเทศ

นอกจากนั้น สำหรับการตรวจสอบบัตรของแพทย์นั้น หน่วยงานต่างๆ สามารถใช้แสง UV หรือแสง PL ส่องดูบัตรจะมีภาพสะท้อนเป็นเงาสามมิติขึ้นมา และมีข้อความแพทยสภา เป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับพาสปอร์ต

ดังนั้นก่อนจะเชื่อแพทย์คนใด หรือรักษากับแพทย์ท่านไหน เพื่อความสบายใจ ขอให้ตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภาได้โดยตรง ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก็รู้ข้อมูลทันทีว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่

ล่าสุด มีประกาศชี้แจง จากโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ ขอเรียนให้ทราบว่า จากกระแสข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ มีบุคคลแอบอ้างตนเป็นบุคลากรของโรงพยาบาล พร้อมใช้เอกสารหรือสัญลักษณ์ที่มีลักษณะคล้ายกับของโรงพยาบาลนั้น หลังการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ขอยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับโรงพยาบาลฯและอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย - เพื่อความมั่นใจ ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อและข้อแพทย์ของโรงพยาบาลได้ที่ www.bangkokhospital.com/chiangmai ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง