แอดมินเพจดัง ยันไม่ได้ไลฟ์ขัดขวางตำรวจทำงาน อ้างถูกท้าทายก่อน

นายวราภรณ์ หรือ แจ๊ค แซ่ล้อ แอดมินเพจดัง ไลฟ์สดขณะดาบตำรวจศุภมิตร ผบ.หมู่ งานจราจร สภ.พรหมบุรี กำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วบนถนนสายเอเชีย จนดาบตำรวจศุภมิตร เกิดอาการเครียด เกร็ง หมดสติไป เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ผ่านทางโทรศัพท์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากก่อนหน้านั้นประมาณ 3-4 วัน มีน้องแฟนคลับตน ไปจอดรถไลฟ์สด ขณะดาบตำรวจศุภมิตร กำลังตรวจจับความเร็ว ซึ่งเป็นการไลฟ์สดตรวจสอบการทำงานตามที่กลุ่มของตนทำเป็นปกติอยู่แล้ว

แต่วันนั้น ดาบตำรวจศุภมิตร ก็ข้ามถนนมาถ่ายรูปรถ ถ่ายป้ายทะเบียน แล้วข่มขู่น้องคนดังกล่าวว่า “สิงห์บุรี-นครปฐม ไม่ไกล รอรับหมายเลย” ซึ่งตนมองว่า การเป็นตำรวจแล้วมาข่มขู่ประชาชนนั้นไม่ถูกต้อง โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าให้รอรับหมายจากความผิดเรื่องอะไร นอกจากนี้ พอเกิดเหตุ น้องจึงพูดในไลฟ์ว่า “พี่แจ๊ค ผมโดนขู่” ดาบตำรวจศุภมิตร ก็บอกว่า “ให้ไปบอกให้แจ๊คมา” สำหรับตนรู้สึกว่าเป็นการท้าทาย ทั้งที่ใส่ชุดข้าราชการอยู่

ซึ่งในเมื่อเรียกตน ตนก็ไปตามคำขอ โดยตนไม่ได้มีประเด็นขัดแย้งส่วนตัว ก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอกัน พอวันเกิดเหตุ ตนไปหา จึงเข้าไปถามสาเหตุว่า ไปข่มขู่ประชาชน ทำได้หรือ แล้วเรียกให้ตนมาเพื่ออะไร

นายวราภรณ์ ยืนยันว่า ด่านตรวจจับความเร็วที่พรหมบุรี มีข้อผิดปกติ เพราะตนทราบมาว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีระเบียบให้การตรวจจับความเร็วด้วยกล้องอิเล็กทรอนิกส์ ต้องส่งใบสั่งไปที่บ้านพร้อมรูปถ่าย แล้วทำไมยังต้องให้ตำรวจมานั่งยิงกล้อง แล้วจับปรับด้วยใบสั่งมือ

ยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะถ้าติดตามที่ตนไลฟ์สด จะเห็นว่าทุกครั้งถ้าตนไปเจอเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ ก็จะไลฟ์สดบริเวณรอบๆ ยกเว้นมีเจ้าหน้าที่มาพูดคุยด้วย แต่ในวันนั้น ไม่เหมือนกับทั่วไป เพราะดาบตำรวจศุภมิตร มีการท้าทายตน ถ้าไม่ได้ท้าทาย ตนก็คงไม่เข้าไปถามแบบนั้น จะแค่ไปยืนไลฟ์สดอยู่ข้างๆ

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากตำรวจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา นายวราภรณ์ ตอบว่า ตนเข้าใจว่าระบบตำรวจไทยเป็นระบบกล่าวหา ซึ่งประชาชนก็มีสิทธิแค่ไปแก้ต่างในชั้นศาล แต่ไม่สามารถไปห้ามไม่ให้แจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งก็ได้ทำใจไว้แล้ว และพร้อมไปต่อสู้ตามกระบวนการ

ส่วนที่ภรรยาของดาบตำรวจศุภมิตร จะไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ กรณีที่ตนโพสต์เปิดรับบริจาค ยืนยันว่า การรับบริจาค ตนมีการระบุจุดประสงค์ชัดเจน ว่าต้องการไปขอตรวจสอบข้อมูลการจับปรับของ สภ.พรหมบุรี ว่ามีค่าปรับจำนวนเท่าไหร่ เพราะเห็นว่าตั้งด่านกันเยอะมาก ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการขอข้อมูลดังกล่าว ยืนยันไม่มีเจตนาที่จะเรี่ยไรเงินเพื่อมาสนับสนุนกลุ่มของตน

อย่างไรก็ตาม ตนอยากขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของดาบตำรวจศุภมิตร เหตุที่เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เกิด เป็นเหตุไม่คาดฝัน และตนก็รู้สึกสงสารดาบตำรวจศุภมิตร เพราะรู้ว่าระบบราชการไทย ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา