สังคม
ให้ประกัน ‘พระพรหมเมธี’ วางหลักทรัพย์ 4 แสน หลังมอบตัวสู้คดีเงินทอนวัด
โดย petchpawee_k
6 มิ.ย. 2568
92 views
ลี้ภัยนาน 7 ปี อดีตพระพรหมเมธี กลับไทย มอบตัวสู้คดีเงินทอนวัด ตร.ไม่ค้านประกันเพราะเข้ามอบตัวด้วยตนเองเผยคดีมีพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงแค่คำให้การของผู้ต้องหา ทนายยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน 4 หมื่น
คดีเงินทอนวัด ที่ผ่านมานานกว่า 7 ปี ตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดวานนี้ (5 มิ.ย.68) พระจำนงค์ ธมฺมจารี หรืออดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัด ที่ได้ลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ได้เดินทางออกจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในวันที่ 4 มิ.ย.68 เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งตรงกับเวลาของประเทศไทยประมาณ เวลา 17.00 น. โดยเดินทางถึงประเทศไทย เวลาประมาณ 06.30 น. ของวานนี้ ( 5 มิ.ย.) จากนั้นเข้ามอบตัวกับทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อต่อสู้คดี
ขณะที่เพจฟซบุ๊ก "The Buddh" ซึ่งเป็นเพจที่ อัพเดทข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวงการพระสงฆ์ ได้เผยภาพอดีตพระพรหมเมธีขณะนั่งอยู่บนเครื่องบินและนั่งรถเข็นลงจากเครื่องบินเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางมาถวายการต้อนรับ พร้อมทั้งลงภาพอดีตพระพรหมเมธีก่อนจะขึ้นเครื่องบินจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี กลับมายังประเทศไทย ซึ่งมีบรรดาศิษย์ยานุศิษย์เดินทางมาถวายส่งอดีตพระพรหมเมธีขึ้นเครื่องบิน
คดีนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เป็นผู้ดำเนินการ ในคดีมีผู้ต้องหาหลายคน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ด้วย โดยอดีตพระพรหมเมธี เป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ที่ถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา ประกอบด้วย “สนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์, ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และร่วมกันฟอกเงิน
สำหรับพฤติการณ์ของ พระจำนงค์ ธมฺมจารี หรือ อดีตพระพรหมเมธี ในช่วงที่เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามนั้น รายงานข่าวระบุว่า ในปี 2557 นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) ได้เซ็นเช็คอนุมัติงบประมาณ 5 ล้านบาท มอบให้นายบุญเลิศ โสภา ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนศึกษา แล้วส่งเข้าบัญชีวัดสัมพันธวงศาราม เพื่อจัดทำโครงการโรงเรียนพระปริยัติธรรม ในช่วงที่สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรมหาเถร) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กำลังอาพาธ และมีอดีตพระพรหมเมธี เป็นผู้บริหารจัดการภายในวัดชั่วคราว แต่กลายเป็นว่าเข้าบัญชีส่วนตัวของอดีตพระพรหมเมธี โดยที่ไม่ได้นำไปใช้จัดทำโครงการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแต่อย่างใด แล้วต่อมาก็โยกเงินจำนวน 3.5 ล้านบาท ไปเข้าบัญชีที่ 2 ของอดีตพระพรหมเมธีอีกด้วย
รายงานข่าว เปิดเผยว่า วานนี้หลังอดีตพระพรหมเมธี เข้ามอบตัว พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ ไม่คัดค้านการประกันตัว เพราะมีการเข้ามามอบตัวด้วยตัวเอง และหากได้รับการประกันตัวก็คงไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานไม่ได้แล้ว เนื่องจากคดีผ่านมานานแล้ว อีกทั้งคดีมีพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงแค่คำให้การของผู้ต้องหา หลังจากนี้อยู่ที่ศาลจะพิจารณา สำหรับคดีนี้ จะมี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน
บรรยากาศที่ในช่วงเช้า พบว่าได้มีพระสงฆ์ 2 รูป เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้สื่อข่าวจึงพยายามเข้าไปสอบถามว่า ปรากฏว่าพระสงฆ์ 2 รูป ไม่พูดอะไร มีจังหวะหนึ่งที่ผู้สื่อข่าวถามว่า มาเยี่ยมอดีตพระพรหมเมธี ใช่หรือไม่ พระสงฆ์รูปหนึ่งพยักหน้ารับ แต่ไม่ตอบคำถามใด ๆ
ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า พระจำนงค์ ธัมมจารี หรืออดีตพระพรหมเมธี ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้แสดงตัวพร้อมหมายจับที่ปรากฏในระบบเข้าควบคุมตัวอดีตพระพรหมเมธี ก่อนนำตัวเข้ามาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ต่อมาช่วงบ่ายคณะพนักงานสอบสวนพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวพระจำนงค์ ธัมมจารี หรืออดีตพระพรหมเมธี กระทั่งเวลา 14.00 น.ได้มีรถตู้ 4-5 คัน จอดบริเวณด้านหน้าอาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนที่จะมีพระสงฆ์จำนวนหนึ่งเดินลงมาจากอาคารแล้วเดินไปขึ้นรถทันที โดยพระสงฆ์เหล่านั้นไม่ได้พูดคุยในตอบคำถามอะไรกับสื่อมวลชน
ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 14.30 น.มีรายงานข่าวว่า อดีตพระพรหมเมธีเตรียมจะเดินทางออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางบริเวณชั้นใต้ดิน สื่อมวลชนจึงได้ปักหลักเฝ้าสังเกตการณ์ พบว่ามีรถตู้ 2 คัน จอดอยู่ที่ชั้นใต้ดิน คันหนึ่งเป็นรถตู้สีดำจอดอยู่ฝั่งลิฟท์ High Zone อีกคันหนึ่งสีเทาจอดอยู่ฝั่งลิฟท์ Low Zone
ปรากฏว่าอดีตพระพรหมเมธี พร้อมผู้ติดตามแต่งกายชุดสูท ได้ลงมาฝั่งลิฟท์ Low Zone เดินมาขึ้นรถตู้คันสีเทา โดยคณะผู้ติดตามได้นิมนต์เชิญอดีตพระพรหมเมธี ขึ้นรถตู้คันดังกล่าวและรีบปิดประตูก่อนขับออกไปจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทันที หลังจากสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนนานกว่า 8 ชั่วโมง
แหล่งข่าวระดับสูงในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า ทนายความของอดีตพระพรหมเมธีได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน จำนวนเงิน 400,000 บาท
ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตีราคาประกันในคดีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท และคดีร่วมกันฟอกเงิน เป็นจำนวนเงิน 75,000 บาท รวมหลักทรัพย์ที่ต้องจ่ายเป็นเงินประกันกับพนักงานสอบสวน ทั้งสิ้น 275,000 บาท โดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใด ๆ
โดยสาเหตุที่ทางพนักงานสอบสวนพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเห็นว่าเป็นพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ ได้เดินทางกลับมามอบตัวด้วยตนเอง รวมทั้งไม่น่ามีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เพราะทางพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานครบถ้วนอยู่แล้ว
ทั้งนี้ อดีตพระพรหมเมธี ได้ขอทำคำให้การเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรส่งมายังพนักงานสอบสวนในภายหลัง พร้อมรับปากกับพนักงานสอบสวนว่า จะยื่นคำให้การให้เร็วที่สุดภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีตามกฎหมาย
แท็กที่เกี่ยวข้อง มอบตัว ,เงินทอนวัด ,พระพรหมเมธี