สังคม
โวยผู้ใหญ่บ้านตัดปาล์มหมู่บ้านขายกว่า 7 ปี สูญกว่า 2.5 ล้านบาท ไม่ยอมแจงเงินหายไปไหน
โดย chutikan_o
8 ก.ค. 2568
2.3K views
โวยผู้ใหญ่บ้านตัดปาล์มหมู่บ้านขายกว่า 7 ปี เงินสูญกว่า 2.5 ล้าน ชาวบ้านทวงถามไร้คำตอบ ยื่นหนังสือให้หน่วยงานตรวจสอบเรื่องเงียบ ซ้ำได้ตำแหน่งสูงขึ้น ชาวบ้านโอดแค่อยากรู้เงินหายไปไหน
จากกรณีเมื่อหลายปีก่อน เนื่องจากระบบน้ำประปาหมู่บ้านชำรุดต้องการจัดซื้ออะไหล่ซ่อมแซมระบบน้ำและขอทำเบิกเงินกับผู้ใหญ่บ้านแต่ปรากฏว่าไม่มีเงิน ชาวบ้านจึงได้ทวงถามถึงรายรับจากการขายผลปาล์มน้ำมันบนที่ดินสาธารณะของหมู่บ้าน จำนวน 47 ไร่ เป็นเงินจนถึงปัจจุบันกว่า 2.5 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าไม่มีคำชี้แจงให้ชาวบ้านรับทราบแต่อย่างใด เมื่อทวงถามเรื่องเงินในที่ประชุมประจำเดือน ว่าขายผลปาล์มน้ำมันแต่ละรอบแต่ละเดือนขายได้เท่าไหร่ เหลือเงินเท่าไหร่ ก็ถูกบ่ายเบี่ยงตลอด ร้องเรียนหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องก็เงียบไม่มีความคืบหน้า จึงร้องผู้สื่อข่าวเพื่อเป็นสื่อกลางในการนำเสนอข่าวและตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พบกับนายธีรยุทธ อายุ 48 ปี ตัวแทนชาวบ้าน นำเอกสารหลักฐานเป็นภาพถ่ายมุมสูงสวนปาล์มน้ำมันพื้นที่สาธารณะที่มีปัญหาดังกล่าวให้ผู้สื่อข่าวดู หลังจากนั้น ได้ร่วมกับนายอรุณ อายุ 60 ปี และนายพรณรงค์ อายุ 46 ปี พาลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่เป็นปัญหา
สวนปาล์มน้ำมันดังกล่าวติดกับถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้าน โดยนายธีรยุทธและนายอรุณ ให้ข้อมูลว่า สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้จำนวน 2 แปลง แปลงที่ 1 มีเนื้อที่ 32 ไร่ ต้นปาล์มจำนวน 570 ต้น แปลงที่ 2 จำนวน 15 ไร่ ต้นปาล์มจำนวน 300 ต้น ทั้ง 2 แปลงเก็บผลปาล์มได้เฉลี่ยประมาณ 10 ตันต่อรอบ ส่วนอีก 2 แปลง เป็นปาล์มเล็กยังไม่มีลูกรวมที่ดินสาธารณะของหมู่บ้านมีทั้งหมดจำนวน 73 ไร่
ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวอีกว่า เนื่องด้วยหมู่ที่ 6 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีที่ดินสาธารณะ 73 ไร่ โดยมีผู้ใหญ่บ้าน คนปัจจุบันเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบ และเก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มไปใช้โดยไม่แจ้งรายรับและรายจ่าย ไม่มีการเปิดบัญชีและไม่เคยแจ้งอะไรให้ชาวบ้านได้รับรู้ผลผลิตในที่ดินสาธารณะนี้เลย และพอชาวบ้านสอบถามก็ปฏิเสธเรื่อยมา ตลอดตั้งแต่รับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านเป็นเวลา 7 ปี 6 เดือน คณะกรรมการหมู่บ้านก็เป็นชุดใหม่ก็ไม่สามารถให้คำตอบเรื่องนี้ได้ ผลผลิตในสวนปาล์มเฉลี่ยเดือนละประมาณ 30,000 บาทต่อเดือนเป็นตัวเลขขั้นต่ำ ปีละ 360,000 รวมเวลากว่า 7 ปี เป็นจำนวนเงินกว่า 2,520,000 บาทโดยประมาณ ถามว่าเงินจำนวนนี้หายไปไหน
เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยตรวจสอบ เพื่อหาข้อเท็จจริงและขอความเป็นธรรมในการทำงานให้โปร่งใสต่อชุมชน แต่เรื่องก็เงียบหายไปไม่คืบหน้า ไม่มีคำตอบให้ชาวบ้าน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2568 ตัวแทนชาวบ้านทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จังหวัดชุมพร และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพรแล้ว เพื่อขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบปาล์มน้ำมันหมู่บ้าน หมู่ 6 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร แต่ขณะเดียวกันผู้ใหญ่คนดังกล่าวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกำนันตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2568 ทำให้ชาวบ้านเกิดความเคลือบแคลงใจ
ในเวลาต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน จัดให้มีประชุมประจำเดือนหมู่บ้านโดยมี นายก อบต.สลุย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านจำนวนหนึ่งเข้าร่วมประชุมตามวาระแจ้งให้ชาวบ้านผู้ร่วมประชุมทราบความคืบหน้าของโครงการพัฒนาหมู่บ้านและเรื่องอื่นๆ แต่ครั้งนี้ชาวบ้านหวังว่าจะได้รับคำชี้แจงเรื่องรายได้จากผลผลิตจากการเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันกับผู้ใหย่บ้านคนดังกล่าว ปรากฏว่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อ้างว่าผู้ใหญ่บ้านซึ่งปัจจุบันเป็นกำนันแล้วนั้น ติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมประชุมหมู่บ้านครั้งนี้ได้ ทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านลงความเห็นว่าจะนัดกันอีกทีในวันที่ 8 เดือนหน้า ทำให้ชาวบ้านผิดหวังบ่นอุบ หลังรอมา 7 ปีกว่า จะต้องรอไปอีกเท่าไหร่
ขณะที่ทางด้านนายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางอำเภอท่าแซะได้รับการร้องเรียนเข้ามาแล้วและได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดมากนั้น แต่เรื่องนี้จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
แท็กที่เกี่ยวข้อง ผู้ใหญ่บ้าน ,ชุมพร ,ตัดปาล์มหมู่บ้านขาย