สังคม
กทม.งัดมาตรการสู้ฝุ่นเพิ่ม หลังแดงเถือก เกินร้อยทุกเขต เผยไม่รู้สึกโดดเดี่ยว คนมองแก้ปัญหาฝ่ายเดียว
โดย passamon_a
22 ม.ค. 2568
506 views
ชัชชาติ งัดมาตรการสู้ฝุ่น สั่งรถบรรทุกไม่ลงทะเบียนกรีนลิสต์เข้าเมืองชั้นใน ส่วนมาตรการ WFH เป็นการขอความร่วมมือไม่ใช่บังคับ จ่อหาเครือข่ายเข้าร่วมมากขึ้น พร้อมชวนใช้รถสาธารณะ ยกตัวอย่างตัวเองปั่นจักรยานมาทำงาน เผยไม่รู้สึกโดดเดี่ยว คนมองแก้ปัญหาฝุ่นฝ่ายเดี่ยว วอนทุกคนช่วยกัน เชื่อตอนนี้มาถูกทางแล้ว ฝาก ปชช.อย่างเพิ่งหมดหวัง ปีสองปีเดี๋ยวดีขึ้น
ด้าน สมศักดิ์ ลงนามคำสั่งให้หน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ รับมือฝุ่น PM 2.5 พร้อมแจกมุ้งสู้ฝุ่น พื้นที่เสี่ยงสูง เตรียมเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า ให้หน่วยงานรัฐนำร่อง WFH หากพื้นที่ไหนค่าฝุ่นรุนแรง
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.68 เวลา 16.00 น. ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงยกระดับเพิ่มความเข้มข้นมาตรการสู้ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม. หลังพบว่าสถานการณ์ฝุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการพยากรณ์เราทราบว่า ช่วงนี้สัปดาห์นี้จะมีสภาวะการถ่ายเทอากาศที่ต่ำ โดยเฉพาะช่วงวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็น 2 วันที่เราประกาศ WFH ครั้งแรกของปี 2568 และสถานการณ์ฝุ่นจะหนาต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.68 นี้ และจะกลับมาดีอีกครั้งในช่วงวันเสาร์-วันอาทิตย์ โดยมีสาเหตุมาจากสภาวะอากาศกดและสภาพการจราจรใน กทม.หนาแน่น จากการปิดกั้นเส้นทางจราจรจากการทำรถไฟฟ้า และมีการเผาข้ามจังหวัด ในพื้นที่ข้างเคียง โดยเฉพาะ จ.นครนายกและปราจีนบุรี ซึ่งมีการเผาที่สูงต่อเนื่องคิดเป็นสองเท่าของปีที่แล้ว ทำให้การคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นทั้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมอุตุนิยมวิทยา น่าจะสูงขึ้นในช่วง 3 วันที่เหลือของสัปดาห์นี้
เบื้องต้นทาง กทม. มีการออกมาตรการ ห้ามรถบรรทุกที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีกรีนลิสต์ หรือบัญชีสีเขียว ที่เราได้ลงไว้ว่ารถคันไหนที่มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง-เปลี่ยนไส้กรอง เป็นรถบรรทุก EV เปลี่ยนเป็นเครื่องยูโรห้า หรือใช้เชื้อเพลิงเป็นก๊าซธรรมชาติ LNG ที่ได้ลงทะเบียนกับ กทม.ไว้ ซึ่งจะสามารถวิ่งเข้ามาในเขตวงแหวนชั้นใน และวงแหวนรัชดาภิเษกได้ แต่ถ้าหากรถบรรทุกคันไหนไม่ได้ลงทะเบียนกับเราไว้ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 30,000 คัน ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด ตั้งแต่เช้ามืด ของวันพฤหัส เวลา 00.01 น. จนถึงวันศุกร์ 23.59 น. เป็นการนำร่อง 2 วันดังกล่าว แต่มาตรการดังกล่าวไม่ได้ห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปทุกคัน สำหรับรถคันไหนที่ยังไม่ได้เข้าบัญชีกรีนลิสต์ สามารถเข้าร่วมบัญชีได้
และวันนี้ (22 ม.ค.68) ยังลงทะเบียนทัน โดยจะมีการตรวจจับรถที่ไม่ได้เข้าบัญชีกรีนลิสต์ด้วยกล้อง CCTV จำนวน 259 ตัวที่อยู่รอบวงแหวน ซึ่งจะตรวจจับทะเบียนรถด้วยระบบ AI ตลอด 24 ชม. ซึ่งช่วงต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา กทม.ได้มีการทดสอบระบบ และพบว่ามีรถบรรทุกที่ฝ่าฝืนเข้ามา 2,500 คันต่อวัน และเป็นรถที่อยู่ในกรีนลิสต์ประมาณ 400 คัน หรือประมาณ 18 ถึง 19% ของรถบรรทุก
ซึ่งหากตรวจได้ก็จะมีมาตรการส่งหลักฐานปรับ โดยมีโทษปรับเป็นเงิน 2,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากสืบต่อได้ว่ารถคันดังกล่าวไปให้บริการที่ไซด์งานไหนก็จะตามไปเอาเรื่องที่ไซด์งานนั้นด้วย โดยจะมีการตักเตือนว่ากล่าว และอาจจะยกระดับไปถึงให้ยุติการก่อสร้างชั่วคราวได้
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า ความจริงแล้วเราไม่อยากไปจับคน เราอยากสร้างแรงจูงใจ ให้รถเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ให้มีมาตรฐานดีขึ้น ถ้าหากเราไปบอกว่าห้ามทุกคันเข้าคงไม่มีใครไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือไส้กรอง แบบนี้จะทำให้รถทุกคันไม่สามารถเข้ามาได้ก็อาจกระทบเรื่องเศรษฐกิจ
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า อยากให้ช่วยกัน อย่างที่บอกว่าฝุ่นไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกือบ 100% ที่เราเจอเป็นฝุ่นที่เกิดจากคนทำขึ้น ทั้งการเผา ชีวมวลเผาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร จึงอยากขอความร่วมมือจังหวัดใกล้เคียงควบคุมการเผาด้วย ซึ่ง กทม.เองเราสั่งห้ามเผาเด็ดขาดแล้ว แต่ยังมีบางจุดที่มีเผาแล้วไฟไหม้ด้วย ซึ่ง กทม.เองเราพยายามเข้มงวดที่สุด และหากมีการเผาจะเข้าไปดำเนินการทันที
นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงการออกมาตรการ WFH ในช่วงผ่านมาว่า ปีที่แล้วมีคนร่วมมือ 60,000 คน ส่วนปีนี้ยอดล่าสุดคือหลักแสนคน แต่เรื่องการใช้รถใช้ถนนแล้วรถยังติด คงมีหลากหลายปัจจัยด้วย เช่น ปิดถนนสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฯลฯ ส่วนตัวมองว่าเราต้องช่วยกัน และเรื่องนี้เป็นเรื่องการขอความร่วมมือไม่ใช่การบังคับ
ในส่วนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครนั้น เรื่อง WFH ให้ผู้บริหารใช้ดุลยพินิจปิดโรงเรียนตามสถานการณ์ฝุ่นและเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของนักเรียน ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ประกาศคำสั่งปิดโรงเรียนเนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นแล้ว 21 โรงเรียน
ส่วนการขอความร่วมมือเรื่อง WFH จากนี้ ทาง กทม.คงต้องหาเครือข่ายเพิ่มขึ้น อย่างเช่นบริษัทเองเราก็อยากให้มาเข้าร่วมเยอะ ๆ สามารถแสดงความจำนงเข้ามาได้ ถ้าหากไม่สามารถ WFH ได้ ก็ขอความร่วมมือให้ใช้บริการสาธารณะเพิ่ม อย่างตัวเองก็พยายามใช้รถไฟฟ้าหรือปั่นจักรยานมาทำงาน
