สังคม

รวบคาผ้าเหลือง 3 พระ - 7 ลูกศิษย์ใช้วัดเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาบ้า

โดย chutikan_o

3 ก.ค. 2568

178 views

รวบคาผ้าเหลือง 3 พระและ 7 ลูกศิษย์ใช้วัดเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติด ตรวจฉี่พบสีม่วงทั้งหมด ตำรวจจับสึกก่อนส่งตัวดำเนินคดี

เมื่อช่วงสายของวันที่ 3 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี พร้อมด้วยปลัดอำเภอกบินทร์บุรี กำนันผู้ ใหญ่บ้าน ลงตรวจสอบวัดแห่งหนึ่งหลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีพระสงฆ์และเด็กวัดมั่วสุมเสพยาเสพติด

จากการตรวจสอบบริเวณกุฏิวัดบรรพตเขมาราม (ขาแจงแมง) ในพื้น ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบชายลักษณะผมสั้นไม่สวมเสื้อ และหญิงสาวรายหนึ่งอยู่ภายในกุฏิดังกล่าว จากการตรวจสอบภายในกุฏิพบยาบ้าจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นชายและหญิงรายดังกล่าวยอมรับว่าเป็นแฟนกัน พร้อมทั้งยอมรับว่ายาบ้าที่พบภายในกุฏิเป็นของฝ่ายหญิง ทราบชื่อต่อมานายพิชัย อายุ 43 ปี ซึ่งถูกจับสึกเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาข้อหาเสพยาบ้า และนางสาวจีวรา อายุ 27 ปี เพิ่งออกจากเรือนจำเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะพระภิกษุสงฆ์ทราบชื่อต่อมานายสุทัศน์ อายุ 48 ปี จากการตรวจปัสสาวะมีสารเสพติด เจ้าตัวยอมรับว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด โดยซื้อยาบ้ามาเม็ดละ 50 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นิมนต์พระพร้อมทั้งลูกศิษย์วัดที่อยู่ภายในวัดมาตรวจหาสารเสพติด 10 ราย พบว่าทั้งหมดยอมรับว่าเสพยาบ้าภายในบริเวณวัดจริง ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลาสิกขาให้กับทางพระ 3 รูปและลูกศิษย์วัด 7 รายไปสอบสวนและตรวจหายาเสพติดที่แน่ชัดที่ สภ.กบินทร์บุรี

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.ของวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.กบินทร์บุรี บริเวณห้องสืบสวนพบผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย นั่งรอให้การกระทำเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณห้องสืบสวน ทั้งนี้ยังพบอุปกรณ์เสพยาบ้าพร้อมยาบ้าอีก 6 เม็ด อุปกรณ์เสพกัญชาและกัญชาอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งยังพบกัญชาที่หั่นติดคาอยู่ในเขียง และยังพบจีวรของพระที่นำมาประกอบคำรับสารภาพด้วย

นายสุทัศน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นบวชและจำพรรษาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ที่มากบินทร์บุรีเนื่องจากมาหาพระครูที่สนิทกัน โดยมาจำวัดกบินทร์บุรีได้ 2 เดือนแล้ว ยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง ส่วนเรื่องไปบิณฑบาตแล้วได้เงินมาซื้อยาบ้านั้น ขอบอกว่าไปบิณฑบาตแถวนั้นไม่ค่อยได้เงิน ส่วนเรื่องยาบ้าที่นำมาเสพนั้น เพื่อนเป็นคนเอามาให้แต่ไม่รู้ว่าเขาเอามาจากไหน ซึ่งตอนที่ถูกจับ ยอมรับว่ายังสวมสบงเป็นพระอยู่ วัดที่จำวัดอยู่นั้นมีพระทั้งหมด 7 รูป จากการตรวจปัสสาวะแล้วมีสารเสพติดจำนวน 3 รูปก็คือพวกตนเอง

ด้านนายพิชัย 43 ปี กล่าวว่า ตนเองบวชที่บ้านที่ จ.หนองคาย บวชมา 20 พรรษา มาถูกจับสึกจากการตรวจฉี่ หลังจากนั้นไม่มีที่ไปจึงได้ขอหลวงพ่ออยู่ที่วัด ทำงานรับใช้พระอยู่ที่วัด ส่วนยาที่นำมาเสพนั้นยอมรับว่ายังเลิกไม่ได้ และไม่ยอมรับว่าเป็นการมั่วสุมภายในวัด ส่วนที่มีคนพูดว่าพระที่วัดออกไปเที่ยวกลางคืนนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง มีแค่ตนเองออกไปหาปลาหาหนู ตอนกลางคืนเท่านั้น ส่วนยาบ้ายอมรับว่าเป็นยาบ้าของตัวเองจริง

นายสุชาติ อายุ 52 ปี กล่าวว่า ยอมรับว่าดูดกัญชาจริง ส่วนยาบ้ามีคนเอามาถวายจึงได้ลองดูด โดยบวชมาแล้ว 10 กว่าพรรษา และยอมรับว่าเพิ่งลองดูดยาบ้าได้มาเดือนกว่าๆ และยืนยันว่าไม่ได้ติดยาบ้า ถ้าให้หยุดตอนนี้ก็หยุดได้ ส่วนในเรื่องที่บวชเป็นพระแล้วใช้ผ้าเหลืองมาเสพยา หากพุทธศาสนิกชนรู้ก็คงเสียใจ แต่ถ้าหากพ้นโทษออกมาก็พร้อมที่จะกลับมาบวชอีกครั้ง ซึ่งการดูดกัญชานั้นก็ไม่สามารถที่จะทำให้ตนเองลาซึ่งการเป็นพระได้ แต่ยอมรับว่าเสพยาบ้ามาครึ่งเม็ดเมื่อวาน

ร.ต.ต.สุชาติ ไผ่สมบูรณ์ รอง สว.(สส.) สภ.กบินทร์บุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่ามีพระที่เคยบวชอยู่ในวัดดังกล่าวได้ถูกจับสึกในคดีเสพยา แล้วได้กลับไปอาศัยอยู่ที่วัดและมีการเอาผู้หญิงไปนอนมั่วสุมเสพยาอยู่ที่วัดในกุฏิพระ ทางเราได้สืบสวนเรื่อยมาร่วมกับฝ่ายปกครอง วันนี้ได้นัดร่วมกันเข้าไปตรวจค้นที่กุฏิพระ เราเขาไปก็พบกับพระมหาชัย อยู่ที่กุฏิกับผู้หญิง นอนอยู่ด้วยกัน เมื่อเขาเห็นเราแล้วเขาได้โยนยาบ้าทิ้ง เราได้แสดงตัวและในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่ามียาบ้าไว้ครอบครอง เขาก็ได้รับสารภาพ เราจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ท่านก็เลยให้นำพระทั้งหมดมาตรวจฉี่ เบื้องต้นทั้งหมดที่ได้ตรวจฉี่ก็พบว่าทุกคนฉี่สีม่วงหมด จับสึก 3 รูป เขายอมรับว่าเพิ่งเสพมาเมื่อเช้านี้ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ได้สอบปากคำกับผู้ที่เสพและมียาบ้าในครอบครอง และจะขยายผลติดตามผู้ขาย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย โดยมีข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 ลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ เสพสารเสพติด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 10 ราย ส่งศาลฝากขังดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



คุณอาจสนใจ