“จอนนี่ มือปราบ” แจ้งความกลับ 3 เจ้าหน้าที่ ข้อหาหมิ่นประมาท และ 157 เชื่อถูกกลั่นแกล้ง

“จอนนี่ มือปราบ” แจ้งความกลับ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และเจ้าหน้าที่ รวม 3 ราย ข้อหาหมิ่นประมาท และ 157 เชื่อถูกกลั่นแกล้ง พร้อมยินดีให้ตรวจสอบ ย้ำไม่เคยข่มขู่เจ้าหน้าที่ มีแต่ด่า

ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ จอนนี่ มือปราบ ได้โพสต์คลิปเผยแพร่บนเพจ “ตะลึงกรุง จอนนี่มือปราบ” หลังไปแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นายวัชระ โกเสนตอ นักวิชาการกรมฯ ที่ไปแจ้งความเจ้าตัวเมื่อเช้า และนางสาวจันที สมนา ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อำเภอสิรินธร ที่ สภ.พิบูลมังสาหาร ในข้อหาหมิ่นประมาท และข้อหา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติ และจะให้ทีมทนายฟ้องส่วนตัว ร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) อีก

นายจอนนี่ กล่าวว่า ยินดีให้ตรวจสอบเป็นอย่างยิ่ง หากพบว่าของตนเองผิด รื้อได้เลย แต่ต้องตรวจสอบรีสอร์ตที่ตั้งมาก่อนตนเอง ตรวจหมู่บ้านตรวจวัด และโรงเรียนด้วย

บางช่วงนายจอนนี่ อธิบายว่า ในปี 2511 มีการสร้างเขื่อนสิรินธรขึ้น และเสร็จในปี 2514 จากนั้นมีหน่วยงานกรมพัฒนาสังคม โดยมีผู้ปกครองดูแลหน่วยนี้ชื่อนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย สิรินธร อุบลราชธานี มาเขียนประกาศระวางที่ดิน เพื่อครอบคลุมที่ดิน ที่นาส่วนของชาวบ้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นชาวบ้าน เขาไม่ได้เดินทางมาออกเอกสารสิทธิ์ และการคมนาคมสัญจรไปมาลำบาก

บางช่วงนายจอนนี่กล่าวย้ำว่า ที่ดินที่ตนเองจัดตั้งรีสอร์ต ตนเองไม่โง่ เป็นนักกฎหมาย อยู่ในที่สว่าง รู้กฎหมายทุกอย่าง การจะเข้าไปซื้อต้องตรวจสอบ เพราะต้องต้องใช้เงินหลาย ล้านเพื่อไปซื้อ เป็นการซื้อ โดยมีชาวบ้านเป็นพยาน มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน มี อบต. มีหน่วยงานต่างๆ รองรับ และเป็นการซื้อขายตกทอด และก่อนที่ตนเองจะไปอยู่นั้น ก็มีรีสอร์ตเกิดขึ้นมาก่อนเป็นเกือบ 100 รีสอร์ต ซึ่งอยู่ในเอกสารสิทธิ์เดียวกัน

ที่อยากไปพัฒนาด้านการท่องเที่ยวอยากไปสร้างอาชีพสร้างรายได้ สร้างงานให้กับผู้คนในชุมชน จึงเกิดการลงทุน และได้ยื่นขอก่อสร้างกับ อบต.อย่างถูกต้อง ขอหม้อแปลงไฟฟ้า และยื่นเอกสารถูกต้องทุกอย่างในการดำเนินการก่อนที่จะสร้าง มีการรีเสิร์ชข้อมูลก่อนซื้อด้วยว่า ที่ดินนี้ถูกต้องหรือไม่ เอกสารในการซื้อขายของตนเองก็มีใบจับจอง ใบ ภ.ท.บ.5

ชาวบ้านร้องขอเอกสารสิทธิ์มานานแต่หน่วยงานของพวกคุณ เจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมืองบางคน ไม่เคยคิดจะช่วยเหลือชาวบ้านเลย แต่กลับไม่คิดหาทางออกให้กับชาวบ้าน เป็นตำแหน่งใหญ่สูงถึงอธิบดีกรม

และที่น่าตกใจ ที่ดินรีสอร์ทที่เยื้องกับคลองตง 20 เมตร กลับมีโฉนด จึงตั้งคำถามว่า ตกลงอยู่คนละประเทศหรืออย่างไร อยู่ประเทศโปรตุเกส หรือประเทศไทย ข้ามถนนนิดเดียวออกโฉนดได้ แต่ตนเองออกโฉนดไม่ได้

นายจอนนี่ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองโดนตรวจสอบเรื่องนี้ตั้งแต่ปีที่สร้างปี 63-64 มาร้องตอนนั้นมา อ้างว่ามีพลเมืองดีร้องเรียนมา ก็ถูกผู้ไม่ประสงค์ดีกลั่นแกล้ง และถูกตรวจสอบจากหน่วยงานต้นสังกัด จากส่วนต่างๆ จนเป็นผู้บริสุทธิ์ อยู่ถูกต้องตามสิทธิและกฎหมาย ลำเนาสิทธิ์ในการครอบครองได้

“วันนี้กูถูกพวกมึงหยามเกียรติ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีมึง กูไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น มาเจอกูได้เลย พร้อมให้ตรวจสอบ และมึง พวกมึง ที่จะลงมาจากกรุงเทพฯ กูพร้อมต้อนรับมึง” นายจอนนี่กล่าวและยืนยันว่ายินดีให้ตรวจสอบ และจะต่อสู้เพื่อชาวบ้าน เพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง พร้อมสู้ ปะ ฉะ ดะ ทุกรูปแบบ พร้อมรบ

ขณะที่ทีมข่าวได้วิดีโอคอลไปสัมภาษณ์ เจ้าตัวย้ำว่า ตนเองถูกกลั่นแกล้งแน่นอน และมาเวลานี้ตอนที่ตนเองลาออกจากราชการแล้ว พร้อมสู้เพื่อประชาชน ก่อนหน้านี้โดนมาเยอะมาก ที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาให้นิ่งอย่าตอบโต้ วันนี้ไม่สนแล้ว

สำหรับที่ดินดังกล่าวนี้ ซื้อตกทอดมาเป็นเจ้าที่แปด ซึ่งเดิมก่อนก่อนที่ตนเองซื้อมานั้น ที่ดินดังกล่าวก็ไม่ใช่ป่า แต่เป็นบ้านคน ส่วนที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้างว่า เคยมีการออกหนังสือเตือนไปแล้วก่อนหน้านี้ มันเป็นรอบที่ตนเองโดนกลั่นแกล้ง มีคนหิวแสง หมั่นไส้ตัวเอง ไปร้องเรียน แต่จนท้ายสุดตรวจสอบก็ทำอะไรไม่ได้

นายจอนนี่ยืนยันว่าไม่ได้มีการข่มขู่ โวยวายเจ้าหน้าที่ ไม่เคยข่มขู่ มีแต่ด่า เพราะใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ เลือกปฏิบัติต่อตนเองเพียงเจ้าเดียว

สำหรับรีสอร์ตของนายจอนนี่ คือ รีสอร์ตล่องแพจอนนี่มือปราบ-บ้านพักพูลวิลล่า อำเภอสิรินธร อุบลราชธานี ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 1-2 ไร่ โดยมีทั้งรีสอร์ตที่พักทั้งหมด 18 ห้อง สำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงมีการจัดเลี้ยง จัดสัมมนา และล่องแพ