ปรับ 6,000 คนขับรถตู้ทำนักเรียนร่วงกลางถนน ขอโทษพ่อแม่ อ้างไม่ได้ตั้งใจ คาดตัวล็อกประตูหลังชำรุด

หวาดเสียว รถตู้รับส่งนักเรียนขับกระชากออกจากไฟแดงหักเลี้ยวเปลี่ยนเลน ประตูหลังเปิด เด็กพลัดตกกลางถนน หวิดโดนรถที่ตามหลังมาทับ ด้านคนขับรถตู้สำนึกผิด ขอโทษ พบมีการดัดแปลงรถ ตัวล็อกประตูหลังชำรุด


เมื่อวันที่ 25 ก.พ.68 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ศุภชัย แซ่เตื้อง ได้โพสต์คลิปกล้องหน้ารถ ขณะรถตู้รับส่งนักเรียนสีขาวติดไฟแดง จนเมื่อไฟเขียวรถตู้คันดังกล่าวได้เร่งเครื่องออก และหักเลี้ยวเปลี่ยนเลนกะทันหัน จนทำให้ฝากระโปรงด้านหลังเปิดอ้า นักเรียนผู้ชายในรถ ซึ่งแต่งกายชุดนักเรียนและมีเสื้อหนาวสวมทับ สะพายกระเป๋าด้านหลัง ได้พลัดตกลงมาจากรถตู้กลิ้งไปตามถนน โชคดีที่รถกระบะซึ่งขับตามหลังมาเบรกได้ทัน และพยายามบีบแตรส่งสัญญาณให้รถตู้ทราบว่ามีเด็กตกลงมา แต่รถตู้ได้ขับตรงไป โดยคนขับรถกระบะได้ลงไปช่วยเด็กนักเรียน และมีผู้หญิงที่อยู่ริมถนนวิ่งเข้ามาช่วยอีกแรง


โดยผู้โพสต์ระบุว่า เตือนภัย!!! รถนักเรียนให้ขับดี ๆ สักนิด ประตูควรปิดสนิทด้วยน่ะครับ โรงเรียนไหนไม่ทราบ พาเด็กไปหาหมอม่ายไม่รู้ พร้อมระบุว่าเหตุเกิด สี่แยกเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช


นายศุภชัย ผู้โพสต์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์กระบะมาเพียงคนเดียว มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อมาซื้อยาให้แม่ เวลาประมาณ 06.30 น. ของวันที่ 25 ก.พ.68 รถติดไฟแดงที่สี่แยกเบญจมราชูทิศ ถนนกะโรม ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีรถตู้รับส่งนักเรียนคันดังกล่าวติดไฟแดงอยู่ด้านหน้า


เมื่อสัญญาณไฟเขียวรถตู้คันดังกล่าวเร่งเครื่องแบบกระชากออกจากไฟแดง และเลี้ยวเปลี่ยนเลนอย่างกะทันหัน เพื่อที่จะแซงรถที่อยู่ด้านหน้า ทำให้ฝากระโปรงด้านหลังเปิดอ้าออกมา นักเรียนเคราะห์ร้ายอายุ 8-10 ขวบ คนดังกล่าว ได้พลัดตกลงมาม้วนกลิ้งกลางถนน โชคดีที่ตนเบรกได้ทันและลงไปช่วยเด็ก โดยเด็กบาดเจ็บไม่มากนักอาจจะมีอาการเคล็ดขัดยอกเท่านั้น


หลังเกิดเหตุ แม่ของเด็กชายได้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าลูกชายเรียนอยู่โรงเรียนบ้านทวดทอง ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ ซึ่งแม่ของเด็กแจ้งว่า จากการสอบถามคนขับรถตู้อ้างว่าเด็กตกในขณะที่รถจอดติดไฟแดง และไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ แต่เมื่อมาเห็นคลิปมันไม่ได้เป็นไปตามที่คนขับรถตู้อ้างแต่อย่างใด จึงได้นำเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และนำคลิปเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีกับคนขับรถตู้


