สังคม

รอง ผบช.น. ปัดกลั่นแกล้งหมายจับตึก สตง.ถล่ม ลั่น กรรมสนองชาตินี้ ยืนยันทำอย่างตรงไปตรงมา

โดย JitrarutP

16 พ.ค. 2568

188 views

ไม่ต้องรอชาติหน้า “รอง ผบช.น.” เผยหมายจับ 17 ผู้ต้องหาคดี ตึกสตง.ถล่ม จากการสอบปากคำ 15 ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้ง ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ลั่น “กรรมใครที่ไปก่อไว้ก็ย่อมจะสนองในชาตินี้อย่างแน่นอน”

พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้เดินทางมาที่สน.บางซื่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการออกหมายจับ 17 ผู้ต้องหาคดี ตึกสตง.ถล่ม เบื้องต้นเมื่อวานพนักงานสอบได้มีการขออำนาจศาลออกหมายจับทั้งหมด 17 คน ที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องกับเหตุตึก สตง. ถล่ม ทั้งบริษัทผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมการก่อสร้าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมีผู้ต้องหาที่ได้เห็นข่าวสารว่าตัวเองถูกออกหมายจับ เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทั้งหมด 15 คน อีก 2 คน เป็น ผู้บริหารของบริษัท ว. และ สหาย ซึ่งได้ประสานงานกับพนักงานสอบสวนว่าจะเดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนในช่วงบ่ายของวันนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งหมด โดยในระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทั้งหมด แต่หลังจากนี้จะไปเตรียมเอกสารคำให้การมาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ หรือจะรวบรวมเอกสารการชี้แจงไปส่งมอบให้กับพนักงานอัยการก็ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ในเบื้องต้นในชั้นพนักงานสอบสวนมีการคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ

ในส่วนของพนักงานสอบสวนจะทำงานอย่างต่อเนื่อง คำให้การที่เป็นประโยชน์สำหรับการสอบสวน และคำให้การที่เราสอบปากคำไปแล้วจะมาขยายผลต่อเนื่อง ว่าจะมีผู้อื่นผู้ใดที่มีการกระกระทำความผิด หรือความมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการต่อเนื่องต่อไป

จะมีการขยายผลไปถึงพนักงานข้าราชการทั้ง ที่เซ็นรับตึกด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า เรารอข้อมูลข้อเท็จจริงจาก คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ทางนายกรัฐมนตรีจัดตั้งขึ้นมา เนื่องจากในขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูล และการขยายผลของการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 17 หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อเนื่องไปถึงใคร ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือบุคคลใด ที่มีการตรวจรับ TOR ตั้งแต่เริ่มต้นก็จะขอหมายจับต่อไป

ซึ่งในส่วนนี้มีการประสานงานกับดีเอสไออย่างใกล้ชิด ในส่วนของดีเอสไอการดำเนินการในเรื่องของนอมินี และฮั้วประมูลซึ่งได้รับเป็นคดีพิเศษไปแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการเช่นเดียวกัน

ในส่วนพฤติการณ์ที่ทำให้พนักงานสอบสวนไปขอหมายจับตามมาตรา 227 ต่อเนื่อง 238 พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่าการออกแบบ การควบคุมงาน และการก่อสร้างไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์จึงเป็นเหตุให้อาคารถล่ม และมีคนเสียชีวิต โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ในเรื่องของการออกแบบมีพยานผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าแบบแปลนการก่อสร้างดังกล่าวไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงและไม่ได้มาตรฐาน ส่วนการควบคุมงาน และการก่อสร้างได้มีการตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งจากกองพิสูจน์หลักฐาน ดีเอสไอ กรมโยธาธิการ และผังเมือง โดยเป็นการตรวจสอบวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างทั้งปูน เหล็ก ปรากฏว่า ผลการตรวจสอบออกมาชัดเจนว่าไม่ได้มาตรฐาน โดยตาม TOR จะถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องใช้เหล็กเส้น ปูน ตามมาตรฐานแบบไหน แต่การก่อสร้างดังกล่าว ไม่เป็นไปตาม TOR ที่กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ และต่ำกว่ามาตรฐานจึงถือว่ามีความผิด

