สั่งพักงานแล้ว! ครูกดหัวเด็กเล็ก บังคับให้นอน วงจรปิดมัดแน่น ผู้ปกครองโวย โดนกระทำตั้งแต่รุ่นแม่ยันลูก

ตั้งคณะกรรมการนอกสอบครูกดหัวเด็ก สั่งพักงานทันที  เกือบบานปลาย หลังประชุม กลุ่มผู้ปกครอง เผชิญหน้าญาติๆ ของครูที่บอกว่าอยากให้พูดเรื่องดีๆ ของครูบ้าง ขณะที่ภาพวงจรปิดบางส่วนถูกนำออกมาเผยแพร่  ผู้ปกครองรู้สึกรับไม่ได้

ความคืบหน้ากรณี น.ส.ศรัณย์พร อายุ 34 ปี แม่ของน้องก้อง เด็กชายวัย 2 ขวบครึ่ง นำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.แห่งหนึ่ง  อ.คลองเขื่อน  จ.ฉะเชิงเทรา  จับภาพพฤติกรรมของ น.ส.อริสรา  ครูในศูนย์เด็กเล็กที่ใช้มือกดหัวเด็กให้นอน  ซึ่งลักษณะค่อนข้างรุนแรง ทำให้แม่เห็นคลิปแล้วรับไม่ได้ นำคลัปไปโพสต์ในโซเชียล ซึ่งแม่เด็กบอกว่า ครูคนนี้ ทำกับเด็กมาหลายคนและหลายรุ่นแล้ว

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.68)  มีภาพกล้องวงจรปิดออกมาเพิ่มเติมอีก เป็นคลิปเหตุการณ์ที่ครู อลิสา วิ่งไปยกตัวน้องก้อง เด็กชายอายุ 2 ขวบครึ่ง ให้กลับเข้ามาในห้อง แต่ครูไม่ระวัง ทำให้ศีรษะของน้องก้อง ไปชนเข้ากับประตู เมื่อครูอุ้มน้องมานั่งในห้องเรียนแล้ว น้องก้องยกมือมากุมที่ศีรษะเพราะความเจ็บ และร้องไห้

อีกคลิป เป็นภาพขณะที่ครูอริสานั่งเฝ้าเด็กกินอาหารกลางวัน  มีเด็กคนหนึ่งยังกินข้าวไม่หมด แต่ครูอลิสา ยกถาดหลุมตรงหน้าเด็ก ไปเทอาหารทิ้งในถังขยะ และแจ้งผู้ปกครองเด็กว่า เด็กกินอิ่มนอนหลับทุกวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายวานนี้ ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบางตลาด อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าที่ร้อยตรี ดร.ศิรพงศ์ วงศ์โภคินหิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายชำนาญ โพธิ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางตลาด นายคเณศ บุญสด ปลัดอำเภอคลองเขื่อน  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหา กรณีนางสาวอริสา  พนักงานจ้างตามภารกิจ  ตำแหน่งผู้ดูแลเด็ก ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลเด็ก   ซึ่งมี น.ส.ศรัณย์พร อายุ 34 ปี แม่ของน้องก้อง และผู้ปกครองที่ทราบเรื่อง ทั้งคนที่ลูกหลานเรียนจบไปแล้ว และที่ยังเรียนอยู่ มาร่วมรับฟังกว่า 10 คน

โดยทางกลุ่มผู้ปกครอง ต้องการให้ไล่ครูอลิสาออกไป หากไม่ไล่ออกก็จะไม่ส่งลูกหลานมาเรียนที่นี่อีก  และยังขอดูภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุทั้งหมด และภาพเหตุการณ์ย้อนหลังตั้งแต่เปิดเทอม  ซึ่งทาง อบต.ก็นำภาพกล้องวงจรปิดบางส่วนมาเผยแพร่  ทำให้เห็นพฤติกรรมความรุนแรงของครูอลิสา เช่น ภาพดึงยกเด็กจากที่นอน  ภาพอุ้มเด็กโดยไม่ระวังจนเด็กหัวโขกกับประตู และภาพเทข้าวกลางวันของเด็กทิ้ง ทั้งที่ยังกินไม่หมด  เป็นภาพที่ผู้ปกครองรับไม่ได้

แต่ทาง อบต.ยังไม่สามารถไล่ครูผู้ดูแลเด็กรายนี้ออกได้  เพราะเป็นพนักงานจ้างตามภารกิจของ อบต. โดยจะตั้งคณะกรรมการจากบุคคลภายนอกมาตรวจสอบ และให้ครูรายนี้พักงานทันที จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น

