จับหนุ่มอินเดียตระเวนชักปืนขู่ชิงทรัพย์ร้านแลกเงิน อ้างหาเงินเที่ยว-ชอบหญิงไทย

ตำรวจรวบหนุ่มอินเดียวัย 23 ตระเวนชักปืนขู่ชิงทรัพย์ร้านแลกเงิน ได้เงินสดร่วมแสนบาท พบก่อเหตุไปแล้ว 6 ครั้ง อ้างหาเงินเที่ยว-ชอบหญิงไทย

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 พ.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาล และ สน.บางรัก นำกำลังร่วมจับกุมนายอามาน ซิดดิคี อายุ 23 ปี สัญชาติอินเดีย ในข้อหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมได้ที่บริเวณย่านถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กทม. พร้อมของกลางเงินสด ประมาณ 50,000 บาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2568 เวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์หลายแห่ง บริเวณร้านแลกเงิน ถ.สุรวงศ์ และร้านที่บริเวณถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม.

ต่อมาฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวต่างชาติ ไม่ทราบชื่อสกุล และสัญชาติ สูงประมาณ 180 ซม. ผิวสีแทน ทรงผมสั้นสีดำ ใส่เสื้อฮูดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ มีหนวดเครา และพกอาวุธปืนสั้น ไม่ทราบขนาดและรุ่น โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ ชิงทรัพย์เพื่อเอาทรัพย์สินให้กับตนเอง โดยผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า แอร์ล็อค สีดำแดง มาก่อเหตุบริเวณร้านแลกเงินแห่งหนึ่งที่ ถ.สุรวงศ์ แต่ไม่ได้รับทรัพย์สินไป จากนั้นเวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาอีกร้านบริเวณถนนสีลม เขตบางรัก ก่อนเดินเข้าไปภายในร้านและใช้อาวุธปืนข่มขู่ โดยขู่พนักงานร้านให้เอาทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวนประมาณ 93,000 บาท ให้กับคนร้าย ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยมุ่งหน้าไปทางแยกศาลาแดง

จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายไปก่อเหตุชิงทรัพย์ 6 ครั้ง ในพื้นที่ สน.ยานนาวา 3 ครั้ง, สน.วัดพระยาไกร 1 ครั้ง และ สน.บางรัก 2 ครั้งโดยได้ทรัพย์สินไปเพียง 1 ครั้งล่าสุด คือ ร้านแลกเงินที่ในท้องที่ สน.บางรัก

ต่อมาชุดสืบสวนนครบาล และฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก จึงร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไปจนถึงที่พักผู้ก่อเหตุ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อออกหมายจับ กระทั่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้

สอบสวน นายอามาน ผู้ต้องหา ในช่วงแรก ไม่ยอมรับสารภาพ  แต่ตำรวจเจอของกลาง ทั้งเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ และเจอเงินบางส่วนที่เหลืออยู่ประมาณ 50,000 บาท แต่นายอามาน อ้างว่า เงินจำนวนนี้เป็นเงินเก็บของตนเอง ส่วนสาเหตุเนื่องจากต้องการหาเงินไปเที่ยวและชอบผู้หญิงไทย

จากนั้นจึงควบคุมตัวนายอามาน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุทั้ง 6 แห่ง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป