สังคม
รวบ 10 โจ๋ แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวาย เปิดแผนเตรียมการล่วงหน้า ล่าต่างสถาบัน
โดย passamon_a
6 มี.ค. 2568
703 views
จากกรณีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ก่อเหตุยิง นายนราวิช อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย สาขาเทคโนโลยีโลจิสติกส์และการจัดการระบบขนส่ง ส่งผลให้กระสุนทะลุหน้าอก 2 นัด อาการสาหัสอยู่บนฟุตบาท ถูกนำตัวส่งรักษา รพ.ตำรวจ ภายหลังอาการปลอดภัย เหตุเกิดใกล้ซอยจุฬาฯ 12 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ กทม. เมื่อเวลา 22.50 น. วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 มี.ค.68 ทางเจ้าหน้าที่สืบนครบาลได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ 10 ราย และเปิดปฏิบัติการตรวจค้น 19 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ จ.สมุทรปราการ โดยสามารถจับกุมทั้งคนชี้เป้าและผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด 9 ราย พร้อมของกลางเป็นรถกระบะสำหรับขนรถจักรยานยนต์ 2 คัน รถเก๋งสำหรับพาคนร้ายหลบหนี 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 4 คัน โดยในระหว่างการควบคุมตัวผู้ต้องหาแต่ละคนเข้ามาสอบปากคำที่ศูนย์สืบนครบาล ทีมข่าวพยายามสอบถามว่าแต่ละคนทำหน้าที่อะไร แต่ก็ไม่มีผู้ต้องหาคนใดตอบคำถามผู้สื่อข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายธนดล หรือ นุ อายุ 25 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาคดีประกบยิงนักศึกษาอุเทนถวาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส มาที่ศูนย์สืบนครบาลเพื่อทำการสอบปากคำ โดยในระหว่างการสอบปากคำ นายนุได้เปิดเสื้อโชว์ให้เห็นถึงรอยฟันเฟืองจำนวน 4 วง อยู่ที่บริเวณหัวไหล่ข้างซ้าย เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์สื่อให้เห็นว่าเป็นนักเรียนช่างกล ซึ่งเป็นประเพณีรับน้องที่ทำกันมารุ่นต่อรุ่น
โดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกับสื่อมวลชน ระบุว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ก็ได้มีการมอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ดำเนินการจนสามารถขออำนาจออกหมายจับผู้ต้องได้ 10 ราย ดังต่อไปนี้
1. นายธนดล หรือ นุ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นมือยิง
2. นายเกียรติศักดิ์ หรือ โต อายุ 21 ปี
3. นายภัทรวรรธน์ หรือ บอล อายุ 21 ปี
4. นายอาดิล หรือ ดิล อายุ 20 ปี
ทั้ง 4 คน ถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
5. นายกรกนก หรือ หยก อายุ 24 ปี
6. นายธีรยุทธ หรือ ปอนด์ อายุ 22 ปี
7. นายกิจชนะ หรือ บูม อายุ 22 ปี
8. นายพีระพัฒน์ หรือ กาย อายุ 21 ปี
ทั้ง 4 คน ถูกออกหมายจับในข้อหาสนับสนุนในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
9. นายปฏิพัทธ์ หรือ นิว อายุ 21 ปี
10. นายอัษฎาวุธ หรือ เวฟ อายุ 20 ปี
ทั้ง 2 คน ถูกออกหมายจับในข้อหาให้การช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งได้กระทำความผิดอาญา เพื่อให้พ้นจากการถูกลงโทษ หรือได้รับโทษน้อยลง
สำหรับแผนประทุษกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ได้มีการเตรียมการตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม ก่อนงานสถาปนา 4 วัน คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่หน้าสถาบัน 2 วัน คือวันที่ 27-28 มกราคม แต่ไม่สามารถก่อเหตุได้ อาจจะเพราะยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน จนวันที่ 29 มกราคม ก็สามารถก่อเหตุได้สำเร็จ โดยมีคนชี้เป้าอยู่บริเวณมาบุญครอง ส่วนมือปืนหลบอยู่บริเวณใต้สะพานหัวช้าง ก่อนจะมีการลงมือก่อเหตุและหลบหนีไป ในขณะหลบหนีมีการขับรถย้อนศรบนฟุตบาท ทำให้กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ทั้งหมด
จากการสืบสวนยังพบว่า เบื้องต้นคดีนี้มีคนร้ายอย่างน้อย 10 คน ก่อนเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้ไปซื้อรถจักรยานยนต์คันใหม่ และนำไปจอดพักคอยที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา รวมทั้งมือปืนได้มีการซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อใช้ก่อเหตุโดยเฉพาะ ส่วนหลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายได้มีการนำรถกระบะมาขนรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุไปซ่อน และมีรถอีกคันมารับมือปืนไป เพื่อให้ยากต่อการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นทุกคนให้การภาคเสธ แต่มั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดได้แน่นอน เพราะก่อนการจับกุม