‘เปรมชัย’ ปิดปากเงียบงดตอบสื่อ นั่งวีลแชร์เข้ามอบตัว สน.บางซื่อ คดีตึก สตง.ถล่ม

ความเคลื่อนไหวภายหลังการออกหมายจับ 17 คน กรณีอาคารสตง.ถล่ม ด้านเปรมชัย นั่งวีลแชร์เข้ามอบตัว ปิดปากเงียบไม่ตอบสื่อ ขณะที่ผู้ต้องหารายอื่นทยอยเข้ามอบตัวอย่างต่อเนื่อง

ภายหลังคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ออกหมายจับกับผู้ต้องหาทั้งหมด 17 ราย ในฐานะนิติบุคคล และ ส่วนตัว ในฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือ ทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้น ๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238

ล่าสุดวันนี้ 16 พ.ค. เมื่อเวลา 8.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการบริหารผู้มีอำนาจลงนามบริษัทอิตาเลียนไทย เดินทางมาพร้อมพร้อมทนายความส่วนตัว เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนที่สน.บางซื่อ โดยนายเปรมชัย ลงมาจากรถตู้ส่วนตัว โดยมีคนสนิทนำรถวีลแชร์มาให้นั่ง ซึ่งขณะที่นายเปรมชัยนั่งรถวีลแชร์ขึ้นไปยังสน.บางซื่อนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารับสารภาพ หรือกังวลใจอะไรหรือไม่ รวมทั้งมีอะไรอยากขอโทษสังคมหรือไม่ เจ้าตัว มีท่าทีนิ่งเฉยและไม่ตอบคำถามใดๆกับสื่อมวลชน

ขณะที่วานนี้ ( 15 พ.ค.68)   พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคล พบว่าแบบแปลนการก่อสร้างไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง และมาตรฐาน กลุ่มกำแพงปล่องลิฟต์ของอาคาร ไม่ได้อยู่ตรงกลางอาคาร แต่ชิดขอบด้านหลัง ทำให้ศูนย์กลางของการบิดตัวของอาคารเยื้องไปจากศูนย์กลางอาคาร เมื่ออาคารแกว่งตัวจากแผ่นดินไหว ทำให้กำแพงปล่องลิฟต์และเสาที่ฐานถล่มเกือบพร้อมกัน ทำให้อาคารทั้งหลังตกลงมาในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว

เมื่อส่งปูนซีเมนต์ ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคาร สตง. ไปตรวจว่ามีมาตรฐาน ตรงตามค่า KSC ซึ่งเป็นหน่วยวัดมาตรฐาน ที่ใช้วัดความแข็งแรงของคอนกรีต หรือไม่ ปรากฏว่าความแข็งแรงของคอนกรีต ไม่ได้มาตรฐานตามค่า KSC และเหล็กเส้นมีบางส่วนไม่ เป็นไปตามแบบเช่นกัน

ส่วนการตรวจลายมือชื่อของ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ผู้เสียหายที่ถูกปลอมลายมือชื่อลงไป ในฐานะวุฒิวิศวกร จากกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่า ตัวอย่างลายมือชื่อที่ส่งเปรียบเทียบ มีคุณสมบัติการเขียน รูปลักษณะของลายมือชื่อแตกต่างกันกับตัวอย่างลายมือชื่อของ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข จึงลงความเห็นว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของคนเดียวกัน

จากหลักฐานข้างต้นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงได้แบ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดออกเป็น 3 กลุ่ม และขอศาลออกหมายจับ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/4gs4ITlRMtM