สุดเศร้า ‘น้องมิ้น’ สาวสุราษฎร์ฯ เหยื่อไฟดูด จยย.ดับกลางน้ำท่วม เสียชีวิตแล้ว

กรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา น้องมิ้น นางสาวมนธนา ผ่องผิว พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประสบเหตุ ถูกไฟฟ้าช็อตขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ฝ่าน้ำท่วมถนนสายเลี่ยงเมือง ใกล้แยกบางใหญ่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ทำให้รถล้ม และหมดสติคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ เป็นเวลาหลายนาทีก่อนที่พลเมืองดี และกู้ภัยสุราษฎร์ธานี ได้เข้าช่วยเหลือ พร้อมทั้งปฐมพยาบาลเบื้องต้น CPR และนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี  

ทั้งนี้ มีภาพจากกล้องหน้ารถบันทึกภาพขณะที่ผู้บาดเจ็บพยายามขับ จยย. ฝ่าน้ำท่วมสูงบนพื้นถนน ในขณะที่มีฝนตกอย่างหนัก ก่อนที่จู่ๆ ผู้บาดเจ็บจะล้มลงไปในน้ำดังกล่าว และมีชาวบ้านเข้าไปให้การช่วยเหลือ

ขณะที่ทางนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังเกิดเหตุเดินทางมาเยี่ยมอาการของผู้บาดเจ็บ พร้อมให้กำลังใจกับครอบครัว และยืนยันว่าจะช่วยเหลือดูแลครอบครัวและผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ และจะไม่เกิดเหตุซ้ำรอยในลักษณะนี้ โดยล่าสุดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ในเขตตัวเมืองอย่างเร่งด่วน

ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) เวลา 07:00 น. น้องมิ้น หรือนางสาวมนธนา ได้เสียชีวิตอย่างสงบที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จากนั้นในช่วงเย็นญาติได้นำร่างนางสาวมนธนา มาถึงศาลาการเปรียญ วัดธรรมบูชา ตำบลตลาด อำเมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อที่จะจัดเตรียมพิธีกรรมทางศาสนาโดยมีกำหนดการฌาปนกิจกิจศพ ในวันอังคารที่ 13 พ.ค. นี้

นายธีรุตม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ต้นเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.มนธนา มาจากปัญหาน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นมามานานแล้ว แต่ผู้เกี่ยวข้องยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จนกระทั่งล่าสุดได้เกิดเหตุสลดบนถนนสายเลี่ยงเมือง ขณะที่ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ ลุยน้ำท่วมและถูกกระแสไฟฟ้าจากต้นไฟส่องแสงสว่างช๊อตจนทำให้หมดสติ และการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากการจราจรติดขัดและน้ำท่วมสูง หลังเกิดเหตุตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และให้เร่งแก้ไขในทุกจุดที่พบปัญหา

นายธีรุตม์ กล่าวอีกว่า ก่อนจะเดินทางมาเคารพศพ ตนได้เรียก ประชุมส่วนราชการ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเมืองสุราษฎร์ธานี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมผิวจราจรบริเวณสี่แยกบางใหญ่ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี บริเวณหน้าศาลแขวงสุราษฎร์ธานี และเส้นทางสายสุราษฎร์ – พุนพิน บริเวณแยกซอยโกเตง แยก บขส. แยก กม.0 ถึงหน้าโรงพยาบาลสราญรมย์ พื้นที่อำเภอเมืองฯ ต่อเนื่องอำเภอพุนพิน ที่ประสบปัญหาเมื่อฝนตกหนักจะทำให้น้ำท่วมผิวจราจร น้ำรอระบาย รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และยังทำให้เกิดอุบัติต่างๆ ขึ้น นำไปสู่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนและผู้ใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน

นายธีรุตม์ กล่าวด้วยว่า การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องบูรณาการร่วมกันในหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการของแต่ละหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นแขวงทางหลวง เทศบาล ต้องคุยกันว่าใครต้องทำอะไร ต้องมีแผนระยะสั้นก่อนว่าถ้ามีสถานการณ์ฝนตกหนักลงมาอีกต้องทำอย่างไร และหาวิธีทำอย่างไรให้น้ำระบายเร็วได้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะในเรื่องของการขุดเจาะทางน้ำไหลเข้าท่อ หรือการติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นไปก่อน ส่วนระยะยาวหรือการขุดลอกต้องมีการของบประมาณอาจต้องใช้เวลานาน ทั้งนี้จะนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูหน้างานกันอีกครั้ง เพื่อให้เห็นภาพชัดยิ่งขึ้น

ทางด้าน พล.ต.ต. เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่แขวงการทาง ซึ่งก็พบความบกพร่องของการต่อสายไฟแสงสว่าง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหล ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวน จะได้เรียกผู้รับผิดชอบ คือ แขวงการทาง, เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี มาสอบสวนปากคำ เพื่อพิจารณาว่า เข้าข่ายกระทำการโดยประมาท จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตหรือไม่ เพื่อจะได้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับสาเหตุของการเสียชีวิต คาดว่าในขณะเกิดเหตุซึ่งมีน้ำท่วมขังสูงและมีจักรยานยนต์ประมาณสามคันได้ผ่านตรงจุดดังกล่าวแต่น้องผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ใกล้กับเสาไฟที่มีการรั่วมากที่สุดซึ่งผู้รู้ระบุว่ารัศมีของกระแสไฟน่าจะมีบริเวณโดยรอบประมาณ 1 เมตร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกำลังไฟและลักษณะของน้ำด้วย อีกทั้งน้องที่เสียชีวิตได้จมน้ำในลักษณะคว่ำหน้าทำให้น้ำได้ทะลักเข้าปอดและการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากล่าช้าจึงทำให้น้องมีอาการโข่ก่อนจะถึงโรงพยาบาล และได้เสียชีวิตในที่สุด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/YXGyeIw9_5g