สังคม

สภ.ประจวบฯ โต้ข่าวสายลับเขมรบินโดรน เผยกองบิน 5 นำตัวแจ้งข้อหาบุกรุก ไม่พบเรื่องบินโดรน

โดย JitrarutP

4 ส.ค. 2568

179 views

กรณีตำรวจจับสายลับเขมร ลักลอบเข้าไทยที่ ต.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยมีโดรนและ GPS เป้าหมายคือ กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุด ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงว่า กองบิน 5 นำตัวชาวกัมพูชา นำส่งดำเนินคดีข้อหาบุกรุก ไม่มีการตรวจยึดโดรนได้ จากการสอบสวนพบว่าเป็นคนที่เดินเข้าไปในกองบิน 5 ไม่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับเรื่องบินโดรน

จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้จับกุมสายลับกัมพูชา ชื่อ นายเร พร้อมด้วยโดรนและอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ลักลอบเข้ามาบริเวณด่านบ้านแหลม ต.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เป้าหมายคือ กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรีได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเนื้อหาดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนในหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อำเภอโป่งน้ำร้อนไม่ได้มีพื้นที่ติดชายทะเล อีกทั้ง ไทม์ไลน์การเดินทางของผู้ต้องสงสัยไม่สอดคล้องกับระยะทางและเหตุการณ์ที่กล่าวอ้าง นอกจากนี้ ภาพโดรนที่ปรากฏในข่าว ยังได้รับการยืนยันว่าเป็น ภาพจากการจับกุมในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ไม่ใช่จังหวัดจันทบุรี แต่อย่างใด

ขณะที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงว่า กองบิน 5 นำตัวชาวกัมพูชา นำส่งดำเนินคดีข้อหาบุกรุก ไม่มีการตรวจยึดโดรนได้ และจากการสอบสวนพบว่าเป็นคนที่เดินเข้าไปในกองบิน 5 ไม่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับเรื่องบินโดรน

โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าชายรายดังกล่าวชื่อ นายเร เป็นชาวกัมพูชาจริง แต่ทำงานเป็น ลูกเรือประมง ที่เข้าเทียบท่าบริเวณสะพานปลาอ่าวน้อย ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 2 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบว่าชายคนนี้เดินเข้ามาภายในเขตพื้นที่กองบิน 5 จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน

จากการสอบปากคำเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ระบุว่า นายเรมีอาการพูดจาวกวน ไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ ลักษณะคล้ายคนสติไม่ดี ไม่มีอาวุธ และไม่มีโดรน รวมถึงไม่มีพฤติกรรมที่บ่งชี้ถึงการเป็นสายลับ

ต่อมา มีหน่วยงานด้านความมั่นคงหลายแห่ง ได้แก่ สันติบาล, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก และสำนักงานแรงงาน เข้าตรวจสอบร่วมกัน ก่อนส่งตัวให้อยู่ในความดูแลของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่า ภาพโดรนที่เผยแพร่ในข่าวออนไลน์ไม่เกี่ยวข้องกับชายชาวกัมพูชารายนี้ โดยคาดว่าเป็นภาพจากกรณีอื่น และอาจถูกนำมาใช้ประกอบข่าวโดยไม่ตรวจสอบแหล่งที่มา ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด และตื่นตระหนกโดยไม่จำเป็น

แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า กองทัพอากาศจะเป็นผู้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม กรณีสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ทาง กองบิน 5 ประกาศยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นการชั่วคราว ดังนี้

1. งดการให้บริการแหล่งท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ยุทธการ ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก พิพิธภัณฑ์และอุทยานประวัติศาสตร์

2. เข้มงวดการเข้าและออกพื้นที่กองบิน5

3. ห้ามทำการบินอากาศยานไร้คนขับในรัศมี 9 กิโลเมตรรอบเขตสนามบินโดยเด็ดขาด แจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิด ติดต่อ กองร้อยสารวัตรทหารกองบิน 5 โทร. 032-611017 ต่อ 60191

ทางด้าน พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่มีการระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชาวกัมพูชาพร้อมโดรนที่บินเหนือกองบิน 5 ได้นั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 ทางเจ้าหน้าที่กองบิน 5 ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบเห็นโดรนบินเหนือพื้นที่ จึงออกตรวจสอบทันที แต่ ไม่พบโดรนหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง พบเพียงชายชาวกัมพูชาคนหนึ่ง เดินเข้ามาในพื้นที่เขตกองบินในช่วงกลางดึก

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไว้สอบสวน ก่อนจะส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีในข้อหา บุกรุกพื้นที่ทางราชการ

“จากการตรวจสอบ ไม่พบว่ามีของกลางเป็นโดรน หรือกล่อง GPS ตามที่บางสื่อรายงาน และไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าชายคนนี้มีพฤติกรรมก่อกวนหรือเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารแต่อย่างใด” พ.ต.อ.ไพทูลกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนง ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับพื้นที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงก่อนนำเสนอข่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกในสังคม

“ภาพโดรนที่เผยแพร่ในข่าวออนไลน์ ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ และอาจเป็นภาพจากเหตุการณ์อื่นที่ถูกนำมาประกอบกันโดยไม่มีการตรวจสอบ” ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ กล่าวเพิ่มเติม

แท็กที่เกี่ยวข้อง  สายลับเขมร

คุณอาจสนใจ

Related News