เอกชนมองแนวคิดขึ้น VAT 15% กระทบราคาสินค้าพุ่ง 15-20%

ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยถึงแนวคิดของรัฐบาลในการปรับและลดฐานภาษีครั้งใหญ่ของประเทศ ทั้งการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 15 โดยระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 คิดเป็นเม็ดเงินรายได้ภาษี 9.166 แสนล้านบาท ซึ่งหากเพิ่มเป็นร้อยละ 15 จะทำให้รายได้ภาษี VAT เป็น 1.964 ล้านล้านบาท เฉพาะเงินเพิ่มจากภาษี VAT เพิ่มขึ้นมากกว่าปีละหนึ่งล้านล้านบาท โดยเงินที่เพิ่มขึ้นสามารถนำมาโปะรายจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบประชานิยม ผลที่ตามมาราคาสินค้าจะแพงขึ้นแบบถ้วนหน้า เพราะสินค้าสำเร็จรูปรวมถึงบริการล้วนต้องผ่านกระบวนการโซ่อุปทานผลิตซ้ำหลายชั้น ซึ่งล้วนต้องเสียภาษี VAT ถึงแม้ว่าจะสามารถขอคืนภาษีได้ โดยประเมินว่าหากมีการขึ้น VAT จริงจะทำให้ราคาสินค้าปรับขึ้นร้อยละ 15-20



อย่างไรก็ตามมองว่า รัฐบาลสามารถทยอยปรับเพิ่ม VAT อย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อภาคเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันการเก็บ VAT อัตราร้อยละ 15 เป็นภาษีที่แพงเกินไป เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค



โดยมองว่าช่วงเวลานี้ที่สถานการณ์เศรษฐกิจไทยยังเปราะบาง ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมนักกับการปรับโครงสร้างภาษี เพราะอาจกลายเป็นการซ้ำเติมให้เศรษฐกิจไทยทรุดลงไปอีกได้