สังคม
นักธุรกิจโล่งใจ หลังอดีตนายตำรวจที่เคยโกงเงินหลายสิบล้านถูกจับ
โดย chutikan_o
21 เม.ย. 2568
168 views
จากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2567 นายอิทธิเดช ธเนศวัฒนะ นักธุรกิจหนุ่ม เคยร้องเรียนกับทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ว่า ถูกอดีตนายตำรวจอักษรย่อ ส. สมอ้างว่า ตนเองเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฉ้อโกงหลอกลวงให้รับช่วงรับเหมาโครงการก่อสร้างแนวท่อประปาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ สูญเงินมากกว่า 30 ล้านบาทและแจ้งความที่ สน.บางซื่อ
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ สน.พหลโยธิน ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับอดีตนายตำรวจคนดังกล่าวในข้อหาแจ้งความเท็จและอยู่ในระหว่างการไปอายัดตัวที่ศาลแขวงพระนครใต้ เนื่องจากในวันนี้ อดีตนายตำรวจคนนี้เพิ่งถูกศาลพิพากษาจำคุก 20 เดือนโดยไม่รอลงอาญาจากคดีเช็คเด้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอคำสั่งพิจารณาการให้ประกันตัวในชั้นศาล โดยถ้าหากอดีตนายตำรวจได้รับการประกันตัว ทางตำรวจก็จะอายัดตัวมาดำเนินคดีตามหมายจับทันที
นอกจากนี้ ทางตำรวจยังได้นัดหมายให้นายอิทธิเดชมารอชี้ตัวผู้ต้องหาที่ สน.พหลโยธิน หากสามารถอายัดตัวอดีตนายตำรวจคนดังกล่าวมาดำเนินคดีได้ โดยนายอิทธิเดชเปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ภายหลังจากการจับกุมอดีตนายตำรวจคนนี้ได้ว่า
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 ตนถูกอดีตนายตำรวจหลอกลวงให้ไปลงทุนที่ จ.กาฬสินธุ์ นั้น โดยอดีตนายตำรวจอ้างว่า เขาได้ทำบริษัทและอยู่ในระหว่างรับทำโครงการก่อสร้างวางแนวท่อประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาคที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มูลค่ากว่า 268 ล้านบาท ซึ่งมีความคืบหน้าโครงการกว่า 60% แต่ต้องการขายช่วงรับเหมาโครงการให้แก่ตนในมูลค่า 20 ล้านบาท รวมทั้งอ้างว่าตนเองเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อความน่าเชื่อถือ
ตนเองจึงหลงเชื่อมั่นและตอบตกลงที่จะโอนเงินรับช่วงโครงการจำนวน 14.5 ล้านบาท เพราะเนื่องจากก่อนหน้านี้อดีตนายตำรวจติดหนี้เงินตนเองกว่า 5.5 ล้านบาท ก็เลยเอามาหักกลบลบหนี้กัน ซึ่งหลังจากทำโครงการดังกล่าวไปได้ปี 1 กลับพบว่า บริษัทของอดีตนายตำรวจถูกกรมสรรพากรยึดเงินประกันโครงการในธนาคารไปเนื่องจากไม่ชำระภาษี นั่นจึงทำให้ตนไม่สามารถเบิกเงินโครงการจากการประปาส่วนภูมิภาคได้ ก่อให้เกิดความเสียหายจากโครงการกว่า 30 ล้านบาท
นอกจากนี้ตนยังทราบข้อมูลอีกว่า หลังจากที่ตนโอนเงิน 14 ล้านบาทให้อดีตนายตำรวจเพียง 6 วัน อดีตนายตำรวจก็ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรลาออกกับบริษัทและได้ยักย้ายถ่ายเทเงินจำนวนดังกล่าว ภายในไม่ถึง 1 เดือนจนเกือบหมด ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกตนเองกำชับว่าให้อดีตนายตำรวจนำเงิน 14 ล้านบาทไปชำระค่าภาษีให้หมด จึงรวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอดีตนายตำรวจคนนี้เกือบ 40-50 ล้านบาท
นั่นจึงทำให้ตนไปแจ้งความที่ สน.บางซื่อ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ตอนแรกอดีตนายตำรวจยอมรับสารภาพและตกลงที่จะชดใช้เงินคืนเดือนละ 100,000 บาท แต่ชดใช้เพียงแค่ 2 เดือน หลังจากนั้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา อดีตนายตำรวจคนนี้ก็เงียบหายไป จึงเป็นเหตุทำให้ตนมาร้องเรียนกับทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 และแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ รอบที่สองเมื่อเดือนมกราคม 2567
ในเวลาต่อมาทางพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้ออกหมายเรียกให้อดีตนายตำรวจมารับทราบข้อกล่าวหา แต่ตัวเขาให้การปฏิเสธและขณะนี้อยู่ในระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล ทว่า อดีตนายตำรวจได้ฟ้องศาลอาญากล่าวหาว่าตนแจ้งความเท็จในเรื่องดังกล่าว สุดท้ายศาลอาญาได้ยกฟ้อง ตนจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.พหลโยธิน ว่า อดีตนายตำรวจแจ้งความเท็จเพื่อกลั่นแกล้งให้ตนได้รับโทษทางอาญา ก่อนที่ทางพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน จะขออำนาจศาลออกหมายจับเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา จนนำมาสู่การไปอายัดตัวอดีตนายตำรวจที่ศาลแขวงพระนครใต้ในวันนี้
นายอิทธิเดชกล่าวอีกว่า การที่อดีตนายตำรวจคนนี้ถูกศาลพิพากษาในคดีเช็คเด้งนั้น แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการฉ้อโกง ซึ่งตนรู้สึกดีใจที่อดีตนายตำรวจถูกศาลพิพากษาและตำรวจสามารถไปอายัดตัวมาดำเนินคดีได้ในวันนี้ แต่ถ้าหากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวอดีตนายตำรวจคนนี้และถูกนำตัวเข้าเรือนจำ ตนมองว่าถือเป็นเรื่องของเวรกรรมที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ยอมรับว่า เงินที่ตัวเองเสียไปนั้นมีโอกาสยากที่จะติดตามกลับคืนมา แต่ตนเองก็ยังคงมีความหวังและอย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการช่วยสังคมให้ขจัดคนไม่ดีออกไปได้ เชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายรายอื่นที่ถูกฉ้อโกงจากอดีตนายตำรวจคนนี้อีกจำนวนมาก
สำหรับอดีตนายตำรวจคนนี้ นายอิทธิเดชเล่าภูมิหลังว่า เขาเคยเป็นพนักงานสอบสวนสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยศร้อยตำรวจเอก แล้วลาออกจากราชการเพื่อมาประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้างโครงการของรัฐ ซึ่งตนรู้จักอดีตนายตำรวจคนนี้ผ่านเพื่อนตั้งแต่ปี 2564 โดยมักจะมีนิสัยชอบอวดอ้างชื่อผู้ใหญ่ในแวดวงข้าราชการตำรวจ ยิ่งตอนที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็อวดอ้างตัวเองว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งจากการที่ตนได้มีโอกาสสอบถามนายชัชชาติ ก็ได้รับการยืนยันว่า อดีตนายตำรวจคนนี้ไม่ใช่ที่ปรึกษาแต่อย่างใด
แท็กที่เกี่ยวข้อง โกงเงิน ,อดีตนายตำรวจ