แม่เดือดจัด ถีบลูกสาววัย 3 ขวบ เทน้ำราดหัวกลางร้านอาหาร อ้างสั่งสอนลูกดื้อ

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดในร้านอาหารในพื้นที่อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น เป็นภาพเหตุการณ์แม่ทำร้ายลูกสาว ที่มานั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในร้าน โดยผู้เป็นแม่ได้หยิบขวดน้ำเทราดใส่หัวลูกสาว ก่อนจะเดินออกไปจากร้าน พร้อมกับตะโกนบอกลูกสาวว่า "มึงจะกลับไหมบ้าน มึงจะกลับไหม" โดยพนักงานในร้านได้เข้าไปช่วยเด็กหญิง นำทิชชูมาเช็ดตามตัวและศีรษะก่อนจะจูงแขนพาเดินไปส่งที่รถ ซึ่งแม่ของเด็กหญิงสตาร์ทเครื่องรออยู่หน้าร้าน ก่อนจะขับออกจากร้านไปพร้อมกับลูกสาว

ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับแม่ของเด็ก อายุ 32 ปี เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าตนเองพาลูกสาว วัย 3 ขวบ 6 เดือน มารับประทานอาหารที่ร้าน แต่เมื่อคืน ลูกสาวเล่นก้อนหิน ทางร้านก็มาเตือน ตนเองก็บอกลูกสาวแต่ไม่ฟัง ยังเล่นต่อ ตนเองจึงต้องลงไม้ลงมือใช้เท้าถีบ ซึ่งก็ทำเป็นปกติอยู่แล้วหากบอกไม่ฟัง พอกลับบ้าน ตนเองก็ลงโทษไม่ให้เข้าบ้าน ให้นอนอยู่ในรถ จนมีชาวบ้านจูงแขนเข้ามาหา เพราะปีนออกจากรถ แล้วไปเรียกคนข้างบ้านให้พามาส่ง ยอมรับตนเองตีลูกทุกวันเพราะเป็นการสั่งสอนลูกที่ไม่เชื่อฟัง ยืนยันว่ารักลูก ตนเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หาเงินเลี้ยงดูลูก ตนเองมีลูกสองคน ซึ่งลูกอีกคนเป็นลูกชาย ให้ไปอยู่กับญาติ ส่วนลูกสาวก็เลี้ยงตามลำพังและเลี้ยงดูอย่างดี

ล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น. ร้อยตรีเสถียร สาระสิทธิ์ นายอำเภอหนองสองห้อง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น นายกอบต.หนองไผ่ล้อม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันลงพื้นที่ไปพบกับแม่ของเด็ก โดยเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ซึ่งไม่พบสารเสพติดในร่างกาย แต่เจ้าตัวยอมรับว่าเสพยาบ้าเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว พร้อมทั้งยินยอมให้พาลูกสาวไปอยู่ในความดูแลของทาง พม.ขอนแก่น ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นเป็นการชั่วคราว เนื่องจากควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่รับปากว่าจะดูแลลูกสาวให้เป็นอย่างดี

ซึ่งในช่วงนี้ ทางผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะเข้ามาดูแลแม่ของเด็กเป็นระยะ เพื่อประเมินว่าจะสามารถนำลูกสาวกลับมาสู่อ้อมอกได้เมื่อไหร่ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและจิตใจ รวมถึงพฤติกรรมต่างๆที่สุ่มเสี่ยงจะทำร้ายลูกสาวอีก

ภายหลังการพูดคุยทำความเข้าใจกัน พบว่าแม่ของเด็กเกิดความเครียดอย่างเห็นได้ชัด ลุกขึ้นไปสูบบุหรี่และน้ำตาคลอเสียงสั่นที่จะต้องให้ลูกสาวไปอยู่กับทางเจ้าหน้าที่