สังคม

น้องสาว-แฟน “อดีต ผกก.โจ้” ยื่นหนังสือพร้อมให้ข้อเท็จจริงกับดีเอสไอ ตรวจสอบปมถูกผู้คุมทำร้าย

โดย chutikan_o

11 มี.ค. 2568

163 views

น้องสาว-แฟน “อดีต ผกก.โจ้” ยื่นหนังสือ-ให้ข้อเท็จจริงกับดีเอสไอ ตรวจสอบปมถูกผู้คุมทำร้าย ด้านแฟนสาว มั่นใจการทำงานตำรวจ ยังติดใจทั้งการตาย-ถูกทำร้าย-กลั่นแกล้ง ระบุเรื่องในเรือนจำเป็นแดนสนธยา

จากกรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ ช่วงเช้าวันนี้ (11 มี.ค. 2568) นางสาวธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของผู้กำกับโจ้ และนางสาวสิภชา แก่นสุวรรณ หรือ ทราย แฟนสาว รวมถึงนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความส่วนตัว เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อยื่นหนังสือและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ในฐานะเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ถึงกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประเด็นที่ญาติร้องเรียนว่าผู้กำกับโจ้ถูกทำร้ายร่างกายจากผู้คุมภายในเรือนจำกลางคลองเปรม ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีใบรับรองแพทย์การตรวจร่างกายว่ามีรอยจากการถูกทำร้ายจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่รับผิดชอบตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย เปิดเผยภายหลังการยื่นหนังสือว่า วันนี้ญาติของผู้เสียชีวิต แม่ แฟน และน้องสาว มายื่นเอกสารเกี่ยวกับข้อเท็จจริง ซึ่งทางดีเอสไอรับไว้ตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.อุ้มหายอย่างไร แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดที่พูดคุยกัน แต่มีการให้ข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์

ส่วนจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้น วันนี้จะต้องตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน โดยเฉพาะตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่เพิ่งจะได้ข้อเท็จจริงจากญาติผู้เสียชีวิต โดยจะต้องตรวจสอบดูก่อนว่าจะมีผลเป็นอย่างไร จึงจะพิจารณาได้ว่าจะเข้าข่ายการรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ก็มีการเขียนหลักการไว้เยอะ โดยจะมีหน่วยงานทั้งอัยการ ฝ่ายปกครอง ดีเอสไอ ตำรวจ มีทั้ง 4 หน่วยในการเข้าตรวจสอบ โดยประเด็นนี้ก็จะร่วมทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานอื่น ส่วนจะใช้เวลานานหรือไม่นั้น ก็จะต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนเช่นกัน

ขณะที่ทราย กล่าวว่า วันนี้ได้มาบอกเล่าข้อเท็จจริงเพิ่มเติมกับทางดีเอสไอ ที่นอกเหนือจากเอกสารที่เคยยื่นไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและทวงความยุติธรรมคืนให้กับพี่โจ้ โดยยืนยันว่าการมาในวันนี้ ไม่ได้ไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจ แต่อย่างที่เคยบอกไปในฐานะคนในครอบครัว เธออยากจะช่วยพี่โจ้ให้ถึงที่สุด อะไรที่ครอบครัวสามารถทำได้ ก็อยากจะทำ อยากให้หลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ

แฟนอดีตผู้กำกับโจ้ ยังกล่าวอีกว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริง อยากให้เน้นไปที่เรื่องของสาเหตุการตายและการที่พี่โจ้ถูกรังแก ถูกกลั่นแกล้ง ถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ได้รับความเป็นธรรมก่อนหน้านี้ จากที่ทางครอบครัวเคยร้องเรียนไป ยืนยันว่าทางครอบครัวมีหลักฐาน แต่ขอไม่เปิดเผย

“พี่โจ้เขาทุกข์อยู่แล้ว ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เขาถูกกลั่นแกล้งรังแก มันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย คนเราไม่ได้ทำผิด แต่เอาไปขังอยู่ในนั้น ถูกตัดอาหาร มันทุกข์มาก” แฟนอดีตผู้กำกับโจ้กล่าว

