ไฟป่าลามไหม้ไร่อ้อย เผากองใบอ้อยวอด ชาวบ้านกังวลแต่แอบมีความสุข เหตุช่วยลดต้นทุน

ไฟป่าลุกไหม้ลามถึงพื้นที่ไร่อ้อยที่ตัดอ้อยแล้ว ไหม้กองใบอ้อยที่ทับถมเป็นจำนวนหลายร้อยไร่ ชาวบ้านกังวลถูกกล่าวหาเป็นมือเผา แต่แอบมีความสุข เพราะง่ายต่อการวางสายยางรดน้ำ-หว่านปุ๋ย ลดต้นทุนได้บ้าง

นางพัชรี ชาวบ้าน อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ กล่าวถึงกรณีที่เกิดไฟไหม้ไร่อ้อยที่ตัดแล้วว่า เกิดจากไฟป่าที่ลามลงมาจากเทือกเขาพังเหย และไหม้ไร่อ้อยของชาวบ้านที่ตัดขายแล้ว รวมทั้งไร่อ้อยของเธอด้วย ส่วนตัวรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลัวว่าตัวเองจะถูกดำเนินคดี อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นคนลงมือเผาแล้วโยนความผิดให้กับไฟป่า ซึ่งขอยืนยันว่าขณะเกิดไฟไหม้ไร่อ้อยนั้นเธอนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน หลังรู้ข่าวจากเพื่อนบ้าน และได้ยินเสียงรถดับเพลิงวิ่งผ่าน จึงได้ติดตามออกมาดู ก็ปรากฏว่าไฟไหม้ขยายวงกว้างกินพื้นที่ไร่อ้อยหลายร้อยไร่แล้ว เธอพยายามที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ดับไฟ เท่าที่แรงตัวเองมีอยู่ แต่ก็ไม่สามารถดับได้ จนไร่อ้อยของเธอถูกไฟไหม้ทั้งหมด แต่โชคดีที่ไร่อ้อยของเธอและเพื่อนบ้าน ตัดอ้อยออกไปขายหมดแล้ว ซึ่งการไหม้ครั้งนี้ก็ถือเป็นผลดีต่อชาวไร่อ้อย เนื่องจากใบอ้อยที่ตัดแล้วถูกทับถมหนาหลายชั้น ส่งผลต่อการวางท่อน้ำเพื่อใช้รดน้ำต่ออ้อย อีกทั้งยังง่ายต่อการหว่านปุ๋ยด้วย เพราะหากใบอ้อยยังหนา ก็จะเป็นอุปสรรค์อย่างมาก ในความทุกข์ที่ไฟไหม้ป่าลามไร่อ้อย ก็ยังแอบมีความสุขเล็กๆ ที่ทำให้ชาวไร่อ้อยลดต้นทุนบ้าง

นายโกณธัญญะ ช่อมะลิ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคูเมือง เล่าว่า หลังจากทราบว่ามีจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่ของตนเอง ก็สั่งระดมเจ้าหน้าที่ออกมาทำการดับไฟทันที แต่เนื่องจากพื้นที่เกิดไฟไหม้อยู่ห่างไกลจากถนนสายหลักมากจึงต้องใช้เวลาพอสมควร เมื่อเดินทางมาถึงปรากฏว่าไฟได้เผาไหม้ไร่อ้อยเป็นบริเวณกว้าง ใช้เวลาในการดับไฟนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมได้ แต่การไหม้ครั้งนี้เป็นการไหม้ใบอ้อยที่ตกค้างในไร่อ้อย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดไฟไหม้นั้น ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจและเก็บหลักฐาน เพื่อหาข้อเท็จจริง หากพบว่ามีผู้กระทำผิดก็จะดำเนินคดีทันที