รวมถึงยังมีการแก้ไขแบบแปลนในตัวของปล่องลิฟท์ และ คอลิฟท์ โดยใช้ลายเซ็นปลอม เพื่อปลอมวุฒิวิศวกร เพื่อใช้ยืนยันในการแก้ไขแบบ ซึ่งนายสมเกียรติ ชูแสงสุข เป็นผู้เสียหาย อ้างว่าตัวเองถูกปลอมลายมือชื่อ ทางตำรวจจึงส่งลายเซ็นที่ถูกแอบอ้างไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐานปรากฏว่าลายเซ็นดังกล่าวเป็นลายเซ็นปลอมจริง ดังนั้นทั้งหมดจึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และ ไม่ได้มาตรฐาน จึงใช้ทั้งหมดเป็นพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 17 คน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้ว มีการตรวจรับงานทั้งหมดกี่งวด พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ทาง สตง. ตรวจรับงานไปแล้วทั้งหมด 22 งวด โดยพนักงานสอบสวนได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจรับพัสดุมาสอบปากคำไปแล้ว ทั้งคณะกรรมการตรวจรับการออกแบบ การก่อสร้าง และการควบคุม แต่กระบวนการยังไม่เสร็จสิ้นทั้งหมด

ซึ่งใน 22งวด ความคืบหน้าจริงๆต้องคืบหน้า 80% แต่ทำได้จริงแค่ 33% คณะกรรมการตรวจสอบการออกแบบก่อสร้างที่ตรวจรับงานในงวดที่ 22 ได้บอกเลิกสัญญา แล้วยื่นเรื่องไปยังผู้ว่าสตง. เพื่อส่งต่อคณะกรรมการสตง. ตั้งแต่ 15 ม.ค.-28 มี.ค. แต่ยังไม่ได้บอกเลิกสัญญา ปรากฏว่า ตึกถล่มก่อน ซึ่งส่วนนี้จึงอยู่ระหว่างการสอบปากคำให้เสร็จ โดยหลังจากนี้จะะขยายผลว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับความผิดต่อเนื่องกับบุคคลใดเพิ่มเติม และใน 22งวด สตง.จ่ายเงินไปแล้ว 900ล้านบาท เป็นงบประมาณที่ สตง.ได้รับการจัดสรรมาแล้ว

เมื่อถามว่าสตง.จะมีมีความผิดหรือไม่ พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่าหลักฐานที่รวบรวม ถ้ามีความเกี่ยวข้องหรือไปถึงบุคคลใดจะดำเนินการขยายผลต่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกหมายจับในครั้งนี้ทั้ง 17 คนเป็นบริษัทเอกชนทั้งหมด และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่เซ็นรับอาคารจะมีการขยายผลหรือไม่ พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงที่ได้จากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรายังไม่ได้มา เราต้องรอผู้เชี่ยวชาญในส่วนนั้นด้วย ยืนยันว่าทางพนักงานสอบสวนทำงานอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานไม่มีการกลั่นแกล้งบุคคลหนึ่งบุคคลใด ยืนยันว่าทุกอย่างตรงไปตรงมา ใครกระทำความผิดเหมือนที่บอกว่า “กรรมใครที่ไปก่อไว้ก็ย่อมจะสนองในชาตินี้อย่างแน่นอน”

ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตเท่าที่เจอศพถึง 89 ราย ทางนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็มีความกังวลใจ เพราะตึกสตง.ความสูงถึง 30 ชั้นและอยู่ห่างไกลจากจุดศูนย์กลางที่เกิดแผ่นดินไหวกว่า 1,000 กิโลเมตร ทำไมถึงพังถล่มมาในลักษณะแพนเค้กซีเมนต์ได้ เราจึงได้นำพยานแวดล้อม ทั้งคนที่ถ่ายคลิปไว้ในขณะที่อาคารยุบตัวว่ายุบตัวอย่างไรมาประกอบทั้งหมด

คุณอาจสนใจ

Related News