คลินิกเจาะแก้มทำลักยิ้ม เลือดไหลไม่หยุด ผ่านมา 2 เดือน ยังบวม เส้นเลือดแดงกระพุ้งแก้มฉีกขาด

อุทาหรณ์สาวอยากมีลักยิ้ม เห็นโปรโมชัน ราคา 2,300 บาท คลินิกเจาะแก้มเลือดไหลไม่หยุด ผ่านมา 2 เดือน แก้มยังมีอาการบวม ยังมีเลือดไหลอย่างต่อเนื่อง แก้มยังมีอาการบวม ยังมีเลือดไหลอย่างต่อเนื่องจนต้องเข้ารพ. พบว่า เส้นเลือดแดงบริเวณกระพุ้งแก้มฉีกขาด

ผู้เสียหาย อายุ 41 ปี เล่าว่าระหว่างเล่นติ๊กต็อก เห็นโปรโมชั่นลดราคา ทำแก้มลักยิ้มของคลินิกแห่งหนึ่งย่าน ม.ราม 2 ในราคา 2,300 บาท เธอจึงตัดสินใจเข้ารับบริการ ทำแก้มลักยิ้มในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. จากนั้นจึงตกลงกับคุณหมดทำแก้มลักยิ้ม 2 ข้าง ข้างซ้ายผ่านไปด้วยดี พอข้างขวารู้สึกผิดปกติ และพบว่ามีเลือดไหลออกจำนวนมาก แต่หมอยืนยันว่าไม่มีอะไร ยังปกติ หมอก็ยังผ่าตัดต่อจนเสร็จประมาณสี่ทุ่มเดินทางกลับบ้าน

ตลอดเวลาที่อยู่บ้านยังมีเลือดไหลทุกวัน จึงถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งวันที่ 14 ธันวาคม 2567 มีเลือดพุ่งออกมากกว่าปกติ จึงกลับไปที่คลินิกอีกครั้ง หมอตรวจดูและยืนยันว่ายังปกติอยู่ แต่ต่อมา 17 ธันวาคม 2567 ไปพบหมอที่คลินิกเพื่อตัดไหมในปาก แต่ในวันนั้นก็ยังมีเลือดไหลอยู่ จึงบอกหมอว่า ตรงแผลเลือดยังไหลอยู่ หมอตรวจแผลอีกครั้ง และเย็บแผลให้ใหม่ เมื่อกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ทุกวันก็ยังมีเลือดออกจากแผลอยู่ ออกเยอะบ้างน้อยบ้าง

จนวันที่ 28 ธันวาคม2567 กลับไปที่คลินิก เพื่อตัดไหมด้านนอก พร้อมแจ้งหมอเหมือนเดิม ว่ายังมีเลือดไหลออกทุกวัน หมอเลยนัดตรวจละเอียดอีกครั้ง ในวันที่ 3 มกราคม 2568 ซึ่งหมอยังยืนยันว่าแผลปกติ พร้อมนัดให้มาตัดไหมด้านนอก

ทำให้คุณเอรู้สึกไม่สบายใจ จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เพราะในปากยังมีเลือดไหลตลอดเวลา ยังไม่สามารถทำงานได้ และเครียดจนคิดอยากจะฆ่าตัวตาย

แต่ยังพบว่าในปากยังมีเลือดไหลอยู่จนรู้สึกไม่สบายใจและกังวลเลยปรึกษาและแจ้งเรื่องร้องเรียน จนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ได้รับการประสานกับโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี เพื่อเข้ารับการรักษาและวันที่ 17 กุมภาพันธ์เวลาประมาณ 02.00 น.ได้ทำการผ่าตัดเพื่อต่อเส้นเลือดแดงที่ขาดให้ โดยรวมอาการตอนนี้เริ่มดีขึ้น

ทั้งนี้ ผู้เสียหายเล่าว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สภาพจิตใจเธอย่ำแย่ไม่สามารถทำงานได้จนเคยคิดจะฆ่าตัวตายและรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมมองว่าแพทย์ที่ทำศัลยกรรมไม่ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับเธอและทำผิดพลาดจนอาจทำให้เธอต้องเสียชีวิต

ด้าน นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในเบื้องต้นนั้นผู้เสียหายรายนี้จะเป็นผู้ป่วยตามสิทธิ์ประกันสังคมแต่ลักษณะอาการถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤตจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนจึงได้ประสานโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขรับตัวเข้ารักษาโดยในวันนี้ช่วงบ่ายจะลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกที่ผู้เสียหายร้องเรียน