ได้มีการแจ้งให้ชุดจับกุมทุกนายรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน หนาแน่น โดยพยานทุกชิ้นจะต้องรัดกุมและสามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน เมื่อขึ้นสู่ศาลทุกคนต้องถูกลงโทษ ศาลไม่ยกฟ้อง และอีกอย่างมีหลักฐานชัดเจนว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีการเตรียมการทุกอย่างตั้งแต่ก่อนก่อเหตุจนถึงหลังก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนนัดแนะคำให้การกับตำรวจเมื่อถูกจับกุมว่าจะต้องให้การอย่างไรบ้าง ในเคสนี้จะมีการขยายผลไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งผู้ร่วมขบวนการ ผู้รู้เห็น และให้การสนับสนุน ถ้ามีพยานหลักฐานถึงผู้ใดก็จะดำเนินการทั้งหมด
นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหาบางคนเคยมีประวัติอาชญากรรม คือ นายธีรยุทธ หรือ ปอนด์ อายุ 22 ปี นายกิจชนะ หรือ บูม อายุ 22 ปี เคยถูกดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และนายเกียรติศักดิ์ หรือ โต อายุ 21 ปี เคยโดนดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน
จากการเข้าตรวจค้น 19 จุดทั่วกรุงเทพฯ และจังหวัดสมุทรปราการ สามารถตรวจยึดของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ 4 คัน รถยนต์ 3 คัน เสื้อผ้า รองเท้า หมวกกันน็อกที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และยังพบกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง
โดยหลังจากนี้ทาง พล.ต.ท.สยาม จะดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ด้วยตนเอง เพื่อสอบถามแรงจูงใจในการก่อเหตุว่าเกิดจากอะไร และมีความเชื่อมโยงกับเรื่องสถาบันการศึกษาหรือไม่
ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เปิดเผยถึงแผนประทุษกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุว่า ได้มีการตระเตรียมการกันล่วงหน้าประมาณ 15 วัน เนื่องจากเป็นช่วงใกล้จะมีงานวันบลูเดย์ของอุเทนถวาย โดยในช่วงวันที่ 27-28 มกราคม 2568 พบว่ามีผู้ก่อเหตุได้ใช้รถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่บริเวณละแวกจุดเกิดเหตุ จนกระทั่งเวลาตี 1 ก็มีนักศึกษาอุเทนถวาย 2 ราย ขี่รถไปทางสะพานหัวช้าง ผู้ก่อเหตุที่ซุ่มรออยู่จึงออกมาทันที จึงเชื่อว่ามีผู้ที่ชี้เป้าให้อยู่บริเวณซอยจุฬา 12
โดยผู้ก่อเหตุได้ขี่รถตามเป้าหมายไปถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ก่อเหตุไม่สำเร็จเพราะเป้าหมายรู้ตัว ผู้ก่อเหตุก็ขี่รถกลับมาเฝ้าหาเป้าหมายรายอื่นต่อไปจนถึงช่วงตี 2 ก่อนแยกย้ายกลับไป
ต่อมา วันที่ 29 มกราคม 2568 กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้รถยนต์มาสด้า ขับพามือยิงและคนขี่รถจักรยานยนต์ มาส่งที่จุดเดินที่ทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ แล้วขี่รถวนเวียนหาเป้าหมายในพื้นที่ตั้งแต่ 18.30 น. และมีคนมาชี้เป้าเหมือนเดิม
จนเวลา 22.54 น. พบว่าผู้ก่อเหตุที่ซุ่มอยู่ตรงสะพานหัวช้างมีการรับโทรศัพท์ เป็นจังหวะเดียวกับที่นักศึกษาอุเทนถวาย 16 คน เดินออกมาจากสถาบัน เมื่อผู้ก่อเหตุวางสายโทรศัพท์ก็ขี่รถออกมาทันที และก่อเหตุยิงตอน 22.55 น.
หลังก่อเหตุแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้รถมาสด้าขับประกบรถมือยิงที่ขี่หลบหนีไปถึงจังหวัดสระบุรี แล้วไปทิ้งรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุไว้ ก่อนจะรับมือยิงและคนขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้ากรุงเทพฯ จากนั้นได้เอารถกระบะอีกคัน ขับไปเอารถจักรยานยนต์ที่ทิ้งไว้ที่สระบุรีกลับมาที่กรุงเทพฯ โดยนำไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าก่อนจะสีคนมารับไปอีกที
นอกจากนี้ ยังพบว่าก่อนก่อเหตุ ได้มีการรวบรวมเงินกันประมาณ 15,000 บาท ไปซื้อรถจักรยานยนต์ที่จะใช้ก่อเหตุ แล้วเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 กลุ่มผู้ก่อเหตุได้เอารถกระบะไปขนรถจักรยานยนต์ เอาไปจอดไว้ที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วค่อยไปขี่เข้ากรุงเทพฯ มาก่อเหตุ และพบว่ามีจุดเซฟเฮ้าส์ 2 จุดคือซอยนวมินทร์ 26 และซอยพัฒนาการ 50 ซึ่งจากการที่ได้เข้าตรวจค้นวันนี้ ก็พบพยานหลักฐานที่ใช้ในการกระทำผิด
สำหรับมาตรการป้องกันความปลอดภัยหลังจากนี้ จะมีการเพิ่มจุดตรวจตา เพิ่มแสงไฟ และติดตั้งกล้อง CCTV ในบริเวณที่เป็นจุดซ่อนหรือจุดพักคอยของคนร้าย ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้สายตรวจของแต่ละท้องที่ดำเนินการกวดขันให้มากขึ้นกว่าเดิม
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/MMjzFy9vDKE
แท็กที่เกี่ยวข้อง อุเทนถวาย ,ยิงนักศึกษาอุเทนถวาย ,ล่าต่างสถาบัน