สังคม

สุดเศร้า ศพคนงาน 3 แม่ลูกถึงบ้านเกิดแล้ว เตรียมฌาปนกิจ 3 เม.ย.นี้ ผู้ว่าฯรุดให้กำลังใจ

โดย chutikan_o

31 มี.ค. 2568

2.7K views

ญาติสุดเศร้า ศพคนงาน 3 แม่ลูก ถึงหนองคายบ้านเกิดแล้ว ตายายตั้งศพเรียงกัน เตรียมฌาปนกิจ 3 เม.ย.นี้ เผยหลานสาวเพิ่งเรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ ไปทำงานแค่วันเดียวก็เกิดเหตุสลด ผู้ว่าฯรุดให้กำลังใจ พร้อมช่วยเหลือเต็มที่

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 แรงสั่นสะเทือนทำให้ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้ถล่มลงมา ทำให้คนงานเสียชีวิตและยังไม่ทราบชะตากรรมอีกหลายราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วนั้น คือ นางคำแสน อายุ 47 ปี, นายณัฐดนัย อายุ 25 ปี และ น.ส.สุมิตา อายุ 22 ปี ทั้งหมดเป็นแม่ลูกกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพจากกรุงเทพฯ มาส่งที่บ้านเกิด อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย โดยมีนายประเทือง อายุ 68 ปี และนางทอง อายุ 68 ปี พ่อแม่ของนางคำแสน พร้อมทั้งญาติพี่น้องมารอรับศพท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ โดยศพทั้ง 3 มาถึงช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ (31 มี.ค. 2568) หลังจากนั้นได้ช่วยกันวางโลงศพเรียงกันไว้ที่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวสภาพค่อนข้างเก่า

จากนั้นเวลา 15.30 น. นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, ว่าที่ร้อยตรีพงษ์สิทธิ์ เปรยะโพธิเดชะ นายอำเภอเฝ้าไร่, นพ.แหลมทอง แก้วตระกูลพงษ์ รองนพ.สสจ.หนองคาย, เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย, แรงงานจังหวัดหนองคาย, สวัสดิการและสังคม จ.หนองคาย, ประกันสังคม จ.หนองคาย, จัดหางานจังหวัดหนองคาย, พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.หนองคาย และหัวหน้าส่วนต่างๆ ในจังหวัดหนองคาย ได้นำพวงหรีดมาวาง ร่วมไว้อาลัย มอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติของผู้เสียชีวิต

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้ง 3 คน ถือเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ จังหวัดหนองคายจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาการเยียวยาช่วยเหลือตามสิทธิของผู้เสียชีวิต ซึ่งพบว่ามีการขึ้นทะเบียนกับบริษัทที่ทำงานไว้ รวมถึงเงินประกัน เงินชดเชยต่างๆ ก็จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนหลังจากนี้ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลเฝ้าไร่ ก็จะมาช่วยดูแลเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพจิต อย่างต่อเนื่อง ประสานชุมชนให้หมั่นดูแลครอบครัวนี้เนื่องจากสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปในคราวเดียว เป็นการกระทบจิตใจเป็นอย่างมาก ส่วนผู้ที่สูญหายก็ต้องติดตามข้อมูลว่าจะมีประชาชนชาวหนองคายเพิ่มเติมอีกหรือไม่

ด้านนายประเทือง กล่าวว่า เขามีลูก 3 คน นางคำแสนที่เสียชีวิต เป็นคนโต คนรองเป็นผู้ชายก็ไปทำงานที่เดียวกัน และลูกชายคนสุดท้องทำงานที่ประเทศไต้หวัน โดยนางคำแสนจะไปทำงานก่อสร้างกับสามีใหม่ ส่วนใหญ่รับงานสร้างลานเฮลิคอปเตอร์บนตึกสูง ส่วนนายณัฐดนัยเรียนจบแล้วก็ทำงานกับแม่มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่ น.ส.สุมิตา หลานสาว เพิ่งเรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย จะรับปริญญาในปีนี้ แม่เห็นว่าเรียนจบแล้ว จึงชวนให้มาทำงานด้วยกันไม่กี่วัน และเดินทางไปหาแม่เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2568 ซึ่งทำงานวันแรกคือวันที่ 28 มี.ค.วันที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยในวันนั้น ลูกสาว ลูกเขย หลานทั้ง 2 คน และลูกชายคนรองของตนเอง ไปทำงานก่อสร้างที่ตึก สตง. หลังเกิดเหตุได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมงานของลูกโทรมาแจ้งข่าวร้าย ว่าลูกสาว หลานทั้ง 2 รวม 3 คน เสียชีวิตและพบศพแล้ว ส่วนลูกเขยยังติดอยู่ในตัวตึกไม่ทราบชะตากรรม ตอนนี้คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว ส่วนลูกชายคนรองก่อนเกิดเหตุได้ลงมาเอาเหล็กด้านล่าง จึงรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด อยู่ระหว่างติดตามประสานและกำลังจะกลับบ้าน

ส่วนนางทอง กล่าวว่า ลูกสาวและหลานช่วยดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี ส่งเงินมาให้ตายายใช้ทุกเดือนไม่เคยขาด หลานสาวคนเล็กเพิ่งจะเรียนจบ เป็นเด็กเรียนดี ไม่เกเร ก่อนรับปริญญาในเดือนเมษายนนี้ จึงไปช่วยแม่ทำงานหวังจะมีเงินรายได้ ซึ่งตอนแรกหลานสาวบอกว่าจะไปแค่ 3 วัน และจะกลับในวันอาทิตย์ที่ 30 มี.ค.นี้ โดยมีแผนจะเรียนต่ออีก แต่ก็มาเกิดเหตุร้ายเสียก่อน โดยจะฌาปนกิจในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ที่วัดป่าธรรมคุณ บ้านภูเงิน ต.เฝ้าไร่ แต่ด้วยความที่มีเมรุหลังเดียว ก็จะนำร่างนางคำแสนเข้าเมรุ ส่วนหลานทั้งสองคนจะทำกองฟอนตามธรรมเนียมโบราณอีสาน เผาด้านหน้าไปพร้อมกัน

ขณะที่นางสุนันทินี เทียนไสย ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ครอบครัวนี้เป็นที่รักของคนในชุมชน โดยนายประเทืองนั้น เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านและปัจจุบันก็เป็น อสม. ชอบช่วยเหลือชาวบ้านคนอื่น หลานทั้งสองคนก็อัธยาศัยดี การเสียชีวิตในครั้งนี้เป็นที่สะเทือนใจของคนในชุมชนมาก และจะพยายามช่วยเหลือดูแลทั้งร่างกายและสภาพจิตใจของตายาย สมาชิกในครอบครัวหลังจากนี้ให้ดี



แท็กที่เกี่ยวข้อง  3แม่ลูก ,ศพคนงาน ,บ้านเกิด

คุณอาจสนใจ