หนุ่ม-แฟนสาว โพสต์หางาน ถูกแก๊งคอลฯหลอกให้เปิดบัญชีม้า บังคับสแกนหน้าโอนเงิน

ผู้เสียหายร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังไปโพสต์หางาน แต่ถูกเอเยนต์หลอกให้ไปทำงานกาสิโนที่ปอยเปต แต่เมื่อไปถึงกลับถูกให้เปิดบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกักขัง ทำร้ายร่างกาย บังคับให้สแกนหน้าโอนเงิน ซ้ำร้ายแฟนสาวที่พยายามติดต่อหา ก็ถูกเอเยนต์ลวงไปข่มขืนด้วย


เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.67 ผู้เสียหาย อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม พร้อมแฟนสาว เดินทางไปร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากไปโพสต์หางานในเพจจัดหางานในเฟซบุ๊ก แล้วถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ชักชวนไปทำงานที่บ่อนกาสิโนที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยบอกว่าเป็นงานดี เงินดี ถูกกฎหมาย


ผู้เสียหาย เล่าว่า เขาตกงานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม จึงได้เข้าไปโพสต์หางานในเพจจัดหางานในเฟซบุ๊ก จากนั้นก็มีคนติดต่อเข้ามา ชักชวนไปทำงานบ่อนกาสิโนที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา บอกว่าเป็นงานถูกกฎหมาย ไปทำงานแค่ 4-5 วัน ทำหน้าที่แลกชิพ จะได้ค่าจ้าง 35,000-37,000 บาท และค่าเปิดบัญชีธนาคารอีก 4,000 บาท เดินทางฟรี มีที่พักฟรี และยังบอกให้ชวนเพื่อนมาด้วยกันด้วย ผู้เสียหายจึงตกลงไปทำงาน โดยได้เดินทางไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม


พอไปถึงก็พบว่า สถานที่ทำงานเป็นตึกแห่งหนึ่ง ด้านล่างเป็นกาสิโนเล็ก ๆ แต่ไม่เห็นว่ามีคนมาเล่นเลย ส่วนนายจ้างเป็นคนจีน ได้ยึดโทรศัพท์มือถือเขาไว้ และบอกให้เปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ อ้างว่าเอาไว้สำหรับแลกชิพเว็บพนันให้ลูกค้า แต่ปรากฏว่า ถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทุกครั้งที่หลอกเงินผู้เสียหายมาได้ ก็จะถูกบังคับให้มานั่งสแกนใบหน้าเพื่อถอนเงิน โอนเงิน หากไม่ทำจะถูกซ้อม ทุบตี ถูกช็อตไฟฟ้า


โดยในตึกดังกล่าว ลักษณะมีห้องหลายสิบห้อง ทุกห้องมีการ์ดคุม ซึ่งมีทั้งคนจีน คนกัมพูชา และคนไทย โดยมีคนไทยกว่าร้อยคนถูกหลอกไปเปิดบัญชีม้า และยังมีอีกหลายคนทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทุกวันจะต้องมานั่งสแกนหน้าตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึงเที่ยงคืน สแกนหน้ามากกว่า 70 ครั้ง เพื่อโอนเงินวนไปวนมาในกลุ่มบัญชีม้า ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินยากขึ้น ซึ่งคนที่ถูกหลอกไปจะถูกปล่อยตัวกลับมา ก็ต่อเมื่อบัญชีม้าของคนนั้นถูกอายัดแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้ และสุดท้ายก็ได้ค่าจ้างเพียงค่าเปิดบัญชี 4,000 บาท ไม่ได้ได้ค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ตอนแรก


โดยผู้เสียหายถูกปล่อยตัวกลับมา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม แต่แฟนสาวของผู้เสียหาย บอกว่า ก่อนที่จะถูกปล่อยกลับมา เธอและครอบครัวพยายามติดต่อไปหาผู้เสียหาย แต่ติดต่อไม่ได้ จนเธอไปค้นข้อมูลจนได้เบอร์โทรศัพท์ของเอเย่นต์ชาวไทยที่ชักชวนแฟนหนุ่มไปทำงาน จึงโทรไปถาม ก็มีผู้ชายรับสาย เมื่อเธอถามถึงแฟนว่าหายไปไหน เอเยนต์ก็บอกว่า ตอนนี้แฟนของเธอติดผู้หญิงอยู่ที่นครปฐม งานการไม่สนใจทำ ถ้าไม่เชื่อจะพาไปดู เธอจึงขอให้พาไปเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม แต่เมื่อไปถึงไม่พบแฟนหนุ่ม แต่กลับถูกชายคนดังกล่าวผลักเข้าไปในห้อง ก่อนข่มขืนและทำร้ายร่างกายเธอ และยังข่มขู่ว่าถ้าไปแจ้งความ จะฆ่าแฟนของเธอให้ตายที่ปอยเปต จนแฟนหนุ่มถูกปล่อยตัวกลับมา และทราบเรื่อง จึงเข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ


ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า ตอนนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการปรับรูปแบบในการหาบัญชีม้า จากเดิมที่จ้างให้เปิดบัญชี แต่เมื่อกฎหมายมีบทลงโทษกับบัญชีม้า จึงทำให้จ้างบัญชีมาได้ยากขึ้น เลยหาวิธีในการหลอกคนไทยที่หางานว่าจะพาไปทำงาน แต่ให้เปิดบัญชีม้าแทน เหมือนเป็นโรงงานผลิตบัญชีม้า ซึ่งหลังจากนี้จะประสานไปยังผู้กำกับการ สภ.กำแพงแสน เพื่อติดตามนายหน้าคนที่ชักชวนผู้เสียหายไปทำงาน และลวงแฟนสาวของผู้เสียหายไปล่วงละเมิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะพาผู้เสียหายไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอเข้ารับการคุ้มครองพยานด้วย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9UJZ51pksr8