ต่อมาเวลา 14.30 น. นายจักรพงศ์ อายุ 40 ปี คนขับรถตู้ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เบื้องต้นนายจักรพงศ์ รับสารภาพอ้างไม่ได้ตั้งใจ โดยตนขับรถรับส่งนักเรียนมานานหลายปีแล้ว ทุกครั้งที่ขับรถไปรับส่งนักเรียนจะตรวจสอบสภาพรถ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย ตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ส่วนสาเหตุคาดว่าตัวล็อกประตูหลังอาจจะชำรุด อย่างไรก็ตามตนต้องขอโทษนักเรียน ขอโทษพ่อแม่ และขอโทษสังคมด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ตั้งใจ ส่วนเด็กชายที่ตกจากรถเป็นนักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนบ้านทวดทอง


โดยก่อนเกิดเหตุตนขับรถรับส่งนักเรียนจาก อ.พรหมคีรี มุ่งหน้าส่งนักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ ใน อ.เมือง เมื่อถึงที่เกิดเหตุติดสี่แยกไฟแดงที่สี่แยกเบญจมฯ เมื่อไฟเขียวตนออกรถเป็นจังหวะเดียวกับประตูหลังเปิดอ้า ทำให้เด็กชายพลัดตกจากรถ ก่อนที่ตนจะจอดรถริมถนน ห่างสี่แยกไฟแดงไม่ถึง 100 เมตร หน้าศูนย์ดับเพลิงเทศบาล ใกล้สี่แยกเบญจมฯ แล้วรีบกลับไปช่วยเด็กชาย


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมเดินทางไปตรวจสอบรถตู้รับส่งนักเรียนที่เกิดเหตุ พบว่าสภาพรถค่อนข้างเก่า ในห้องโดยสารมีการดัดแปลงเอาเบาะนั่งออกแล้วเสริมด้วยม้านั่งเหล็กจำนวน 3 แถว ส่วนตัวล็อกประตูหลังรถตู้พบว่าไม่มีความมั่นคง โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดหลายครั้ง พบว่าตัวล็อกทำงานไม่เสถียร เบื้องต้นทางขนส่งจังหวัด มีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ใช้รถรับส่งนักเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต ดัดแปลงที่นั่งรถรับส่งนักเรียนไม่ถูกต้องที่จดทะเบียนไว้ และข้อหาอุปกรณ์ส่วนควบที่ใช้ล็อกประตุรถด้านท้ายไม่สมบูรณ์ โดยได้ทำการเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ของกรมการขนส่งทางบก เป็นเงินรวม 4,000 บาท และสั่งให้นายจักรพงศ์ ไปแก้ไขรถยนต์ให้ถูกต้องตามกฎหมายและให้ไปขออนุญาตใช้รับส่งรถนักเรียนให้ถูกต้องต่อไป


ด้าน พันตำรวจโท เอกวิทย์ เกิดศิริ รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า ได้มีการติดตามหมายเลขทะเบียนรถที่ปรากฏ พบผู้ถือกรรมสิทธิ์และผู้ครอบครองรถเป็นคนเดียวกันคือนายจักรพงศ์ ชาวตำบลนาทราย อ.เมืองนครศรีธรรมราช ตำรวจได้เรียกตัวมาทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1 พันบาท ในความผิดฐานใช้รถยนต์ผิดประเภท และข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ปรับ 1 พันบาท โดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลพบว่า นายจักรพงศ์ได้ใช้รถคันนี้รับแจ้งจากผู้ปกครองรับส่งนักเรียนเป็นรายเดือน


ส่วนเด็กที่ประสบเหตุเป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านทวดทอง ห่างจากจุดเกิดเหตุไปอีกราว 2 กิโลเมตร ขณะเกิดเหตุอยู่ในอาการตกใจ โดยได้ให้ผู้ปกครองนำตัวไปตรวจร่างกายบาดเจ็บเล็กน้อยปลอดภัยแล้ว หากพบว่าเด็กมีอาการบาดเจ็บจะถูกดำเนินคดีอีก ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บอีกข้อหา ซึ่งคดีอาญาจะต้องรอผู้ปกครองของเด็กมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในภายหลัง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/YBYiN-fiT0U