ชาวบ้านบ่อวินร้อง ไปรษณีย์ซื้อที่ดิน 2 ไร่ ในราคา 30 ล้านบาท กว่า 7 ปี มีแต่ต้นไม้-ป่ารกร้าง

ชาวบ้านบ่อวิน รวมตัวกันร้องสื่อ หลังไปรษณีย์มาซื้อที่ดิน 2 ไร่ ในราคา 30 ล้านบาท กว่า 7 ปี มีแต่ต้นไม้-ป่ารกร้าง ทำให้มีแต่สัตว์เลื้อยคลานชุกชุม สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ที่อยู่ติดกับพื้นที่ดังกล่าว

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจาก ดร.เดชาโชติ ธีรธันยรัก ผู้สมัครจากกลุ่มเจ้าพระยา เพื่อประชาชน เบอร์ 2 และทีมผู้สมัครเขต 4 ว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายอภิสิทธิ์ อายุ 42 ปี อยู่ที่บ้านหลังหนึ่งใน ม.8 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าตนเองและเพื่อนบ้านหลายหลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนจากพื้นที่ไปรษณีย์ ที่มาซื้อทิ้งไว้เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว จนปัจจุบันมีแต่หญ้าป่าและต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าคาที่รกร้าง ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เฉพาะในช่วงที่มีฝนตก มักจะมีตะขาบตัวใหญ่ ยาวประมาณ10.15 ซม. จำนวนหลายสิบตัว เข้าไปในบ้านแต่ละหลัง บางครั้งก็มีงูสิงยาวประมาณ 2 เมตร งูหางแซ่ม้าเข้ามาในบ้านเรือนของประชาชน สร้างความหวาดกลัว

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่สำรวจ พบว่ามีป่าหญ้าและต้นไม้ใหญ่ปกคลุมรกร้าง และก็มีหญ้าแห้งและหญ้าสดรุกล้ำเข้าไปในบ้านของประชาชน โดยนางสาวนงนุช อายุ 35 ปี ต้องเสียเงินสร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อให้สูงกว่าป่าหญ้าเพื่อป้องกันอันตราย และบ้านบางหลังก็ย้ายออกไปเพราะกลัวอันตรายจากสัตว์ร้ายและจากผู้ไม่หวังดีที่อาจจะมาเสพยาเสพติดในป่า ทำให้บางทีเกิดเพลิงไหม้หญ้าและอาจลุกลามไปในบ้านของประชาชน เมื่อไม่นานมานี้ก็มีเหตุบุกรุกเข้าบ้านประชาชนและมาหลบอยู่ในป่าดังกล่าว ก่อนทีตำรวจ สภ.บ่อวิน และชาวบ้านช่วยกันจับกุมเอาไว้ได้

ที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่เศษ และซื้อไปในราคา 30 ล้านบาท ในยุครัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ซึ่งไร่ดังกล่าวติดกับถนนสาย 331 ช่วงระหว่างโรงพยาบาลปิยะเวชช์ บ่อวิน ฝั่งขาเข้าอำเภอพนมสารคาม และพื้นที่ดังกล่าวยังติดกับหมู่บ้านทรายแก้ว ห้องเช่ารายเดือนและหมู่บ้านแสนปรีดา 3 มีระยะทางที่ติดกับป่าหญ้าไม่ต่ำกว่า 200-300 เมตร จำนวนไม่ต่ำกว่า 10 หลังคาเรือน

ผู้เสียหาย กล่าวว่า อยากฝากให้ไปรษณีย์ที่มาซื้อที่ทิ้งไว้ มาแก้ไขให้กับประชาชนที่มาอาศัยอยู่กว่าไม่ต่ำ 20 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นไปรษณีย์อ่าวอุดมสาขา 2 มีที่ข้างโรงเรียนบ้านเขาหิน หมู่ที่ 6 ตำบลบ่อวิน แต่ปัจจุบันย้ายที่ทำการไปยังอำเภออื่น ตัวแทนชาวบ้านจึงไม่สามารถติดต่อใครได้ จึงมาร้องในเพจเฟซบุ๊คของ ดร.เดชาโชติ ธีรธันยรัก ให้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ลงพื้นที่มาแก้ไขให้กับประชาชนก่อนที่จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในอนาคต