สังคม

ปธ.สภาเทศบาล ไม่พอใจช่างพูด “บะได้ง่าว” เตะเสยดั้งหัก คาบ้านบ้านอดีต สจ.คนดัง

โดย nicharee_m

25 ธ.ค. 2567

746 views

ช่างซ่อมรถถูกประธานสภาของเทศบาลแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ เตะจนโพรงจมูกหักต้องเข้าผ่าตัดด่วน หลังไปซ่อมเครื่องปั่นไฟ ที่บ้านอดีต สจ.คนดัง ก่อนเจอด่าว่าซ่อมไม่เป็น แต่ช่างซ่อมสวนกลับว่า “ผมเป็นช่างผมบะได้ง่าว” หลังจากนั้นเจอเตะเสยเข้าที่ใบหน้าโดยไม่ทันตั้งตัวจนเลือดทำลักออกปากและจมูก ยันเอาเรื่องถึงที่สุด เพราะหลังก่อเหตุไม่มีใครมาแสดงความรับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 นางสาวเนาวรัตน์ อายุ 52 ปี นำภาพถ่ายของนายภูวรินทร์ อายุ 54 ปี พี่ชายในสภาพบอบช้ำจมูกเขียวช้ำ ปากแตก นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับพี่ชาย ที่ถูกประธานสภาเทศบาลแห่งหนึ่งทำร้ายร่างกายเตะเข้าที่ใบหน้าอย่างจังเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

นางสาวเนาวรัตน์เล่าเหตุการณ์ว่า จากการสอบถามพี่ชายเธอซึ่งเป็นช่างซ่อมรถบอกว่า วันเกิดเหตุนั้นทาง อดีต สจ.คนดังได้โทรศัพท์มาตามให้ไปช่วยซ่อมเครื่องปั่นไฟสำหรับเครื่องเสียง เนื่องจากกุญแจรถหักอยู่ในเบ้ากุญแจ ซึ่งขณะนี้พี่ชายเธอก็ได้นั่งทำและใช้ไขควงงัด เพื่อจะนำกุญแจ ซึ่งขณะนั้นมีคนอยู่ในบ้านนั้นหลายคนรวมทั้งตัวประธานสภาด้วย ซึ่งได้เดินมาดูพี่ชายเธองัดกุญแจ และบอกว่าทำแบบนี้รถจะไม่เสียเหรอ ซึ่งพี่ชายเธอก็บอกไปว่า “ผมก่อจะยะจะอี้แหละผมเป็นช่างผมบะได้ง่าว” ซึ่งคิดว่าคำนี้ทำให้ประธานสภา อาจจะโมโหแตะเสยจากด้านหลังเข้าบริเวณใบหน้าอย่างจัง

ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ใหญ่บ้าน 2 หมู่บ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ไม่มีใครกล้าห้ามเพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นไวมาก หลังจากนั้นพี่ชายตนเองก็ล้มลงสภาพใบหน้ามีเลือดไหลออกมาจากปากและจมูกจบอาบร่าง ซึ่งทุกคนก็ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นแต่ไม่ยอมให้กลับบ้านและไม่ยอมเรียกรถพยาบาล

หลัากนั้นพี่ชายตนเองเริ่มหายใจไม่ออกจึงได้มีการนำตัวไปส่งโรงพยาบาล โดยลูกชายของอดีต สจ.คนดัง นำตัวไปส่งโรงพยาบาล ก่อนที่หมอจะทำแผลให้และนัดไปผ่าตัดโพรงจมูกเมื่อวานนี้(24 ธันวาคม) แพทย์วินิจฉัยว่าต้องทำการผ่าตัดด่วนเนื่องจากพบว่าที่โพลงจมูกมีอาการบาดเจ็บ

เธอมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจ คนก่อเหตุเป็นถึงประธานสภา แต่ทำไมมาทำกับประชาชนตาดำๆ หาเช้ากินค่ำแบบนี้และไม่มีการมาขอโทษไม่มีแม้กระทั่งการมาเยี่ยมและเจรจาค่าเสียหายแต่อย่างใด ดังนั้นเธอจึงเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวและเตรียมแจ้งความเอาผิดกับประธานสภาคนดังกล่าวอย่างถึงที่สุด และจะไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะต้องการให้เป็นคดีตัวอย่างที่มีตำแหน่งเป็นถูกประธานสภากล้าก่อเหตุ ต่อหน้าคนหมู่บ้าน ซึ่งมีทั้งผู้ใหญ่บ้าน และอดีต สจ.อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ทำไมไม่มีใครช่วยพี่ชายเธอแม้แต่คนเดียว

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปหาประธานสภาคนที่ก่อเหตุ เพื่อจะสอบถามเรื่องดังกล่าวกลับได้คำตอบว่าผมไม่มีอะไรจะพูด ก่อนที่จะตัดสายทิ้งไป และไปดักรอที่ประชุมสภา หน้าห้องประชุมสภาแต่ก็ไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. นายภูวรินทร์ อายุ 54 ปี ได้ออกจากโรงพยาบาลหลังแพทย์ทำการผ่าตัดรักษา เดินทางมาที่ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ประธานสภาเทศบาล ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายตนเอง

พร้อมกับเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตอนแรกไม่ต้องการแจ้งความดำเนินแต่ทางครอบครัวกับการแนะนำของแพทย์บอกว่าควรจะแจ้งความดำเนินคดีเพราะเนื่องจากมีผลกับเรื่องของการักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะตามมาอีกเยอะ รวมถึงอาจจะกระทบกับเรื่องความเป็นอยู่และการรักษาต่อเนื่อง จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้

ก่อนหน้านี้ทางฝั่งของผู้ก่อเหตุก็แสดงความรับผิดชอบมาด้วยการมอบเงินให้ 5 พันบาท เพื่อไปรักษาพยาบาลในเบื้องต้น แต่ตอนนั้นตนเองไม่รู้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บมากกว่าที่คิดโดยมีบาดแผลฉีกขาดในบากเย็บหลายเข็ม โพลงจมูกหัก มีการการจมูกบวมหายใจไม่ถนัดต้องหารใจทางปากมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุจนถึงตอนนี้

ทางด้านตำรวจสภ.แม่ปิง ได้รับแจ้งความ และสอบปากคำผู้เสียหายในเบื้องต้น อาจจะมีการแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และจะต้องทำการส่งตัวเพื่อไปให้แพทย์นิติเวชตรวจร่างกายอีกครั้ง หากพบว่ามีการการบาดเจ็บที่สาหัสรุนแรง ก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเป็นข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  เชียงใหม่ ,ประธานสภาเทศบาล

คุณอาจสนใจ

Related News