สังคม

เชียงใหม่เตือน นกพิราบลานท่าแพ แพร่เชื้อร้าย ติดเชื้อเสี่ยงถึงตายได้

โดย passamon_a

9 มิ.ย. 2568

163 views

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ แลนด์มาร์คกลางเมืองเชียงใหม่ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่พากันมาถ่ายภาพกับฝูงนกพิราบ ทำให้กลุ่มช่างภาพอิสระที่มารับจ้างถ่ายภาพ และขายอาหารนกพิราบ มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะมีนักท่องเที่ยวต่อคิวจ้างให้ถ่ายภาพกับฝูงนกพิราบตลอดทั้งวัน บางคนมีรายได้วันละ 2,000-3,000 บาทเลยทีเดียว ทำให้ใคร ๆ ก็หันมารับจ้างถ่ายภาพนักท่องเที่ยวกับนกพิราบ


แม้ว่าที่บริเวณลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ จะมีป้ายติดไว้ให้เห็นเด่นชัดว่า “ห้ามซื้อขายหรือให้อาหารนก” แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะยังมีคนเอาอาหารมาโปรยเพื่อล่อนกพิราบให้บินลงมากินอาหาร แล้วก็ทำให้นกตกใจ เพื่อจะได้ถ่ายภาพนักท่องเที่ยวอยู่ท่ามกลางฝูงนกบิน สร้างความกังวลใจให้กับชาวบ้านในบริเวณนี้ ที่เกรงว่าฝูงนกพิราบจำนวนมากที่รวมตัวกันในช่วงฤดูฝน อาจเป็นพาหะนำเชื้อโรคสู่คน โดยเฉพาะเชื้อร้ายที่มาพร้อมกับมูลนกซึ่งสะสมและเปียกชื้น จนเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรคจากสัตว์สู่คน จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจังกับผู้ฝ่าฝืนลักลอบขายอาหารนก พร้อมจัดมาตรการควบคุมจำนวนฝูงนกพิราบเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว


ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ พบว่ายังคงมีกลุ่มคนลักลอบขายและโปรยอาหารล่อนกให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ คนกลุ่มนี้จะช่วยกันสอดส่องและหูตาไว เดินหลบเลี่ยงออกไปจากพื้นที่ทันทีที่เจ้าหน้าที่เทศกิจหรือตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาตรวจสอบ ก่อนจะกลับมาให้บริการนักท่องเที่ยวอีกครั้งเมื่อทางสะดวก แม้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดและจับกุมคุมตัวไปเปรียบเทียบปรับอยู่เป็นประจำ แต่ก็ยังพบเห็นพฤติกรรมแบบนี้ได้ทุกวัน เรียกว่าเป็นปัญหาซ้ำซากที่แก้ไม่หาย


ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นความกังวลใจของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมามีการเฝ้าระวังโดยตลอด เพราะนกพิราบเป็นพาหะโรคสำคัญ 3 โรค คือ โรคไข้หวัดนกพิราบ ที่เกิดจากเชื้อรา คริปโตคอกคัส นีโอฟอร์แมนส์ ซึ่งเป็นเชื้อราในมูลนกพิราบ คนที่สูดดมเอาเชื้อเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจจะมีผลโดยตรงต่อปอด กระจายผ่านเส้นเลือดเข้าสู่อวัยวะอื่น ๆ ทำให้เกิดอาการไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามั่ว อยู่ในภาวะที่ไม่รู้สึกตัวและโรคนี้ถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือผู้ที่สุขภาพร่างกายอ่อนแอ ซึ่งกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากกว่าคนปกติถึง 1,000 เท่า


นกพิราบยังเป็นพาหะนำโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ที่พบได้บ่อย โดยเกิดจากการสัมผัสมูลนกพิราบที่มีเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ผ่านระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร จะทำให้เกิดอาการไข้ ปวดศีรษะ ตาแพ้แสง และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โดยมีโอกาสเกิดในเด็กเล็กและผู้ใหญ่ได้สูงถึงร้อยละ 9 และหากเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียจะมีอาการรุนแรง ชักหมดสติ เป็นอัมพาต และเสียชีวิตได้


นอกจากนี้ยังเสี่ยงโรคปอดอักเสบ จากการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อรา คริปโตคอกคัส นีโอฟอร์แมนส์ เข้าไป ทำให้เกิดอาการไข้ ปวดศรีษะ อาเจียน ไอเป็นเลือด หากปอดติดเชื้อจะอันตรายมาก เชื้ออาจเข้าสู่กระแสเลือดให้เสียชีวิตได้


นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโรคจากมูลนกและดินที่นกถ่ายมูลไว้ ทั้งไข้หวัดนก ไข้นกแก้ว ซึ่งการติดเชื้อไม่เพียงแต่การสัมผัสกับมูลนกทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แม้แต่การกระพือปีกของนกก็มีโอกาสติดเชื้อได้ หากอยู่ใกล้และหายใจเอาเชื้อราหรือสปอร์ที่ล่องลอยในอากาศเข้าไปในระบบทางเดินหายใจได้


ดร.ทรงยศ แนะนำว่า ไม่ควรเข้าไปใกล้ในบริเวณที่มีนกพิราบอยู่เป็นจำนวนมาก ยิ่งทำให้มันกระพือปีก ยิ่งทำให้มีโอกาสรับเชื้อโรคเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนซึ่งมีอุณหภูมิต่ำและอากาศชื้น ทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ค่อนข้างมาก เป็นปัจจัยให้คนสัมผัสเชื้อได้มากขึ้น


https://youtu.be/VXh2CTVwt_4

คุณอาจสนใจ

Related News