“ชาดา” ส่งตัวแทน-ฝ่ายกฎหมาย เยี่ยมครูถูกนักเรียน ม.5 รัวหมัดทำร้าย

“ชาดา” ส่งตัวแทน-ฝ่ายกฎหมาย ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจครูสาวถูกนักเรียน ม.5 รัวหมัดทำร้าย ขณะครูยืนยัน ไม่ได้ต่อว่า เชื่อเด็กฉุนขาด “ถูกตัดคะแนน” จึงก่อเหตุ

วันนี้ (11 ส.ค. 2568) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ดร.จิณณาวัฒน์ โคมบัว ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้เป็นตัวแทนลงพื้นที่ไปเยี่ยมคุณครูหญิงอายุ 33 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ นักเรียนชาย ม.5 ทำร้ายในห้องเรียน เนื่องจากยังติดภาระกิจที่อื่นไม่สามารถลงพื้นที่เยี่ยมเยียมครูสาวดังกล่าว เพื่อเยี่ยมเยียมสอบถามอาการ และได้ฝากให้กำลังใจให้ต่อสู้กับอุปสรรคดังกล่าวให้ได้ เพื่อให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว ส่วนฝ่ายกฎหมายที่ลงพื้นที่ไปด้วย ได้เข้าสอบถามเรื่องราวพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายต่อไป

อาการล่าสุด คุณครูยังมีอาการปวดหัว และวิงเวียน มึนงงอยู่ ส่วนซี่โครงเจ็บน้อยลงแล้ว ซึ่งอาจต้องไปตรวจแบบ ซีทีสแกนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนสภาพจิตใจยังหวาดผวา ไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยคุณครูได้เล่าผ่าน ดร.จิณณาวัฒน์ว่า วันที่เกิดเหตุครูกำลังตรวจข้อสอบ ที่นักเรียนในชั้นเพิ่งทำเสร็จ ขณะที่ตรวจเลยลำดับของนักเรียนที่ก่อเหตุไปแล้ว นักเรียนคนก่อเหตุมาถามครูว่าเขาได้กี่คะแนน ครูก็ตอบว่า ได้ 18 เขาถามว่าทำไม เขารู้ว่าเขาตอบถูกทุกข้อ ครูอธิบายว่าเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ในคำสั่งข้อสอบให้นักเรียนแสดงวิธีทำด้วย เลยหัก ไป 2 คะแนน ตามหลักเกณฑ์การให้คะแนน เด็กก็เดินกลับไปหลังห้อง สักพักก็ฉุนเฉียว ปรี่เข้ามาทำร้าย ทั้งต่อย ถีบไม่ยั้ง รวมทั้งต่อว่าครูหยาบคาย ยืนยันว่าครูไม่ได้ต่อว่า เพราะครูนั่งตรวจข้อสอบของนักเรียนรายอื่นๆ ซึ่งนักเรียนคนอื่นช่วยห้ามปรามกว่าจะสงบก็ถูกทำร้ายร่างกายสิบกว่าครั้ง

คุณครูเล่าอีกว่า เธอสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ มานับ 10 ปี ไม่เคยมีปัญหากับเด็กนักเรียนเลย ส่วนนักเรียนชายรายนี้เรียนตั้งแต่ ม.1 จนถึง ม.5 เป็นนักเรียนที่มุ่งมั่น ต้องการอยากได้คะแนนเต็มเป็นหลัก เรียนเก่ง เกรด 4 ทุกตัว และได้ที่ 1 ในระดับชั้น ม.5 ของโรงเรียน ซึ่งครูได้อธิบายว่า จริงๆ แล้วได้ 18 คะแนน ก็มีโอกาสได้เกรด 4 เหมือนกัน เป็นการสอบกลางภาค

ดร.จิณณาวัฒน์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ทราบก่อนหน้านี้ ผู้บริหารโรงเรียนเคยรับทราบว่าเด็กที่ก่อเหตุเคยมีปัญหาการใช้ความรุนแรง ตอนอยู่ชั้นประถม เคยก่อเหตุกับนักเรียนในระดับชั้นประถม และเคยทำร้ายพ่อ

ดร.จิณณาวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นเท่าที่ทราบผู้อำนวยการโรงเรียนหาทางออก ให้โอกาสนักเรียนที่ก่อเหตุเรียนออนไลน์ทุกวิชา และไม่ต้องเรียนกับครูที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ณ เวลานี้เด็กคงไม่ได้กลับมาโรงเรียนแล้ว

ส่วนค่าเยียวยาแยกเป็น 2 ส่วน คือ การเยียวยาจากหน่วยงานของจังหวัด และการแจ้งเอาผิดในคดี ซึ่งครูได้ไปแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ซึ่งตำรวจได้ตั้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