สังคม

ไฟไหม้โรงงานรีไซเคิล สมุทรสาคร เจ้าของเป็นคนจีน ลักลอบประกอบกิจการบนพื้นที่สีเขียว

โดย passamon_a

30 ม.ค. 2568

99 views

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 เวลาประมาณ 11.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัทเถิงฟา พลาสติก แอนด์ เมทเทิล ซึ่งเป็นโรงงานรีไซเคิลพลาสติก ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เป็นอาคารชั้นเดียวที่มีลานกว้างสำหรับกองวัสดุประเภทยางและเปลือกสายไฟจำนวนมาก เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ เพลิงกำลังลุกไหม้อาคารที่เป็นโกดังเก็บพลาสติก เศษพลาสติกและเศษวัสดุอื่น ๆ ที่เตรียมนำมารีไซเคิล จำนวน 8 โกดัง รวมทั้งไหม้กองวัสดุที่อยู่บริเวณลานด้านนอกอย่างรุนแรง


ตำรวจ สภ.บ้านแพ้ว จึงประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลหลักห้า และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน มาฉีดน้ำสกัดเพลิง ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด นอกจากนี้ยังพบว่า โครงสร้างของโกดัง ทรุดตัวลงมาแล้ว 2 โกดัง  


นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อม นายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี นายอำเภอบ้านแพ้ว และปภ.จังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่เกิดเหตุ จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า โรงงานแห่งนี้เจ้าของเป็นชาวจีน นำสายไฟเก่าจากประเทศจีนเข้ามาปลอกเปลือกนำทองแดงและยางหุ้มเปลือกสายไฟไปทำเม็ดพลาสติก ขณะที่เกิดเหตุไม่มีคนงานมาทำงาน เพราะหยุดวันตรุษจีน แต่ช่วงที่เกิดเพลิงไหม้ มีคนงานที่อาศัยอยู่ภายในโรงงานหรือใกล้โรงงาน ออกมาช่วยกันดับไฟ แต่เพลิงก็ยังลุกลามไปยังกองสายไฟและเปลือกสายไฟที่มีจำนวนนับพันตัน อีกทั้งแหล่งน้ำก็ไม่เพียงพอ จึงทำได้แค่ควบคุมเพลิงในวงจำกัดและฉีดน้ำหล่อเลี้ยง รวมทั้งใช้รถแบคโฮเข้าไปเกลี่ยกองวัสดุ เพื่อฉีดน้ำเข้าไป คาดว่าอีกหลายชั่วโมงกว่าเพลิงจะสงบ


นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ระบุว่า เศษพลาสติกและปลอกสายไฟ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ลุกลามเร็วและดับยาก แต่ยังดีที่โรงงานมีคันคูน้ำอยู่โดยรอบ ทำให้ไฟไม่ลุกลามออกไปภายนอก ภารกิจของเจ้าหน้าที่ขณะนี้ คือเร่งฉีดน้ำดับไฟให้มอดสนิทให้เร็วที่สุด เพราะไม่อยากให้เกิดควันจากการเผาไหม้ แต่อุปสรรคคือ แหล่งน้ำที่จะใช้ดับเพลิง เพราะระดมรถดับเพลิงมาหลายคัน ทำให้น้ำไม่เพียงพอ จึงต้องประสานรถบรรทุกน้ำจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุน


ส่วนผลกระทบกับประชาชนในละแวกใกล้เคียง ได้ประสานสาธารณสุขจังหวัดเข้ามาตรวจสอบและดูแลประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากควันที่เกิดจากการเผาไหม้พลาสติก รวมทั้งอาจเกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมด้วย โดยหลังจากควบคุมเพลิงได้แล้ว จะสั่งให้ตรวจสอบโรงงานดังกล่าวทันที ว่าได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และเกิดเพลิงไหม้ได้อย่างไร ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า โกดังนี้มีผู้ครอบครองเป็นคนไทย ขออนุญาตก่อสร้างเพื่อใช้เป็นที่เก็บของเท่านั้น แต่ต่อมามีนักลงทุนชาวจีนมาเช่าทำกิจการ โดยนำขยะพลาสติก เศษพลาสติกและเศษเหล็กอื่น ๆ มาเก็บไว้ในโกดัง รวมถึงนำเครื่องจักรที่ใช้ในการรีไซเคิล เช่น เครื่องบดอัด และรถโฟล์คลิฟท์ มาใช้ในการทำงาน


นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิศ อุตสาหกรรมจังหวัด ยืนยันผลการตรวจสอบเบื้องต้นว่า ที่เกิดเหตุขออนุญาตสร้างเป็นโกดังเก็บสินค้า แต่กลับมีเครื่องจักรหลายประเภท รวมประมาณ 75 แรงม้า เข้ามาทำงานด้วย ถือว่าเข้าข่ายเป็นโรงงานที่ต้องได้รับอนุญาตก่อน แต่กรณีนี้ไม่มีใบอนุญาตจึงเข้าข่ายละเมิด พ.รบ.โรงงานฯ นอกจากนี้ บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตผังเมืองสีเขียว ไม่สามารถออกใบอนุญาตโรงงานลักษณะนี้ได้ การลักลอบประกอบกิจการโรงงาน จึงมีโทษทั้งปรับและจำคุก


อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ยังระบุว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้มีหนังสือสอบถามไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัดสมุทรสาคร ขอให้ตรวจสอบว่าในพื้นที่รับผิดชอบ มีโรงงานที่ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ เพื่ออุตสาหกรรมจังหวัดจะเข้าไปดำเนินการตามกฎหมาย โดยสอบถามองค์กรปกครองท้องถิ่นทั้ง 39 แห่ง ซึ่งในท้องที่เกิดเหตุ ไม่ได้แจ้งผลการตรวจสอบ กระทั่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ในโรงงานนี้จึงพบข้อเท็จจริง ซึ่งจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด


https://youtu.be/uPRInXuwte8

คุณอาจสนใจ