พ่อเล่าอุทาหรณ์ ลูกสาว 2 ขวบ เผลอกินเจลลีผสมกัญชา จนหมดสติ หูแว่วตลอดเวลา หามส่งรพ. 2 รอบ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าอุทาหรณ์เรื่องเจลลีกัญชา หลังลูกสาว วัย 2 ขวบ 6 เดือน กินเจลลีหมีผสมกัญชา ไป 10 เม็ด ก่อนที่จะไปโรงเรียน แล้วมีอาการง่วงนอน ตาปรือ ง่วงซึม และไม่ร่าเริงเหมือนทุกครั้ง เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน ครูปลุกมาทานอาหารก็ไม่ตื่น คุณครูจึงโทรแจ้งผู้ปกครองเกรงว่าน้องจะไม่สบาย จากนั้นคุณลุงได้ไปรับและนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

โดยตอนแรก ทางแพทย์ยังหาสาเหตุของอาการป่วยไม่เจอ กระทั่งทางครอบครัวได้ไลน์ และสอบถามว่าวันเกิดของลุง เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 68 มีใครนำอะไรให้น้องกินหรือไม่ ลักษณะเหมือนคนเมากัญชา จึงทราบว่ามีหนุ่มคนหนึ่ง พร้อมแฟนสาว เดินทางมาร่วมงานวันเกิดของลุง ได้นำเจลลีกัญชา มากินในงานเลี้ยง ลุงของเด็กจึงได้สอบถามเจ้าของเจลลีกัญชา ก็ยอมรับว่าเป็นผู้นำเจลลีไปกิน และลืมนำกลับไปด้วย

จากนั้น ลุงของเด็กจึงได้ไปบอกแพทย์เพื่อทำการรักษา ซึ่งแพทย์ต้องฉีดยาให้เด็กเพื่อนอนหลับ และหมดสติไปประมาณ 24 ชั่วโมง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับพ่อของเด็ก เล่าว่า ที่นำเรื่องราวโพสต์เพื่อเตือนภัย เพราะไม่ต้องการให้เรื่องนี้ไปเกิดขึ้นกับเด็กคนไหนอีก เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเสี้ยววินาทีเลยก็ว่าได้ ทุกคนภายในบ้านต่างพากันตกใจที่ลูกสาวมีอาการป่วย ง่วงซึมโดยไม่รู้สาเหตุ แต่เมื่อสอบถามเพื่อนของลุงแล้วทราบว่าได้นำเจลลีกัญชารูปหมีมากินและลืมเก็บกลับไปด้วย จากนั้นรุ่งเช้าอีกวัน ก่อนที่ลูกสาวจะไปโรงเรียน เห็นกระปุกเจลลีจึงหยิบติดมือขึ้นรถไปกินขณะไปโรงเรียน โดยกินเจลลีไปถึง 10 ชิ้น เกือบจะช็อก โชคดีที่คุณครูสังเกตุอาการเด็ก และคุณลุงนำตัวหลานสาวส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา ทำให้ลูกสาวรอดจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งใบรับรองแพทย์ระบุว่า ลูกสาวเป็นภาวะเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัวแบบฉับพลันจากการได้รับพิษกัญชาโดยบังเอิญและโพรงไซนัสอักเสบเฉียบพลัน จึงทำให้ลูกสาวมีอาการป่วย ซึ่งลูกสาวออกโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 68 ช่วงบ่าย แต่หัวค่ำวันเดียวกัน ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง เนื่องจากมีไข้สูง และหูแว่วตลอดเวลา และหากรักษาอาการหายแล้ว ในอนาคตยังไม่รู้ว่าสารจากกัญชาจะไปกระทบกระเทือนต่อสมองเด็กหรือไม่

พ่อของเด็ก กล่าวอีกว่า ตนต้องการให้คนที่นำเจลลีกัญชามากินที่บ้าน ออกมารับผิดชอบกับเรื่องนี้ และยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะการที่นำขนมดังกล่าวเข้ามากินภายในบ้าน ส่งผลกระทบต่อครอบครัวเป็นอย่างมาก ลูกต้องมาป่วยเข้าโรงพยาบาลเกือบเอาชีวิตไม่รอด ค่ารักษาพยาบาลหมดไปกว่า 50,000 บาท เบิกไม่ได้ เพราะประกันไม่จ่าย สาเหตุไม่ได้เกิดจากโรค แต่เกิดจากสารเสพติด ทั้งนี้ตนได้เข้าแจ้งความ กับตำรวจ สภ.หางดง แล้ว พร้อมนำกระปุกเจลลีที่เหลือ 2 ตัว ไปเป็นหลักฐาน เบื้องต้นตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนและจะส่งเจลลีที่เหลือ 2 ตัว ไปตรวจหาสารเสพติด

อย่างไรก็ตาม ตนเองอยากให้กรณีของลูกสาวเป็นเคสตัวอย่าง และต้องการฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ควรมีแต่กฎหมายควบคุมดอกกัญชาเท่านั้น ควรมีการควบคุมพวกอาหารและขนมด้วย ซึ่งเด็กที่ไม่ทราบหรือประชาชนที่แพ้กัญชา อาจได้รับอันตรายจากพิษภัยของกัญชาได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/SfnLKyksmYk