เตรียมฝากขังชาย 61 ฟันเจ้าหนี้ดับ หลังเคลียร์หนี้สินไม่ลงตัว จำนองที่ดินส่งเงิน 9 ปี ยังไม่ได้คืน

เตรียมฝากขังชาย 61 ฟันเจ้าหนี้เสียชีวิต หลังเคลียร์หนี้สินไม่ลงตัว ไม่พอใจจำนองที่ดินส่งเงิน 9 ปี ยังไม่ได้คืน ซ้ำยังติดเงินอยู่ 750,000 บาท ทั้งที่ยอดหนี้คือ 230,000 บาท

จากการที่นายพิมล อายุ 61 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธมีดอีโต้ ยาวประมาณ 50 ซม. ฟันนายสุรชาติ อรุณเดชาชัย หรือ เฮียเซียง เจ้าของธุรกิจพันธุ์ไม้ชื่อดังเมืองชุมแพ อายุ 65 ปี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด พนักงานสอบสวนควบคุมตัวนายพิมลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และชี้จุดเกิดเหตุภายในบ้าน ต.ภูผาม่าน โดยจุดแรกเป็นบริเวณแคร่เป็นจุดที่วางมีดอีโต้ไว้ จากนั้นได้ชี้จุดบริเวณโต๊ะไม้หินอ่อน ที่นายพิมลและเฮียเซียงได้นั่งพูดคุย ก่อนที่จะตกลงกันไม่ได้ จากนั้นนายพิมลคว้ามีดอีโต้ฟันเฮียเซียง บริเวณที่เก้าอี้ไม้หินอ่อน ก่อนที่เฮียเซียงจะรีบวิ่งมาขึ้นรถแต่หมดแรงข้างรถ

นายพิมล กล่าวว่า ที่ทำลงไปเพราะตนเองไม่สามารถพูดคุยเรื่องหนี้สินกัน เพราะยอดหนี้สินนั้นเป็นเงินจำนวน 230,000 บาท แต่กลับต้องเป็นหนี้มากถึง 750,000 บาท แม้ว่าจะพยายามที่จะพูดคุย เพื่อเคลียร์หนี้กัน แต่ก็ไม่สำเร็จ ส่วนโฉนดที่ดินยังคงอยู่กับเฮียเซียงยังไม่ถูกนำไปขายต่อ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ก่อนจะควบคุมตัว และเตรียมฝากขังศาลจังหวัดชุมแพในวันพรุ่งนี้ (10 มี.ค. 2568)

ด้านภรรยาผู้ก่อเหตุได้นำหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน ระหว่างนายพิมล ผู้จำนอง และนายสุขี อรุณเดชาชัย หลังได้นำโฉนดที่ดินจำนวน 4 ไร่ มาทำหนังสือสัญญาเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 51 เพื่อใช้ค้ำประกันเงินกู้ยืมจำนวน 220,000 บาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี และตกลงนำส่งดอกเบี้ยเดือนละครั้งเสมอไป หลังเป็นเอกสารสำคัญ ที่ทำให้นายพิมลไม่พอใจ หลังจากที่นายสุรชาติเรียกเก็บเงินทบต้นทบดอกเป็นเงินจำนวน 750,000 บาท ก่อนที่นายสุรชาติจะมาทวงเงิน และการพูดคุยไม่สำเร็จ จนทำให้นายพิมล ใช้มีดอีโตในบ้านฟันนายสุรชาติเสียชีวิต

ภรรยาผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลังจากที่ได้กู้ยืมเงินมา เธอพร้อมสามีเคยนำเงินจำนวน 80,000 บาท ไปตัดเงินต้น พร้อมกับชำระดอกเบี้ยมาโดยตลอด จากนั้นได้ไปขอยืมเงินมาอีกจำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 70,000 บาท และได้นำเงินไปตัดเป็นก้อน ครั้งละ 20,000 บาท 30,000 บาท 40,000 และ 50,000 บาท แต่มีช่วงหนึ่งไม่ได้จ่ายเงินเป็นเวลา 5 เดือน แต่ก็นำเงินก้อนไปให้ที่บ้านของเฮียเซียง ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2551 ที่ได้ทำสัญญาฯ เธอส่งเงินต้นและเงินค่าดอกเบี้ยรวมแล้วมากกว่า 1 ล้านบาท จนกระทั่งลูกสาวเสียชีวิต ทำให้ไม่ได้ส่งเงินประมาณ 1 ปี

เฮียเซียงมาพูดคุยเมื่อปี 2566 บอกให้ชำระใหม่โดยต้องชำระเงินทั้งหมด 750,000 บาท จากนั้นพูดคุยโดยขอผ่อนเดือนละ 5,000 บาท จนกว่ายอดเงิน 750,000 บาท จะหมดหนี้ จนกระทั่งได้ผ่อนเงินมาได้จำนวน 150,000 บาท เธออยากจะได้ที่ดินที่อยู่ข้างบ้าน เลยได้ขอต่อรองว่าขอให้ช่วยลดเงินเหลือ 400,000 บาท ได้ไหม เพราะผ่อนมาแล้ว 150,000 บาท แต่สุดท้ายเฮียเซียง บอกให้ต้องชำระเงินจำนวน 500,000 บาท ต่อมาติดต่อลูกชายเพื่อนำเงินจำนวน 500,000 บาท มาจ่ายหนี้เพื่อจะได้นำโฉนดที่ดินออกมาเพื่อจะขายต่อ นำเงินมาใช้จ่ายหนี้สินอย่างอื่น เมื่อหาเงินได้จำนวน 500,000 บาท แต่สุดท้ายเฮียเซียงกลับไม่ยอมเอาเงิน เธอก็ต้องรับผิดชอบกับเงินดอกรายวันที่ไปกู้ยืมมา ทำให้ต้องหาเงินมาจ่ายวันละ 10,000 บาท จนทำให้ท้อถึงร้องไห้

และเมื่อหาเงินมาให้เฮียเซียงตามที่คุยไว้ แต่เฮียเซียงก็พูดเรื่องหนี้สินไปเรื่องใหม่อีก จนทำให้สามีเครียดที่มานานไม่มีที่จะระบาย ปรึกษาใครก็ไม่ได้ ไม่มีใครเข้ามาช่วยแก้ไขเรื่องหนี้สินได้ มีแต่มองหน้ากันพร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยกัน จนกระทั่งเมื่อวันเกิดเหตุเฮียเซียงได้เข้ามาในหมู่บ้าน จากนั้นสามีไปขอเพื่อให้ลดเงินจำนวน 750,000 บาท ลงอีกเนื่องจากได้ชำระเงินมาแล้วจำนวนมาก แต่ก็ไม่สำเร็จ โดยเฮียเซียงบอกว่า “มึงอย่ามาขอกู” จึงทำให้สามีควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ก่อนจะใช้มีดอีโต้ฟันเฮียเซียงจนเสียชีวิตดังกล่าว