2 หนุ่มเยอรมัน ขอโทษขโมยน้ำมันทาผิว ร้านลั่นไม่ยอม ขอปกป้องศักดิ์ศรีคนเกาะพะงัน

วงจรปิดจับภาพชัด นักท่องเที่ยว 2 หนุ่มชาวเยอรมัน ขโมยน้ำมันทาผิวสมุนไพรและโรออนระงับกลิ่นกาย เจ้าของร้านลุยแจ้งความ ตำรวจคุมตัวมาขอโทษ ร้านไม่ขอไกล่เกลี่ย ประกาศดำเนินคดีเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีคนเกาะพะงัน เผยที่ผ่านมานักท่องเที่ยวด้อยค่าเหยียดหยามเป็นประจำ

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ได้มี น.ส.พลอย อายุ 36 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย หมู่ 1 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำหลักฐาน เป็นคลิปภาพวงจรปิดที่ทางร้านบันทึกไว้ นำไปมอบพร้อมร้องทุกข์แจ้งความ กับ พ.ต.ท.สมศักด์ หนูรอด รอง.ผกก.สอบสวน สภ.เกาะพะงัน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ 2 หนุ่มนักท่องเที่ยว ชาวเยอรมัน ลักษณะคนแรกนุ่งกางเกงขาสั้นสีฟ้า ไม่สวมเสื้อ อีกคนนุ่งกางเกงขาสั้นสีชมพู ไม่สวมเสื้อ สวมหมวกสีแดง ที่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 เดินทางทำทีเข้ามาในร้าน เพื่อเลือกซื้อสินค้า แต่เมื่อเจ้าของร้านเผลอแอบหยิบ ขโมยน้ำมันทาผิว จำนวน 1 ขวด ราคา 550 บาท และโรออนระงับกลิ่นกายจำนวน 1 อัน ราคา 650 บาท จากนั้นทั้ง 2 ได้เดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้ชำระเงินที่เคาน์เตอร์บริการคิดเงิน เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.30 น.บ่ายวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา และเวลา 16.30 น.บ่ายวันเดียวกันทั้งคู่ก็ได้ย้อนกลับมาในร้านอีกครั้ง

ล่าสุดทาง พ.ต.ท.สมศักดิ์ หนูรอด รอง.ผกก.สอบสวน ได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.พชรพล วังหิน รอง สว.สอบสวน สภ.เกาะพะงัน ติดตามตัวหนุ่มนักท่องเที่ยวทั้ง 2 มาพบ และทำการสอบปากคำ ทราบชื่อนักท่องเที่ยวทั้งคู่ MR.Leo Benir Brucklacher สัญชาติเยอรมัน และ MR.Kawian Palgal สัญชาติเยอรมัน ทั้ง 2 ถือวีซ่านักท่องเที่ยว จากการสอบปากคำนักท่องเที่ยวทั้ง 2 จำนวนด้วยหลักฐาน จากคลิปวิดีโอ จึงยอมรับว่า ได้ขโมยน้ำมันทาผิว จำนวน 1 ขวด 550 บาท และ โรออนระงับกลิ่นกายจำนวน 1 อัน ราคา 650 บาท จริง รวมมูลค่า 1.200 บาท


ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ได้ช่วยไกล่เกลี่ย เพื่อให้นักท่องเที่ยวจ่ายงเงินชำระค่าสินค้าที่ขโมยไป ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ยินดีและขอโทษรับผิดกับการกระทำลงไป พร้อมยกมือไหว้ผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายยกโทษให้ แต่ในเรื่องของการขโมยทรัพย์สิน ผู้เสียหายไม่ยินยอม ให้เหตุผลว่าได้คุยกับ 2 นักท่องเที่ยวแล้ว ตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่นักท่องเที่ยวยันว่าไม่ได้ขโมย และ ก่อเหตุซ้ำซากถึง 2 ครั้ง จึงไม่ยินยอมที่จะยอมความ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง และขอปกป้องศักดิ์ศรีของผู้ประกอบการชาวไทยบนเกาะพะงัน ที่ถูกกลุ่มนักท่องเที่ยวด้อยค่ามักดูถูกเหยียดหยามจึงเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ซึ่งทาง พนักงานสอบสวน เมื่อคู่กรณีทั้ง 2 ตกลงกันไม่ได้ และผู้เสียหายไม่ยินยอม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จึงต้องดำเนินคดีกับ 2 นักท่องเที่ยว ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์” ดำเนินคดี และส่งศาลแขวงจังหวัดเกาะสมุยต่อไป