บ้านพังครืนจมแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านเข้าช่วยหญิง 69 รอดตายหวุดหวิด

ระทึก! หญิงวัย 69 รอดตายหวุดหวิด บ้านไม้พังครืนจมลงแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านช่วยขึ้นมาทัน เจ้าตัวตกใจกลัวมาก ตอนนี้ไม่มีบ้านอยู่แล้ว ต้องไปอาศัยบ้านพี่ชายก่อน

เมื่อเวลา 11.30 น วันที่ 3 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีบ้านไม้ปลูกอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในซอยพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี พังครืนลงไปในแม่น้ำทั้งหลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นหญิงสูงอายุ ถูกนำตัวส่ง รพ.พระนั่งเกล้า

บ้านดังกล่าวเป็นบ้านไม้ปลูกอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา สภาพบ้านค่อนข้างเก่าบ้านทั้งหลังจมอยู่ในแม่น้ำ ได้รับความเสียหาย ส่วนคนเจ็บทราบว่า ชื่อนางทรง อายุ 69 ปี ถูกนำตัวส่ง รพ.พระนั่งเกล้า แพทย์อยู่ระหว่างช่วยเหลือ ตรวจสอบร่างกายอยู่ภายในห้องฉุกเฉิน เบื้องต้นพบว่าอาการปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก

ต่อมานายสันต์ อายุ 70 ปี พร้อมด้วยผู้บาดเจ็บ เดินทางกลับมาจากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โดยนางทรงมีบาดแผลที่แขนซ้าย เส้นเอ็นบาดเจ็บ เบื้องต้นแพทย์ได้ฉีด ยาบำรุง และเอกซเรย์ร่างกายแล้วไม่พบว่ามีกระดูกส่วนใดหักหรือได้รับอันตรายแต่อย่างใด จึงอนุญาตให้นายสรรพานางทรงกลับไปที่บ้านเพื่อพักฟื้น

นางทรง เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองอยู่ในบ้าน กำลังสาละวนอยู่กับการจะย้ายข้าวของ เก็บให้เป็นที่เป็นทาง เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกหนัก ตอนนั้นตกใจมาก อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงครืน ก่อนที่บ้านของตัวเองจะพังลงมา พร้อมกับตนเองซึ่งอยู่ในบ้าน โชคดีที่ตอนนั้น ชาวบ้านและพี่ชายซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กันได้ลงไปช่วย พร้อมกับแจ้ง 1669 ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะมานำตัวส่งโรงพยาบาล เธอตกใจและกลัวมากคิดว่าไม่รอดแล้วเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลย ตอนนี้ก็ไม่มีบ้านอยู่แล้วคงต้องไปอาศัยบ้านพี่ชายอยู่ไปก่อน

ด้านนายสันต์ เปิดเผยว่า น้องสาวอาศัยอยู่บ้านเกิดเหตุเพียงคนเดียว หลานสามีเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ตอนเกิดเหตุชาวบ้านวิ่งมาบอกว่า บ้านน้องสาวพังครืนจมหายลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงรีบวิ่งเข้าไป พร้อมกับชาวบ้านและเห็นน้องสาวร่วงหล่นอยู่ในแม่น้ำ ตะโกนขอให้ช่วย ตนเองกับชาวบ้านก็นำเรือออกไปช่วยขึ้นมา โชคดีที่น้องสาวได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก ตนเองกับน้องสาวก็ไม่ได้มีอาชีพทำอะไรเป็นหลักแหล่ง มีเพียงตนเองที่ทำสวนเล็กน้อย ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาสำรวจดูแลช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้