ตร.จี้กรรมการลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานสร้างตึก สตง.เร่งเข้าให้ปากคำก่อน 30 เม.ย.

รองผู้ว่า กทม. ยันจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตล็อตแรก 18 เม.ย.นี้ รายละ 1 แสนบาท ขณะที่ผู้กำกับ สน.บางซื่อ ประสาน “ปฏิวัติ” กรรมการลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานสร้างตึก สตง. ให้เข้ามาให้ปากคำก่อน 30 เม.ย.

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมสถานการณ์ประจำวัน กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ (14 เม.ย. 2568) ได้มีการเคลียร์ความสูงของซากอาคารดังกล่าว ในทุกโซน ทั้ง A, B, C และ D ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามเเผน เเต่ปัญหาตอนนี้คือเส้นเหล็กบางจุด ที่ขวางไม่สามารถทำให้เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยลงไปสำรวจตามโครงต่างๆ วันนี้จึงได้มีการนำเครื่องจักรตัดเหล็กเพิ่มจำนวน 1 คัน เพื่อให้การค้นหาและรื้อถอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอนนี้เหลือยอดความสูงของซากอาคารได้ 19 เมตรแลัว

เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พบร่างผู้เสียชีวิต 2 รายบริเวณ โซน C ร่วมถึง ชิ้นเนื้อจำนวนอีก 24 ชิ้น โดยได้มีการนำร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นเนื้อทั้งหมดไปส่งพิสูจน์อัตลักษณ์ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และเช้าวันนี้ทาง พฐ. ได้ยืนยันเพิ่ม 1 คนจากการตรวจอัตลักษณ์บุคล ซึ่งตอนนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 44 คน บาดเจ็บ 9 คน สูญหาย 50 คน

ส่วนเรื่ององพิสูจน์อัตลักษณ์ จากรายชื่อที่ได้จาก สตม. ทั้งหมด 103 ราย พบเเล้ว 91 ราย เเต่ยังมีรายชื่อที่ยังตกหล่น โดยตอนนี้กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้เป็นตรวจสอบให้ น่าจะสามารถติดตามได้ทั้งหมด รวมถึงจะให้สำนังงานต่างประเทศของ กทม. ประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศด้วย ในการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์เพิ่มจากชายแดนของสถานทูตเมียนมา

ส่วนเรื่องหนึ่งคือกระทรวงมหาดไทยได้เพิ่มวงเงินในการจัดการศพ ศพละ 100,000 บาท โดยที่ไม่ต้องคิดในรายละเอียดว่าเป็น เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือเป็น ผู้หารายได้หลักของครอบครัวหรือไม่ แล้วก็กำหนดว่าจะจ่ายล็อตแรกที่ได้รับการรับรองแล้วในวันที่ 18 เมษายน ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้ขอเวลาให้ทาง กทม.เร่ง นำร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์ คาดล็อตแรก 15 ราย

ขณะที่ความคืบหน้าด้านคดีของเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ทางพันตำรวจเอกสนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เปิดเผยว่า ทางการสืบสวนตำรวจสน.บางซื่อ และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมกันทำงาน และแบ่งคณะทำงานกันตามละประเด็น สาวนประเด็นที่มีการออกหมายเรียก นายปฏิวัติ ศิริไทย กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกับกิจการร่วมค้า PKW ที่ลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ กับทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2564 ซึ่งกิจการร่วมค้า PKW ประกอบด้วย และที่นำหมายไปติดไว้ที่บ้านย่านอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้ง บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อให้เข้ามาให้ข้อมูลฐานะพยานจากเหตุตุกถล่ม

พ.ต.อ.สนอง บอกว่า ทางนายปฏิวัติ ได้ประสานมาทางพนักงานสอบสวน ขอเลื่อนไปในวันที่ 30 เมษายน 2568 แต่ตนเองจะให้พนักงานสอบสวนประสานกับให้มาพบเร็วขึ้นก่อน วันที่ 30 เมษายน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมาวันใด ส่วนนายปฏิวัติจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมลายเซ็นต์ของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ที่โดยแอบอ้างชื่อหรือไม่นั้นต้องรอสอบปากคำก่อน และตอนนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับในคดีกับใครืออกเพียงหมายเรียกเท่านั้น

ขณะที่วันที่ 17 เมษายนนี้ ทางพลตำรวจตรี สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนเหตุตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม เป็นประธานได้เรียกคณะทำงานทั่งหมดที่เกึ่ยวข้องกับคดีมาประชุมที่ สน.บางซื่อในเวลา 10.00 น.