ลูกสะใภ้โต้กลับ ไม่ได้วางยาพี่สาวและแม่ของสามี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

วันนี้ (20 ธ.ค.) ทางผู้สื่อข่าวได้ลงไปยังพื้นที่บ้านหนองชิมตำบลหนองชิมอำเภอแหลมสิงห์จังหวัดจันทบุรี ไปพบกับคุณหญิง ผู้ต้องสงสัยกรณีถูกร้องกับทางเพจสายไหมต้องรอด ว่าเป็นผู้วางยาแม่สามี และพี่สาวสามี จนเสียชีวิต

ส่วนแม่สามีรอด หลังจากที่มีข่าวออกไปช่วงเมื่อวาน (19 ธ.ค.) ที่ผ่านมา คุณหญิงได้ขอเปิดใจกับทางทีมข่าว ว่าสิ่งที่ทางแม่สามีไปร้องกับทางเพจสายไหมต้องรอดนั้นเป็นเรื่องไม่จริง จึงเล่าให้ฟังว่าวันที่เกิดเหตุวันที่ 12 พฤศจิกายน ตนเองและยายช่วยซึ่งเป็นแม่ของสามี พร้อมกับเพื่อนบ้านอีกสาม คนได้นำของทะเลจากบ้านข้ามฝั่งมาขายบริเวณตลาด ระหว่างทางยายช่วยได้บอกกับตนเองว่าขอตัดผม จึงได้จอดให้ตัดผมบริเวณในหมู่บ้าน ร้านที่ยายช่วยตัดประจำ

ตนเองได้นำของทะเลที่หามาได้ไปขายระหว่างรอ เมื่อขายของเสร็จก็กลับไปรับยายช่วยที่ร้านตัดผม ก่อนที่จะขับรถมาที่ร้านเจ๊เอ๋ ซึ่งเป็นร้านขายของที่ตนเองจะนำทองมาจำนำ แต่ระหว่างทางไม่ทราบว่ายายช่วยถอดทองตั้งแต่ตอนไหน แต่พอถึงร้านคุณหญิงได้รับทอง 1 บาท จากมือยายช่วยเอาลงไปที่ร้านเจ๊เอ๋เพื่อเอาไปจำนำในมูลค่า 35,000 บาท และได้จะมีการนัดไถ่ถอนช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ในปีหน้า ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ได้ถ่ายทองออกมา แต่ที่ไปออกข่าวนั้น บอกว่าตนเองได้ขโมยทองยายช่วย มันไม่เป็นความจริง

หลังจากที่จำนำทองเสร็จแล้ว ก็ได้ขับรถไปยังอำเภอขลุงเพื่อไปทานข้าว ระหว่างทางได้มีการแวะร้านสะดวกซื้อ เพื่อไปซื้อน้ำกินโดยเพื่อนบ้านที่ไปไปด้วยฝากตนเองซื้อชาเย็นส่วนใหญ่ช่วยก็เดินลงไปด้วยพร้อมเพื่อนบ้านอีกหนึ่งคนที่มาด้วยกันตนเองได้กดน้ำโอวัลตินให้ยายช่วยถือไปคิดเงินที่แคชเชียร์ก่อนตนเองตามขึ้นรถทีหลัง เนื่องจากรอแซนด์วิชอบร้อนจากพนักงาน ก่อนที่จะเดินทางไปตลาดขลุงก็ได้จอดทานข้าว ตนกับเพื่อนบ้านอีกสองคนได้ทานอาหารตามสั่งและยายช่วยได้ไปกินต้มเลือดหมูคนเดียวโดยตนเองให้ตังค์ไป 100 บาท

หลังจากนั้นก็ได้นำรถไปล้างใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะเดินทางกลับ และแวะซื้อของที่ตลาดนัดป้านา ก่อนถึงทางเข้ามาหมู่บ้าน โดยลงจากรถกันทั้งหมดและแยกย้ายกันซื้อของ ก่อนที่ยายช่วยจะเดินกลับมานั่งรอที่รถก่อน ส่วนตนและเพื่อนบ้านกลับมาก็เห็นยายช่วยนั่งรออยู่ในรถแต่เกิดความผิดปกติ ยายช่วยนั่งตัวแข็งมีกลิ่น เหมือนอุจจาระ ตนเองกับเพื่อนจึงรีบนำยายช่วยลงมาเอาน้ำล้างหน้าก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาลแหลมสิงห์

เมื่อไปถึงโรงพยาบาลทางแพทย์ได้มีการตรวจร่างกายและแจ้งว่าจะต้องนำส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าเพื่อรักษาตัวต่อ ก็ได้นำขึ้นรถและไปส่งยังโรงพยาบาลพระปกเกล้าในอำเภอเมือง โดยไม่มีลูกหลานของยายช่วยคนอื่นแต่อย่างใด จนจนหมอแจ้งกับทางตนเองและญาติที่ไปไม่ให้เฝ้าไข้ จึงได้เดินทางกลับพร้อมลูกของยายช่วยอีกสามคนที่ตามมาทีหลัง หลังจากนั้นจะยายช่วยก็รักษาตัวจนออกจากโรงพยาบาล

ในส่วนของประเด็นงานศพของนางสมหมาย พี่สาวของสาทีที่เสียชีวิตนั้น หลังจากเสียชีวิตแล้วไม่ได้ไปงานศพเป็นเพราะ ทางครอบครัวที่จัดงานญาติพี่น้องไม่อยากให้ทางตนและสามีไปร่วมงานเพราะไม่อยากให้ไปมีเรื่องราวใหญ่โตกันที่วัด ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตักเตือนไว้ว่าถ้าไปอาจจะเกิดเรื่องหรือเกิดปัญหา และได้ยินคนแถวนั้นพูดอีกว่าไม่อยากให้ไปเหยียบที่งานศพ ตนและสามีจึงได้ตัดสินใจไม่เดินทางไปร่วมงานศพทั้ง ๆ ที่มีการเตรียมตัวไปกราบศพแล้วด้วย

คุณหญิงและ คุณกร ผู้ที่ถูกกล่าวหา ยืนยันถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด พร้อมที่จะสู้และเปิดหน้าชนเพราะยันตัวเองมีพยานรู้เห็นเหตุการณ์เรื่องของยายช่วยทั้งหมด ทั้งเรื่องทอง เรื่องอาหารการกิน และการนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจกับสาธารณะ และยังฝากบอกกับทางผู้ที่ไปร้องนั้นว่าอยากให้พูดความจริงทั้งหมดเพราะที่ฟังมาไม่มีความจริงหลายเรื่องเลย