เมื่อถามถึงเอกสารที่ทางราชทัณฑ์เผยแพร่ชี้แจงข้อเท็จจริง 6 ข้อ ทางครอบครัวได้เห็นแล้วหรือไม่นั้น ทรายตอบว่า “ข้างในเรือนจำเป็นแดนสนธยา เขาสามารถที่จะพูดหรือทำอะไรก็ได้ แต่เรื่องข้างนอก พี่โจ้ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะถูกทำร้ายร่างกายและกลั่นแกล้งจากผู้คุมจริงๆ เป็นผู้คุมคนเดียว ซึ่งความต้องการของทางครอบครัว ยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า อยากให้ย้ายผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมในปัจจุบัน และผู้คุมคู่กรณีให้ออกจากเรือนจำไปก่อน เพราะกลัวมีปัญหาเรื่องการสืบพยาน และกังวลว่าหากพวกเขายังอยู่จะสามารถพูดหรือทำอะไรก็ได้เพื่อขัดขวางการสอบสวนหรือปกปิดข้อเท็จจริง”

ที่ผ่านมาทางครอบครัว ยืนยันว่า ไม่เคยมีปัญหาอะไร แม้จะมีการเปลี่ยนผู้บัญชาการเรือนจำอยู่หลายครั้ง แต่ผู้บัญชาการเรือนจำคนปัจจุบันและคนก่อนหน้านี้ เธอเคยยื่นเอกสารไปรวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ แต่ก็ไม่เคยได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้เลย

ส่วนในวันเกิดเหตุ ยอมรับมีรายชื่อเธอ และเพื่อนๆ ของโจ้ไปเยี่ยมตามปกติ ซึ่งเป็นรายชื่อที่มีสิทธิเข้าเยี่ยมได้ 10 รายชื่อ ส่วนใหญ่ก็เป็นการพูดคุยเข้าไปให้กำลังใจเขา ถามสารทุกข์สุกดิบเป็นปกติ แต่ในส่วน 10 รายชื่อมีใครบ้าง จำไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่ามีรายชื่อของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์หรือไม่ ยอมรับว่าจำไม่ได้ แต่เป็นเรื่องของข้างในว่าพี่โจ้จะเขียนชื่อใครให้เข้าเยี่ยมบ้าง แต่ส่วนใหญ่ที่คุยกับเราก็จะเป็นเรื่องคดีรถที่สูญหาย แต่เป็นเรื่องนานแล้วที่จบไปแล้ว

ส่วนเรื่องการกินยาปรับสารเคมีในสมอง เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ยืนยันว่า พี่โจ้ไม่เคยกินยาชนิดนี้ ยาที่พี่โจ้กินเป็นเพียงยานอนหลับ ไม่ใช่ยาที่ทำให้สมองผิดปกติ

ขณะที่นางสาวธนัญญา น้องสาวของอดีตผู้กำกับโจ้ ยืนยันว่าไม่เคยเอาผ้าขนหนูเข้าไปให้พี่ชาย เพราะปกติของข้างนอกเราไม่สามารถเอาเข้าไปได้อยู่แล้ว มีเพียงการฝากเงินเอาไว้ ถ้าหากเขาอยากซื้ออะไร มันจะหักกับบัญชีบัตรของเขา ซึ่งเป็นการซื้อของตามรายการที่เขาสามารถซื้อได้ ทางข้างนอกเราเองก็ไม่ทราบว่าเขาจะเอาไปซื้ออะไรบ้าง

ด้านนายวีรศักดิ์ ทนายความส่วนตัว ตอบถึงเรื่องการชันสูตรพลิกศพรอบ 2 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า ยังรอผลการตรวจพิสูจน์อยู่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ ถึงจะแจ้งชี้แจงมาอีกครั้ง ยืนยันว่าขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้ให้น้ำหนักอะไร เพราะอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและการตรวจนิติเวช

ส่วนเรื่องผ้าขนหนู ขอยังไม่ให้ความเห็น เพราะไม่ได้เห็น หลักฐานอยู่กับทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน รอให้เขาแจ้งมาดีกว่า



คุณอาจสนใจ

Related News