หนุ่มซุกยาบ้าขี่รถข้ามจังหวัด เจอตำรวจกลัวถูกจับ กระโดดลงคลองหนี ทั้งที่ว่ายน้ำไม่เป็น กู้ภัยช่วยวุ่น

หนุ่มสิงห์บุรีบึ่งรถหนีตำรวจ ตัดสินใจทิ้งรถโดดสะพาน หมดแรงลอยคอเคว้งคว้าง ตำรวจ-กู้ภัยเร่งช่วยวุ่น สารภาพหลอนยา กลัวความผิดทิ้งกระเป๋าของกลางลงคลองทั้งที่ว่ายน้ำไม่เป็น กลัวตำรวจมากกว่ากลัวตาย

วันที่ 12 ก.ค.2568 ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองลพบุรี ได้ออกตรวจพื้นที่เชิงสะพานชลประทานที่ 6 หมู่ที่ 3 ต.ทะเลชุบศร พบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงเรียกหยุดเพื่อตรวจสอบหลักฐาน ในขณะที่ทำท่าชะลอรถ ก่อนที่ตำรวจสายตรวจะถึงตัว ชายคนดังกล่าวได้ขับหลบหนี ซึ่งตำรวจสายตรวจอีกสายได้สกัด และสามารถหยุดไว้ได้ที่เชิงสะพาน

จู่ๆ ชายคนดังกล่าวได้ทิ้งรถ กระเป๋าเสื้อผ้า ก่อนปีนราวสะพานโดดดิ่งลงคลองชัยนาท-ป่าสัก ที่มีน้ำลึกไหลเชี่ยวจมหายไป ตำรวจต้องวิทยุแจ้งขอกำลังเสริม พร้อมประสานกู้ภัยฯ เร่งช่วยเหลือค้นหา

ตำรวจ กู้ภัยฯ นักประดาน้ำ ได้แบ่งกำลังกันค้นหา ผ่านไปประมาณ 15 ก็เจอบุคคลดังกล่าวลอยคอริมตลิ่งใต้สะพานในสภาพหมดเรี่ยวแรง จึงทำการช่วยเหลือ ชายคนดังกล่าวกลับพยายามจะหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงต้องใช้เครื่องพันธนาการ และนำขึ้นมาเพื่อทำการสอบสวน

ทราบชื่อ นายธนากร ในเบื้องต้นสารภาพเสพยาบ้ามา เมื่อเห็นตำรวจเกิดความกลัวจึงได้ตัดสินใจโดดสะพาน ซึ่งทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การเนื่องจากตำรวจพบว่านายธนากร มีกระเป๋าสีเทาคาดที่คอ ก่อนปล่อยลอยคลองไป ซึ่งน่าจะมีสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ประสานกู้ภัยฯ และประดาน้ำไล่ติดตามกระเป๋า จนในที่สุดก็พบกระเป๋าใบดังกล่าวลอยตามคลองมาประมาณ 3 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดกระเป๋าพบยาบ้าจำนวน 29 เม็ด ยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง เมื่อจำนนด้วยหลักฐานนายธนากร จึงยอมเปิดปากรับสารภาพของกลางที่พบเป็นของตนจริง และได้เสพยาบ้ามาจำนวน 6 เม็ด ก่อนออกเดินทางจากสิงห์บุรี เพื่อที่จะไปทำงานที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยใช้เส้นทางหลบเลี่ยงมาทางสายรองในพื้นที่ จ.ลพบุรี แต่ดวงซวยมาเจอตำรวจจนได้

ยอมรับว่าหลอนยา กลัวตำรวจมากกว่ากลัวตาย ทั้งที่ตนเองว่ายน้ำไม่เป็น หากโดดกลางสะพานคงตายไปแล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายธนากร ส่งพนักงานสอบวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป