สังคม

รวบแก๊งสแกมเมอร์กลางกรุง เปิดบริษัทคาร์โก้บังหน้า สร้างเว็บหลอกให้ซื้อสินค้าทิพย์นับพันเว็บ

โดย chutikan_o

29 พ.ค. 2568

282 views

“ดีเอสไอ” รวบแก๊งสแกมเมอร์กลางกรุง เปิดบริษัทคาร์โก้บังหน้า สร้างเว็บหลอกให้ซื้อของทิพย์นับพันเว็บ อ้างมีรายได้จากการทำธุรกิจแต่ไม่สอดรับ เสียหายกว่า 2 พันล้านบาท หลังปูพรมทั่วประเทศ ค้น 11 จุด จับ 7 ราย


เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 29 พ.ค. 2568 ร.ต.อ.วิษณุ  ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่เข้าตรวจตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งในซอยเพชรบุรี 13 แยก 1 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม.


ที่เกิดเหตุเปิดเป็นบริษัท ฟอลคอน จูเนียร์ เอ็กซ์สปอร์ต คาร์โก้ จำกัด ลักษณะเป็นโกดังปลูกติดกัน สูง 2 ชั้น ชั้นบนเป็นสำนักงาน ชั้นล่างเป็นที่เก็บของ พร้อมจับกุมนายลีวินุส มาสดูอบูซูดุ อาเคเอบูชิ อายุ 55 ปี สัญชาติไนจีเรีย ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันฟอกเงินร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน, ฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” หลังปูพรมตรวจค้น 11 จุดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหารวม 7 ราย เครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ สร้างเว็บไซต์หลอกลวงให้ซื้อสินค้าและบริการที่ไม่มีอยู่จริงนับพันเว็บ มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท


ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตั้งแต่ช่วงโควิดระบาด เมื่อปี 63 เกิดขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติและมีภรรยาเป็นคนไทยหลอกลวงผู้เสียหาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อ้างขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ หน้ากากอนามัย ถุงมือแพทย์ และอื่นๆ โดยการตรวจค้นบริษัทแห่งนี้ได้เปิดบังหน้าชักชวนผู้เสียหายนำเงินมาลงทุน อ้างว่าประกอบธุรกิจแต่รายได้ไม่สอดคล้องกับเงินหมุนเวียนจำนวนมาก มีการใช้บัญชีม้าโอนรับเงิน และปลายทางมีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเป็นคริปโต เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 2,000 ล้านบาท ผู้เสียหายประมาณ 30 รายจากหลายประเทศ และในวันนี้มีชาวเวียดนามซึ่งถูกหลอกลงทุน เสียหายกว่า 8 ล้านบาท เดินทางเข้ามาร่วมสังเกตการณ์


ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้น 5 พื้นที่ทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล, นครปฐม, กระบี่, กาญจนบุรี และ จันทบุรี ตามหมายค้น 11 หมาย พนักงานสอบสวนสามารถจับกุมได้เป็นชาวต่างชาติ 3 ราย เป็นชาวไนจีเรีย 2 ราย ที่กรุงเทพฯ และ จ.จันทบุรี ส่วน 1 รายเป็นแคมเมอรูน จับกุมที่ จ.กระบี่ ทราบว่ามีอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ รวมทั้งอีก 4 คนไทย ร่วมขบวนการ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมี 24 หมายจับ


ด้าน ร.ต.อ.เขมชาติ เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาตั้งแต่ช่วงโควิดระบาด แต่รับเป็นคดีพิเศษเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พร้อมประสานการทำงานจากหลายฝ่าย ใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมตรวจสอบ ส่วนของกลางที่ยึดได้มีทั้งรถยนต์ เงินสด และคริปโต นอกจากนี้ ในคดีแพ่งจะนำทรัพย์สินส่ง ปปง. เพื่อเฉลี่ยคืนแก่ผู้เสียหายต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้าตรวจค้นพบว่าประตูโกดังปิดอยู่ เมื่อพยายามเรียกให้เปิดแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ทางชุดปฎิบัติการดีเอสไอ จึงงัดประตูเข้าไป แต่ไม่พบมีว่ามีผู้ใดอยู่ด้านใน กระทั่งตรวจค้นพบชาวไนจีเรีย 2 รายหลบซ่อนตัวใต้บันได จึงควบคุมตัวสอบสวน


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว ทั้ง 4 ราย เพื่อไปสอบปากคำ ขยายผลเพิ่มเติม ส่วนรายละเอียดจะทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเป็นผู้แถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ ต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News