หลังประชุมหารือนานกว่า 2 ชม.  ผู้ปกครองพอใจกับแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น แต่ปรากฏว่า ระหว่างที่กลุ่มผู้ปกครองเดินออกจากห้องประชุม ก็เจอกับลูกพี่ลูกน้องและแม่ของครูอลิสา ซึ่งทั้งสองคนอยากจะมาพูดสิ่งดีๆ เกี่ยวกับครูอลิสาบ้าง  ทำให้กลุ่มผู้ปกครองไม่พอใจ และมีปากเสียงกันที่หน้า อบต. หลังจากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็แยกย้ายกันไป

ว่าที่ร้อยตรี ดร.ศิรพงศ์ วงศ์โภคินหิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า   นายบรรจง ศรีโย ปลัด อบต.บางตลาด จะสรรหาคณะกรรมการที่เป็นบุคคลภายนอกเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้  เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  โดยจะมีนิติกรที่มีความรู้เรื่องกฎหมาย ตัวแทนจากอำเภอ ตัวแทนจาก อบต.ตัวแทนจากโรงเรียน และตัวแทนจากส่วนที่เกี่ยวข้อง  เรียกนางสาวอริสา  มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยจะใช้เวลาสรรหาคณะกรรมการไม่เกิน 15 วัน และใช้เวลาสอบสวนไม่เกิน 30 วัน จากนั้นจะทำเรื่องส่งผลสอบสวน เสนอไปยังจังหวัดต่อไป เพื่อพิจารณาโทษตามขั้นตอนของความผิด โดยระหว่างนี้ให้พักงานนางสาวอริสา จนกว่าจะมีการสอบสวนเสร็จสิ้น และให้ทาง อบต. ส่งข้าราชการ สลับหมุนเวียนเข้าไปทำหน้าที่แทน จนกว่าเรื่องจะสิ้นสุด  โดยจะเปิดให้นักเรียนเข้าได้ตามปกติ ในวันนี้ (27 พ.ค.68)  โดยหลังจากนี้ บ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดฉะเชิงเทรา จะส่งนักสังคมสงเคราะห์ ไปเยี่ยมบ้านเด็กที่ได้รับผลกระทบด้วย

ขณะที่ น.ส.ณัฐวดี  อายุ 29 ปี หนึ่งในผู้ปกครอง และยังเป็นอดีตลูกศิษย์ของครูอลิสา เล่าว่า เมื่อตอนตนเองอายุประมาณ 4 ขวบ และเข้าเรียนที่ศูนย์เด็กเล็กแห่งนี้ ตนเจอครูอลิสากระทำ ทั้งเสียงดังขู่ตะคอก และชอบหยิกแขน กระทั่งตนเติบโตมีครอบครัว มีลูกชาย และส่งลูกเข้ามาเรียนที่ศูนย์เด็กเล็กแห่งเดียวกัน  ลูกชายตนก็ยังมาเจอครูอลิสาอีก

ตอนแรกตนไม่รู้ว่าครูอลิสาสอนลูกชาย  กระทั่งเข้าเรียนไปแล้วถึงได้รู้  ตนเคยบอกครูให้ช่วยเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกชายตอนที่อยู่โรงเรียนด้วย แต่ครูไม่เคยเปลี่ยนให้เลย ลูกกลับบ้านแพมเพิสเต็มทุกวัน กระทั่งลูกเรียนจบออกไปจากศูนย์เด็กเล็กแห่งนี้แล้ว ตนจึงมารู้ว่าครูอลิสาทำรุนแรงกับเด็กคนอื่น ซึ่งตนคิดว่า ลูกชายตนก็คงโดนเหมือนกันตอนยังเรียนที่นี่  เรียกว่าโดนกระทำตั้งแต่แม่ยันลูก

ด้าน นายศิรพงศ์ สาระโชติ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางตลาด เปิดเผยว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลบางตลาด  ตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงเรียนวัดบางตลาด แต่ศูนย์เด็กเล็กไม่ได้ขึ้นตรงกับโรงเรียน  ขึ้นตรงกับ อบต.บางตลาด เวลามีเรื่องร้องเรียนครูรายนี้ ผู้ปกครองก็จะมาร้องเรียนกับตน เพราะคิดว่าตนจะช่วยตรวจสอบแก้ไขปัญหาได้  ตนจึงต้องเป็นคนประสานพาผู้ปกครองไปร้องเรียนกับ อบต.บางตลาด

ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 60 มีเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองถึงพฤติกรรมของครูรายนี้มาแล้ว  4-5 ครั้ง สมัยก่อนไม่มีกล้องวงจรปิด  จึงมีหลักฐานเพียงแค่รอยขีดข่วนบนตัวเด็ก  และเคยมีการให้ครูรายนี้ไปชี้แจง  แต่ก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง  จนครั้งล่าสุดเมื่อต้นปี 2568  มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่เป็นคณะกรรมการภายใน อบต.ตลาด จนมาถึงครั้งล่าสุดนี้ที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพหลักฐานชัดเจน

https://youtu.be/3n8zDRwXOnY