จับแม่เล้าวัย 16 จัดหาเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ค้าประเวณี

จับแม่เล้าวัย 16 ติดต่อประสานเด็กเอ็นวี อายุต่ำกว่า 15 ปี ให้ค้าประเวณี ผ่านช่องทางออนไลน์ ก่อนนำตัวส่งให้ลูกค้าตามโรงแรม ตำรวจแฝงตัวเป็นลูกค้าก่อนรวบตัวดำเนินคดี ส่วนเด็กหญิงได้รับการช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 3 ก.พ. 68 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภาค 5 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ 5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวเด็กเยาวชนอายุ 16 ปี ทำตัวเป็นแม่เล้า จัดหาเด็กอายุ ต่ำกว่า 15 ปี เด็กเอ็น ในลักษณะของเด็ก “เอ็นวี” (มาจาก Entertain+Vip ซึ่งหมายถึง การดูแลลูกค้าและจบที่การมีเพศสัมพันธ์)

พฤติการณ์คือ เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ในส่วนศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนาม พบว่า มีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย ผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความโฆษณาในลักษณะมีการรับงานเอ็นวี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันวางแผนเพื่อจับกุม ร่วมกับทีมสหวิชาชีพจังหวัดเชียงใหม่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธิโซเออินเตอร์เนชั่นแนล มูลนิธิ Exodus Road โดยให้สายลับเป็นผู้ติดต่อไปยังบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวเพื่อติดต่อขอซื้อประเวณีเด็ก

ต่อมาเมื่อในวันที่ 31 ม.ค. 2568 ช่วงเวลา 17.00 น. ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้ติดต่อกลับ มายังสายลับว่าสามารถหาหญิงสาวมาออกงานค้าประเวณีได้ ในราคาคนละ 3,500 บาท พร้อมกับได้ส่งรูปภาพ ของหญิงสาวมาให้สายลับเลือกดูจำนวน 3 คน ซึ่งยืนยันว่าเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ทราบรายละเอียดแล้ว จึงได้วางแผนให้สายลับเป็นผู้นัดหมาย ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ให้ไปส่งหญิงสาวจำนวน 3 คน ตามที่ตกลงกัน ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในตำบลสันกลาง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ลงบันทึกประจำวัน เลขธนบัตรที่ใช้สำหรับ เป็นเงินล่อซื้อบริการไว้เป็นหลักฐานไว้แล้ว

จากนั้นได้ส่งมอบให้กับ สายลับเพื่อใช้ในการล่อซื้อในครั้งนี้ เมื่อสายลับเดินทางไปถึงสถานที่นัดหมายดังกล่าวได้เปิดห้องพัก 3 ห้อง แจ้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ให้ทราบว่า นัดหมายกับหญิงบริการรวมผู้ติดต่อทั้ง 4 คนมาพบในโรงแรมดังกล่าว จนกระทั่งในเวลาประมาณ 21.30 น.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้วางกำลังซุ่มอยู่บริเวณใกล้กับจุดนัดหมาย สามารถสังเกตบุคคลเข้าออกได้อย่างชัดเจน และพบว่ามีหญิงสาวขับขี่รถจักรยานยนต์มีผู้ซ้อนท้ายมาประมาณ 3 คน เลี้ยวเข้าไปโรงแรมและแยกย้ายกันเข้าไปตามห้องที่มีสายลับนั่งรออยู่ทั้ง 3 จากนั้นสายลับได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมให้ทราบ และส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมให้เข้ามา จับกุมพร้อมเงินของกลาง

เบื้องต้นสอบถาม นางสาว ว. ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากสายลับ โดยจะติดต่อผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กในช่องแชทส่วนตัว ซึ่งนางสาว ว. ตกลงกับเพื่อนที่มารับงานว่า เมื่อให้บริการทางเพศเรียบร้อยแล้ว นางสาว ว. จะได้รับเงิน ค่านายหน้าจากเด็กหญิงสาวที่มารับงานทั้ง 3 คน คนละ 500 บาท เป็นเงินสด จำนวน 1,500 บาท

จากการตรวจค้นภายในห้องพักดังกล่าว พบถุงยางอนามัย เตรียมพร้อมที่จะใช้งาน จำนวน 3 ชิ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิ และจับกุมตัว นางสาว ว. พร้อมนำตัวมาทำบันทึกจับกุมที่ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ตำรวจภูธรภาค 5 ในชั้นจับกุมผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นจึงตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ส่วนเด็กหญิงทั้ง 3 คน ได้ดำเนินการตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ มีการสัมภาษณ์คัดกรอง คัดแยก โดยทีมสหวิชาชีพจังหวัดเชียงใหม่ และมีมติว่า เด็กหญิงทั้ง 3 คน เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ รูปแบบการค้า ประเวณีเด็ก ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปใช้กินใช้เที่ยว ซึ่งทั้งหมดไม่ได้เรียนหนังสือ จึงได้ส่งตัวเด็กหญิงทั้ง 3 คน เข้ารับการคุ้มครองตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์สถานคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอความร่วมมือผู้ปกครองและพี่น้องประชาชน ที่มีลูกหลานอยู่ในช่วงวัย 12-18 ปี ให้สอดส่องดูแลพฤติกรรมของบุตรหลานในการระมัดระวังการใช้สื่อสังคมออนไลน์การเข้าถึงสื่อหรือข้อความ  ที่ไม่เหมาะสม และดูแลเด็กอายุต่ำกว่า  18 ปี ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำผิด มีการสมัครใจค้าประเวณีเด็ก และใช้ช่องทางโซเชียลเป็นช่องทางในการติดต่อซื้อขายประเวณี  และเตือนไปยังผู้ซื้อประเวณีเด็กก็ต้องรับโทษสูง และถือว่ากรณีดังกล่าวเป็นกรณีการค้ามนุษย์รูปแบบการค้าประเวณี ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 5 มีนโยบายที่จะดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาด