สังคม
หวยอลเวง! 'ยายแหล่' รับโชค 6 ล้าน 'ผู้กองเข้ม' แจ้งจับ อ้างแค่ฝากลอตเตอรี่ไว้ ถ้าถูกรางวัลต้องแบ่งคนละครึ่ง
โดย passamon_a
22 ม.ค. 2568
138 views
จากกรณี ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ หรือ ผู้กองเข้ม อายุ 65 ปี ตำรวจตระเวนชายแดนเกษียณราชการ ซื้อลอตเตอรี่จำนวน 2 ใบ ถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 807779 งวดประจำวันที่ 17 มกราคม 2568 โดยก่อนออกผลรางวัล ผู้กองเข้มไปนั่งกินอาหารที่ร้านลาบก้อยยายแหล่ ในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม จ.นครพนม ของ นางบุญล้อม หรือ ยายแหล่ อายุ 68 ปี โดยยายแหล่กับผู้กองเข้มมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันดี ผู้กองเข้มจึงแบ่งลอตเตอรี่ให้ยายแหล่ไป 1 ใบ เพื่อใช้หนี้ค่าลาบก้อยที่เคยติดไว้ 120 บาท โดยหยอกล้อกันว่า จะแบ่งกันรวย
จนกระทั่งถูกรางวัลที่ 1 ต่างพากันดีใจ นำลอตเตอรี่คนละ 1 ใบ ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ธาตุพนม โดยไปกันคนละเที่ยว ห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมง และยังนำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม โดยไปขึ้นเงินกันคนละรอบ
แต่ภายหลัง ผู้กองเข้มอยากได้เงินส่วนแบ่งจากยายแหล่ โดยอ้างว่าลอตเตอรี่ใบดังกล่าวแค่ฝากไว้ ไม่ได้ให้เลย จากนั้นผู้กองเข้มก็ไปแจ้งความที่ สภ.ธาตุพนม กล่าวหายายแหล่ในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งยังไม่มีใครติดต่อยายแหล่ได้ ทราบเพียงว่ายายแหล่ไปหาลูกที่ต่างจังหวัด
ความคืบหน้าวันที่ 21 ม.ค.68 ผู้กองเข้ม นำลอตเตอรี่ 7 ใบ จากที่ซื้อทั้งหมด 9 ใบ มาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งที่ด้านหลังลอตเตอรี่เขียนชื่อสลักหลังไว้ พร้อมกับเปิดเผยว่า ตนซื้อลอตเตอรี่กับแม่ค้าเร่ที่ขี่รถจยย.มาขายให้ที่บ้านหนองหอย โดยซื้อทั้งหมด 9 ใบ รวมเป็นเงิน 900 บาท ในจำนวนนี้มีเลขชุด 2 ใบ หมายเลข 8077779 ด้วย ต่อมาวันที่ 17 ม.ค.68 เวลา 14.00 น. ก่อนการประกาศผลรางวัล ตนไปนั่งกินอาหารที่ร้านลาบก้อยยายแหล่ ยายแหล่ถามว่าตนได้เลขอะไรมาบ้าง ตนจึงบอกไปว่ามีเลขท้าย 79, 97 ยายแหล่บอกเลขสวยจัง แล้วก็ขอซื้อต่อจากตน 1 ใบ ตนบอกว่า “ไม่ต้องซื้อหรอก” แล้วก็หยิบลอตเตอรี่เลขชุด 2 ใบที่เย็บติดกัน ดึงให้ยายแหล่ไป 1 ใบ และพูดต่อว่า “ไม่ขาย แต่ฝากไว้ ถ้าถูกรางวัลก็แบ่งกันคนละครึ่ง”
พอ 17.00 น. ตนตรวจลอตเตอรี่ แล้วพบว่าถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 8077779 ตนจึงนำลอตเตอรี่ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ธาตุพนม ร้อยเวรที่รับแจ้งความบอกตนว่า เมื่อกี้มีผู้หญิงถูกรางวัลที่ 1 หมายเลขเดียวกัน มาแจ้งความเหมือนกัน ตนก็คิดว่าน่าจะเป็นยายแหล่แน่นอน จากนั้นตนและร้อยเวรก็นำลอตเตอรี่ใบที่ตนมี ไปขึ้นเงินที่ร้านทอง (6 ล้าน) ซึ่งก็ทราบในเวลาต่อมาว่า ยายแหล่ก็นำลอตเตอรี่อีกใบ ไปขึ้นเงินที่ร้านทองเช่นกัน (6 ล้าน)
ผู้กองเข้ม ยืนยันว่า ตนไม่ได้นำลอตเตอรี่ไปจ่ายหนี้ค่าลาบก้อยตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ แต่เป็นการฝากลอตเตอรี่ไว้ ถ้าถูกรางวัลก็ต้องแบ่งกันคนละครึ่ง คือ คนละ 3 ล้านบาท ซึ่งช่วงเช้าวันที่ 18 ม.ค. ตนกับเพื่อนไปหายายแหล่ที่ร้าน เพื่อขอแบ่งเงินรางวัล 3 ล้านบาท แต่ร้านปิด ไปที่บ้านก็ไม่เจอตัว ญาติบอกว่าไปหาลูกสาวที่ต่างจังหวัด จึงโทรศัพท์ไปหา ยายแหล่บอกว่า จะเอาเงินไปตั้งกองกฐิน 1 ล้าน และรับปากว่าจะแบ่งเงินให้ 2 ล้าน ตนก็ตกลงและนัดกันว่า จะมาจ่ายเงินให้ตนที่หน้าร้านทองในเวลา 9.00 น. (18 ม.ค.68) แต่ยายแหล่ก็ไม่มาตามนัด ตนจึงต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับยายแหล่ ซึ่งมีการนัดไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง ว่าให้ยายแหล่เอาเงินมาให้ตนที่หน้าร้านทองแห่งเดิม ในวันที่ 21 ม.ค. แล้วตนจะถอนแจ้งความ แต่ยายแหล่ก็ไม่มาตามนัดและติดต่อยายแหล่ไม่ได้อีก
ด้าน นายเกรียงไกร ศักดิ์ดี อายุ 68 ปี ที่ปรึกษา สว. เปิดเผยว่า ผู้กองเข้มมาปรึกษาตนว่า ฝากลอตเตอรี่ไว้กับยายแหล่ และถูกรางวัลที่ 1 พร้อมไหว้วานให้ตนไปช่วยไกล่เกลี่ยกับยายแหล่เพื่อแบ่งเงิน 3 ล้านบาท โดยยายแหล่ก็รับปากว่าจะแบ่งเงินให้ผู้กองเข้มแล้ว แต่กลับไม่มาตามนัด ไม่ทราบว่าหายตัวไปไหน
ผู้สื่อข่าวไปที่ร้านลาบก้อยยายแหล่ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งโขง พบว่าร้านปิด แต่มีญาติ ๆ นั่งอยู่ เมื่อสอบถามว่ายายแหล่ไปไหน ไปอยู่กับลูกสาวที่ต่างจังหวัดหรือไม่ ญาติ ๆ กลับบอกว่า ยายแหล่ไปเที่ยวอิตาลีแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า ในวันที่ยายแหล่และผู้กองเข้มมาขึ้นเงินรางวัล ทั้งสองคนต่างก็นำลอตเตอรี่มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน มากันคนละรอบกัน และยืนยันว่าไม่ได้ติดใจกัน เพราะเป็นการแบ่งลอตเตอรี่กันมาตั้งแต่ที่ยังไม่รู้ว่าถูกรางวัล เจ้าหน้าที่ก็ลงบันทึกประจำวันให้ เพื่อนำไปขึ้นเงินรางวัล แต่ภายหลังผู้กองเข้มมาแจ้งความยายแหล่ยักยอกทรัพย์ ทางตำรวจก็รับแจ้งความไว้สอบสวน เพราะเป็นการแจ้งความตามสิทธิ ส่วนจะผิดหรือถูกก็ว่ากันไปตามพยายหลักฐาน แต่จากการตรวจสอบข้อมูล มั่นใจว่าเป็นการให้โดยเสน่หา ส่วนจะมีการฟ้องร้องต่อสู้คดีกันอย่างไร ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ผู้สื่อข่าวไปสอบถาม ป้าสำลี อายุ 61 ปี เพื่อนสนิทของยายแหล่ บอกว่า รู้จักกับยายแหล่มาหลายสิบปี มีบ้านใกล้กัน ยายแหล่มีสามี มีลูก 2 คน แต่สามีเสียชีวิตไปแล้ว ยายแหล่จึงมาเช่าห้องจากตน เพื่อเปิดร้านขายลาบก้อย ตนสงสารและเห็นว่ารู้จักกันมานาน ก็ไม่เก็บค่าเช่า
ส่วนเรื่องลอตเตอรี่ ป้าสำลี บอกว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์วันที่ผู้กองเข้มเอาลอตเตอรี่มาให้ยายแหล่ เป็นการให้ด้วยความเต็มใจ ไม่ได้ฝากไว้ และยังมีการพูดหยอกล้อกันด้วยว่า แบ่งกันรวย ถ้าถูกรางวัลก็จะเอามาเป็นสินสอดแต่งงานกัน เพราะทั้งผู้กองเข้มและยายแหล่ ต่างคนต่างเป็นม่าย และสนิทสนมชอบพอกันมานาน หลังรู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 ก็ยังพูดคุยหยอกกันสนุกสนาน ไม่มีการทวงคืนกัน แต่ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ผู้กองเข้มถึงมาทวงเงิน และไปแจ้งความดำเนินคดีกับยายแหล่ ทั้งที่ให้กันด้วยความเต็มใจแท้ ๆ
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-shqPJLGTts
แท็กที่เกี่ยวข้อง หวยอลเวง ,ยายแหล่ ,ผู้กองเข้ม