จับมือยิงกระทิงป่าเขาภูหลวง อ้างกินพืชไร่เสียหาย เร่งหาตัวคนแล่เนื้อเหลือแค่หัว

กรมอุทยานฯ จับมือยิงกระทิงป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง พบเป็นชาวบ้านในพื้นที่ อ้างฉุนชอบมากินพืชไร่อยู่บ่อยครั้ง ส่วนกระทิงอีกตัวที่ถูกชำแหละแล่เนื้อเหลือแค่หัวอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ว่ามีผู้ต้องหารายอื่นหรือไม่

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยวา จากกรณีที่มีชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าพบกระทิงป่าถูกยิงตาย บริเวณป่าด้านทิศตะวันออกบ้านยุบอีปูน หมู่ที่ 4 ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ นม.4 (เขาภูหลวง) เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว กำนันตำบลวังหมี และผู้ใหญ่บ้านยุบอีปูน สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ พบกระทิงป่าเพศผู้จำนวน 2 ตัว เสียชีวิต โดยมี 1 ตัว ถูกแล่เนื้อไปเกือบหมด เหลือเพียงส่วนหัวและโครงกระดูก นอกจากนี้ ยังเกือบจับตัวผู้ต้องสงสัยในที่เกิดเหตุได้ แต่ผู้ต้องสงสัยไหวตัวทัน ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 68 นั้น

ต่อมา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว สามารถติดตามผู้ต้องหา ประกอบด้วยผู้รับซื้อเนื้อ จำนวน 2 ราย ซึ่งให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้รับซื้อ พร้อมทั้งให้การซัดทอดถึงผู้ที่นำเนื้อสัตว์มาส่งให้ทางร้านจำนวน 1 ราย ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว อยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหา เพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมดำเนินการทั้งหมด

ขณะที่ของกลางที่ตรวจยึดมาได้บางส่วนจากการจับกุมคนล่ากระทิง ได้แก่ เนื้อกระทิง ประมาณ 10 กิโลกรัม มีด จำนวน 5 เล่ม กระเป๋าเป้ จำนวน 2 ใบ ซึ่งส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าได้มอบหมายให้นายสัตว์แพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ร่วมตรวจสอบและเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อที่ตรวจยึดมาได้ ส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อตรวจสอบยืนยันชนิดของชิ้นเนื้อให้แน่ชัดว่าเป็นเนื้อกระทิงหรือไม่


ขณะที่ พ.ต.อ.อลงกรณ์ คลังเงิน ผกก.สภ.วังน้ำเขียว ได้เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้คุมตัวผู้ต้องหา 1 ราย ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ปลูกพืชไร่อยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว มาสอบปากคำ ที่ สภ.วังน้ำเขียว โดยได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนยิงกระทิงป่าจริง โดยอ้างว่าเป็นเพราะกระทิงป่าลงมากัดกินพืชไร่ที่ปลูกไว้ใกล้กับจุดเกิดเหตุบ่อยๆ จนทำให้ได้รับความเสียหาย และก่อนเกิดเหตุ กระทิงป่าตัวดังกล่าวก็จะมากินพืชไร่อีก แต่ไม่อยากให้เกิดความเสียหายจึงใช้ปืนยิง

ส่วนกระทิงอีกตัวที่ถูกชำแหละ ทางเจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นคนยิงหรือไม่ เพราะยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ แต่เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาไป ในข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16 และข้อหา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุสมควร มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490"