คนจีนตกโรงแรมชั้น 6 ดับ ตำรวจพบพิรุธคนจีนเผ่นหนีทั้งตึก ทั้งชั้นคล้ายฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจเร่งพิสูจน์คนจีนตกโรงแรมชั้น 6 ดับ หลังเกิดเหตุคนเผ่นหนีออกทั้งตึก ตรวจทั้งชั้นคล้ายฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ร.ต.ท.อนิรุจน์ เจ๊ะเหราะ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งมีบุคคลพลัดตกตึกเสียชีวิต ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านซอยเพนียดช้าง พัทยาเหนือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งตำรวจชุดสืบสวน, ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี (พฐ.), ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยารีบไปทำการตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมสูง 7 ชั้น เปิดบริการให้เช่าแบบรายวันและรายเดือน ตรวจสอบบริเวณพื้นทางเดิน ด้านข้างอาคารโรงแรม พบศพชาวจีนยังไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20 ปีต้นๆ สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อยืดคอสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ข้างศพมีรองเท้าแตะ 1 คู่ โดยศพมีบาดแผลแตกที่บริเวณศีรษะจากการกระแทกพื้นอย่างรุนแรง จนทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ตำรวจมีการกันพื้นที่ และรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) รวมถึงทีมแพทย์เค้าทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

ในขณะเดียวกันโรงแรมดังกล่าวไม่มีพนักงานต้อนรับ หรือเจ้าหน้าที่ประจำ คอยให้บริการ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ตายตกลงมาจากชั้นใด อีกทั้งป้ายชื่อโรงแรมมีการนำผ้าสีดำมาคลุมปิดบังไว้ แต่เมื่อตำรวจแหงนหน้าขึ้นไปมองด้านบน พบว่าระเบียงห้องชั้น 6 ประตูถูกเปิดอ้าอยู่ และตรงกับจุดที่ผู้ตายตกลงมาเสียชีวิต ตำรวจจึงนำกำลังขึ้นไปตรวจสอบทันที

แต่ปรากฏว่าชั้น 6 ไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว ซึ่งบริเวณชั้น 6 มีห้องพักรวมทั้งหมด 16 ห้อง (แถวละ 8 ห้อง) ซึ่งจากการตรวจสอบลักษณะของห้องแต่ละห้อง เหมือนมีการรื้อ และขนของออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งแต่ละห้องจะถูกแบ่งออกเป็นลักษณะดังต่อไปนี้

ห้องแรก เป็นห้องลักษณะในการทำกิจกรรมบางอย่าง และตั้งกล้องเพื่อไลฟ์สด, ห้องที่ 2-3 ลักษณะเป็นห้องครัวและห้องซักผ้า, ห้องที่ 4- 5 เป็นห้องทำงาน คล้ายกับก่อนหน้ามีการวางคอมพิวเตอร์จำนวนมาก แต่ขณะที่ตำรวจขึ้นไปตรวจสอบพบว่าคอมพิวเตอร์ถูกเก็บไปจนเกลี้ยง ส่วนห้องที่เหลือเป็นห้องนอนปกติธรรมดาทั่วไป

ตำรวจเข้าไปตรวจสอบบริเวณห้องพัก ซึ่งเป็นห้องตรงกับจุดที่ผู้ตายลงไปเสียชีวิต ภายในห้องดังกล่าวไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน โดยตำรวจไปพบพาสปอร์ต ระบุชื่อนายหลิว ซ่ง ( MR.LIU SONG) อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยยังไม่ยืนยันว่าพาสปอร์ตดังกล่าวเป็นของผู้ตายหรือไม่ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า ปกติโรงแรมแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเข้าออกตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งตนเองยังสงสัยว่าโรงแรมเหมือนไม่เปิดให้บริการ แต่ทำไมมีนักท่องเที่ยวเดินเข้าออก อีกทั้งก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวทยอยเข้าออกที่ละคน มีทั้งผู้หญิงผู้ชายเดินออก โดยแต่ละคนสะพานเป้ไปด้วย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเก็บหลักฐานภายในโรงแรมดังกล่าว พร้อมทั้งนำกล่องบันทึกกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมไปตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าโรงแรมดังกล่าวเปิดกิจการในลักษณะใด รวมถึงคำให้การของพยาน ว่าก่อนหน้านี้มีกลุ่มคนจีนเข้ามาใช้บริการ ซึ่งก่อนเกิดเหตุ พบว่ามีกลุ่มคนจีนทยอยเดินออกจากโรงแรมไป ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายตกลงมาเสียชีวิตในขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ โดยยังไม่มีการยืนยันว่าเสียชีวิตเพราะตกลงมาเอง หรือมีผู้ทำให้เสียชีวิต

ขณะเดียวกัน ระหว่างที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ ปรากฏพบชาวจีนสวมเสื้อกล้ามนุ่งกางเกงขาสั้น มีพฤติกรรมต้องสงสัย พยายามเดินหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เชิญตัวไปทำการสอบปากคำ ที่โรงพัก สภ.เมืองพัทยา เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าเป็นนักท่องเที่ยว และมาพักที่โรงแรมดังกล่าว และยืนยันว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้