เมื่อถามว่า กทม. หากสถานการณ์วิกฤตสามารถใช้อำนาจสั่งหน่วยงานในสังกัด WFH ได้หรือไม่ นายชัชชาติ บอกว่า ตอนนี้ก็สั่งอยู่ แต่ในส่วนงานราชการอื่น ๆ เราไม่สามารถ ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปตามดุลยพินิจของแต่ละหน่วยงาน ส่วนที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอ ครม. สั่งให้ WFH นั้น ถือว่าเป็นเรื่องดี ต้องให้หน่วยงานกลางเป็นคนดำเนินการ และในการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น ก็มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง เช่น ให้สื่อสารกับประชนชนให้เข้าใจ
ส่วนที่ นายแพทย์มนูญ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าค่าฝุ่นที่ประเทศไทย ตอนนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและสุขภาพ หากเทียบกับประเทศจีนหรือประเทศอินเดียเป็นต้น นายชัชชาติ บอกว่า แต่ละที่และแต่ละประเทศอาจไม่เหมือนกัน แต่จากการที่ตนไปวิ่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พบว่ามีอาการระคายเคืองคอ ซึ่งแน่นอนว่าฝุ่นมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตและสุขภาพ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนระมัดระวัง และตนเองในฐานะที่เป็นผู้ว่าฯ ก็ต้องดูแล
ส่วนที่บอกว่า WFH ไม่คุ้มในเรื่องเศรษฐกิจนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า บางบริษัทอาจมีประสิทธิภาพด้วยซ้ำ ที่คนไม่ต้องออกมาติดอยู่ถนนเป็นเวลา 2 ชม. และข้อดีของการ WFH คือไม่ต้องออกมาเจอกับสภาวะนอกบ้าน เป็นการใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน
นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงร่าง พรบ.อากาศสะอาด ด้วยว่า อยากให้ร่างดังกล่าวนี้ให้อำนาจท้องถิ่นเต็มที่ในการสั่งการ ทั้งนี้ ขอย้ำว่า กทม.ต้องทำทุกวิถีทาง จะคิดในแง่ดีมากไม่ได้ ผู้ว่าฯ ต้องเตรียมและทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพราะคืองานของเรา
ผู้ว่าฯกทม. ยังบอกอีกว่า ไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นฝ่ายเดียว เพราะเป็นภารกิจของเรา เราต้องทำให้เต็มที่ แต่ต้องทำให้ดีขึ้นกว่านี้ ตัวเองพยายามคิดหาวิธีตลอด ว่ามาตรการไหนจะช่วยให้เข้มข้นขึ้นได้
“อย่าหมดหวังมันต้องดีขึ้น เชื่อดิ ในปี-สองปีนี้ วันนี้เรามาถูกทางแล้ว กทม.ต้องดีขึ้น” นายชัชชาติ กล่าว
ช่วงท้าย ผู้ว่าฯกทม. ยังกล่าวชื่นชมกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องมาตรการการเผาอ้อย และมีการสั่งปิดโรงงานรับอ้อยที่เผามานั้น ว่าอาจมีคนไม่เห็นด้วยแต่มองว่าเป็นวิธีที่ต้องใช้ยาแรง แสดงให้เห็นว่าเรื่องแบบนี้เรารับไม่ได้ เพราะการเผาเป็นทุกข์ของประชาชนส่วนใหญ่และผลประโยชน์อยู่แค่กับคนบางกลุ่มเท่านั้น ดังนั้นจะมองว่าต้องมีการใช้ยาแรงแบบนี้บ้าง
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/SFU2qoqCcY8
แท็กที่เกี่ยวข้อง กทม. ,ฝุ่นกทม. ,ชัชชาติสิทธิพันธุ์ ,มาตรการสู้ฝุ่น