ผู้กำกับทางหลวง ยอมรับตำรวจเรียกรับเงินจริง สั่งช่วยราชการแล้ว ด้านคนขับสิบล้อเปิดใจ ขับรถมา 20 ปี โดนมากกว่า 100 ครั้ง

นายนิรัญทรัพย์ คนขับรถ 10 ล้อ ที่อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงิน 100 บาท ตามคลิปที่ปรากฏ เปิดเผยกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนเองขับรถมาตามปกติ บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า เลยนวนคร จังหวัดปทุมธานี มาเล็กน้อย ก่อนขึ้นทางด่วนดินแดง โดยตำรวจทางหลวงได้ขับรถยนต์ตราโล่ห์ติดตามมา และส่งสัญญาณไฟให้จอดชิดซ้าย พอตนเองจอดข้างทางจึงลงจากรถ และไม่ได้พูดอะไรกัน เพราะพฤติกรรมลักษณะนี้เป็นที่รู้กันว่าจะต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 100 บาท ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ขับรถไล่ติดตาม แต่หากเจ้าหน้าที่ยืนอยู่กับที่และเรียกตรวจ ก็จะจ่ายประมาณ 20-40 บาท



ตนเองขับรถมานานกว่า 20 ปี จ่ายไปไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ปากช่อง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา โดยยอมรับว่า ในอดีตทุกครั้งที่ขับรถบรรทุกไม้ไผ่ ที่มีการปิดผ้าใบไม่มิดชิดก็จะต้องจ่ายเป็นประจำ แต่ปัจจุบันยอมรับว่าในพื้นที่ดังกล่าวการเรียกรับผลประโยชน์ลดน้อยลง แต่พบว่าในพื้นที่ปริมณฑลยังมีการเรียกรับอยู่เป็นจำนวนมาก



ส่วนกรณีที่ตนเองไปเป็นพยาน ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงปากช่องเรียกรับผลประโยชน์เมื่อปี 2564 ยืนยันว่าเป็นความจริง ส่วนผลทางคดีของ ป.ป.ช. ตนเองไม่ทราบเนื่องจากนายเกรียงไกร ได้นำข้อมูลและหลักฐานของตนไปยื่นให้กับ ป.ป.ช. ดำเนินการเอง



ส่วนกรณีหากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีการเชิญตนเองไปให้ข้อมูล หรือให้ปากคำ ก็ยินดีและพร้อมจะให้ความร่วมมือ แต่ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่หรือใครติดต่อเข้ามา


ขณะที่ พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผู้กำกับการกอง 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวผ่านทางโทรศัพท์ ยอมรับขณะนี้ทราบข้อมูลกรณี ที่มีประชาชนจ่ายค่าปรับให้ตำรวจทางหลวงแบบไม่ถูกระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้เสียหายจ่ายไป 100 บาท ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 ซึ่งขณะนี้ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้มีคำสั่งให้นายตำรวจทั้ง 2 นาย ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง ไม่มีกำหนดจนกว่าคณะกรรมการจะพิจารณาแล้วเสร็จ พร้อมกับยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทางผู้เสียหาย และตำรวจทั้ง 2 นาย โดยตำรวจทางหลวงจะมีการเชิญผู้เสียหายที่มีการจ่ายเงินไปในวันนั้นเข้าให้ปากคำ เพื่อที่จะได้ทราบถึงข้อเท็จจริง



สำหรับตำรวจหนึ่งในสองนายที่มีการเรียกรับ ยอมรับว่าเป็นตำรวจที่ถูกร้องเรียนมาอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีอาการป่วย และปัญหาสุขภาพ ทำให้ผู้บังคับบัญชาจำเป็นจะต้องใช้กำลังพลเสื่อมออกมาปฎิบัติหน้าที่ เนื่องจากกำลังพลในกองกำกับการไม่เพียงพอต่อภารกิจที่มีจำนวนมาก พร้อมกับยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็จะดำเนินการข้อเท็จจริง โดยไม่ละเว้นหากใครทำผิด ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะหลักฐานที่ปรากฏนั้นชัดเจนแต่ตามขั้นตอนของตำรวจ จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด



สำหรับผู้เสียหายรายดังกล่าวที่มีกระแสข่าวว่า ได้ดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวง ปากช่อง ซึ่งได้มีการส่งเรื่องให้ทาง ปปช.ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามีมูลและปปช.ได้เรียกให้มีการ เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหานั้นพ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ถ้ามีหลักฐานชัดก็จะถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน



ยืนยันว่าตำรวจทางหลวงได้มีการจับกุมตรวจค้นอย่างเข้มงวดกับผู้ที่กระทำความผิด โดยมีแนวคิดว่าจะต้องนำ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาสายเพื่อป้องกัน ไม่ให้ประชาชนกับตำรวจเกิดการปะทะกัน ซึ่งในพื้นที่อยุธยา อ่างทอง สระบุรี เป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่ทำให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาหวั่นไหวกับการเรียกรับผลประโยชน์เนื่องจากเส้นทางนั้นมีรถบรรทุกวิ่งผ่านเป็นจำนวนมาก